วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

ราคาทองคำปิดลดลง 46.50 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,678.60 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดลดลงแรงจากปัจจัยทางเทคนิค และความกังวลในเรื่องหนี้สินของยุโรปและสหรัฐ

o ราคาทองคำปิดลดลง 46.50 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,667.10 – 1,727.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดลดลงแรง 2.70% เมื่อ Super Committee ออกแถลงการณ์ว่าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณลง มูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้าได้ก่อนกำหนดเส้นตายวันพุธนี้ และความกังวลในเรื่องหนี้สินของยุโรป เมื่อมูดีส์เตือนฝรั่งเศสว่าอาจถูกปรับลดอันดับเครดิต และธนาคารกลางเยอรมนีระบุในรายงานประจำเดือนพ.ย.ว่า เศรษฐกิจของประเทศอาจชะลอตัวจนเกือบหยุดนิ่งในปีหน้า เนื่องจากวิกฤตหนี้ในภูมิภาคส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกของเยอรมนี ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง และ USD แข็งค่าขึ้น นักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งทองคำเพื่อถือเงินสด โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับลดลง 2.11% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปลดลง 2 – 3% ราคาน้ำมันปรับลดลงอีก 0.77%

o ราคาทองคำปรับลดลงประมาณ 6% แล้วจาก 4 วันทำการที่ผ่านมา และราคาร่วงลงแรงอีกครั้งเมื่อวานนี้ เมื่อหลุดแนวรับ 1,710 – 1,700 ทำให้ลงมาปิดที่แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ที่ 1,678 และมีแนวรับถัดไปที่เส้นค่าเฉลี่ย 34 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,635 ถ้าดูกราฟในราย 60 นาทีมีแนวโน้ม rebound ขึ้นมาโดยมีแนวต้านบริเวณ 1,700 / 1,710 ในระยะสัปดาห์มีโอกาสปรับลดลงต่อที่บริเวณ 1,635 / 1,600 นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,665 – 1,710 ส่วนนักลงทุนระยะยาวทะยอยสะสมที่แนวรับบริเวณ 1,635

o ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำของราคาทองคำในเช้าวันนี้เคลื่อนไหวระหว่าง 1,666 – 1,682 USDต่อออนซ์ โดยมีแนวรับในระดับวันบริเวณ 1,666 / 1,640 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,700 / 1,710 คำแนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,640 – 1,710 เมื่อวันศุกร์กองทุน SPDR ขายทองคำออก 1.82 ตัน

o ปัจจัยลบที่กดดันราคาทองคำในช่วงนี้ คือ การแข็งค่าของเงิน USD และการขาดสภาพคล่องของประเทศในยูโรโซน ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ การคาดการณ์ว่าสหรัฐ อังกฤษ และธนาคารกลางยุโรปจะเพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน เช่น การใช้มาตรการ QE ส่วนปัญหาวิกฤตหนี้ของยูโรโซน และการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำของสหรัฐยังเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวสำหรับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนในระยะสั้นการแข็งค่าของเงิน USD ทีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับ อาจลงมาที่ระดับ 1,635 / 1,600

o ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ตัวเลข GDP ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2011 วันพุธ รายได้ส่วนบุคคลเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ย. วันพฤหัสและวันศุกร์ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ เนื่องจากหน่วยงานราชการปิด เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

o ราคาโลหะเงินปิดลดลง 1.30 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 31.12 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 30.65 – 32.42 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,715.63 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 32.5/ 33.0 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 30.5/29.80 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 29.80 – 33.0 USDต่อออนซ์

o SPDR ขายทองคำออก 1.82 ตันถือทองคำจำนวน 1,291.27 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,640 – 1,710 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,640 – 1,710
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,600 - 1950 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น