วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,780 1,750 แนวต้านที่ 1,800 1,830 ภาพกราฟราย day ราคาเป็นขาขึ้นโดยสามารถยืนอยู่บนเส้นค่าเฉลี่ย MA 10 ได้ดี ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ซึ่งบริเวณ 1,800 มีแนวต้านในอดีตหนาแน่น แนะนำรอเปิด Long ที่บริเวณแนวรับ 1,780/1,750 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,800/1,830

วิกฤตหนี้ของอิตาลีทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 8 พ.ย. อยู่ที่ 1,792.15 USDต่อออนซ์ ในระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,789.45 - 1,793.90 USD ต่อออนซ์ จากการอ่อนค่าของค่าเงินยูโร เนื่องมาจากตลาดจับตาดูการลงมติรับรองร่างก.ม.ปฏิรูปงบประมาณของอิตาลีในวันนี้ตรงกับประเทศไทยเวลา 21.00 น. ซึ่งถ้ารัฐสภาไม่ผ่านก.ม.นี้อาจทำให้นายเบอร์ลุสโคนีนายกรัฐมนตรีของอิตาลีอาจต้องลาออก ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ในขณะเดียวกันมีความวิตกว่า วิกฤติหนี้ยูโรโซนอาจลุกลามไปถึงอิตาลี การผิดนัดชำระหนี้ของอิตาลีจะเป็นความเสี่ยงต่อยูโรโซนที่รุนแรงมากกว่ากรีซ เนื่องจากอิตาลีมีหนี้สาธารณะ 1.9 ล้านล้านยูโร ซึ่งมีขนาดใหญ่เกินกว่าเงินกองทุน 4.4 แสนล้านยูโร ถึงแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านล้านยูโรแล้วก็ตาม ซึ่งราคาทองปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ย. หลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านใกล้บริเวณ 1,800 USDต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ โดยนักลงทุนรอผลของการลงมติรับรองก.ม.ปฏิรูปงบประมาณของอิตาลี จากความเสี่ยงของอิตาลีที่เพิ่มขึ้นจะสนับสนุนให้ราคาทองคำเป็นขาขึ้นต่อเนื่องในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง นอกจากนี้มีปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการของจีนและอินเดียที่เข้าสู่ช่วงเทศกาล รวมทั้งการเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR ยังคงซื้อต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น และมีค่าเป็นบวกมากขึ้น คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Side Way Up โดยราคาอาจมีการอ่อนตัวลงเมื่อถึงแนวต้านสำคัญที่ 1,800 ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่น่าติดตาม

รมว.คลังยูโรโซนระบุว่า ประเทศในยูโรโซนต้องการที่จะเตรียมการด้านกฏหมายและเทคนิคสำหรับการเพิ่มวงเงินของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) สู่ราว 1 ล้านล้านยูโรภายในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มใช้กองทุนดังกล่าวในเดือนธ.ค. โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับ 2 ทางเลือกสำหรับการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF จาก 4.40 แสนล้านยูโร ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผู้นำยูโรโซนในช่วงปลายเดือนต.ค. ทางเลือกแรก ได้แก่ การให้ EFSF ค้ำประกันบางส่วนในการออกพันธบัตรเพื่อลดความวิตกเกี่ยวกับสถานะสภาพคล่องของรัฐบาล, เพิ่มอุปสงค์ในการประมูลขั้นต้น และลดต้นทุนในการระดมทุนของประเทศต่างๆ ทางเลือกที่ 2 จะเป็นการจัดตั้งกองทุนการลงทุนร่วม (CIF) จำนวนหนึ่งกองหรือมากกว่า เพื่อดึงดูดเงินทุนของภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนกองทุน EFSF โดยกองทุน CIF จะเข้าซื้อพันธบัตรในตลาดแรกหรือตลาดรอง โดยการซื้อพันธบัตรในการประมูลตลาดแรกอาจทำให้รัฐบาลต่างๆมีเงินทุนสำหรับการเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคาร


ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มองว่าวิกฤติยูโรโซนจะสิ้นสุดลงในปีหน้า ขณะที่นักการเมืองเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องจัดการต่อวิกฤตการณ์ดังกล่าว โดยกล่าวว่าวิกฤติจะอยู่ภายใต้การควบคุมใน 1-2 ปีเป็นอย่างช้าที่สุดถ้าหากไม่สามารถเอาชนะวิกฤตการณ์ได้

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติของรัฐบาลกลางเยอรมนีบ่งชี้ว่า การส่งออกของเยอรมนีพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย. ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่การนำเข้าลดลง ทั้งนี้ยอดเกินดุลการค้าที่มีการปรับค่าตามฤดูกาลเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.53 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ย. จาก 1.38 หมื่นล้านยูโรในเดือนส.ค. และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ที่ 1.25 หมื่นล้านยูโร การส่งออกเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่ผลสำรวจคาดไว้ว่าจะลดลง 1.0% ส่วนการนำเข้าลดลง 0.8% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
1. อิตาลีมีการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อรับรองร่างกฏหมายปฏิรูปงบประมาณในวันที่ 8 พ.ย.ซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
2. โฆษกรัฐบาลกรีซเปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีจะประชุมฉุกเฉินในวันที่ 8 พ.ย.เวลา 17.00 น.ตามเวลาไทย (ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าประชุมในเรื่องใด
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,780 1,750 แนวต้านที่ 1,800 1,830 ภาพกราฟราย day ราคาเป็นขาขึ้นโดยสามารถยืนอยู่บนเส้นค่าเฉลี่ย MA 10 ได้ดี ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ซึ่งบริเวณ 1,800 มีแนวต้านในอดีตหนาแน่น แนะนำรอเปิด Long ที่บริเวณแนวรับ 1,780/1,750 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,800/1,830
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 32.5 31.5 แนวต้านที่ 35.5 36.5 ภาพกราฟราย 240 นาที ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 32.5 – 35.5 แนะนำ Trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น