วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,700 1,680 แนวต้านที่ 1,725 1,740 ภาพกราฟราย 240 นาที มีแรงขายบริเวณ 1,715 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 75 (MA75) แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,700 1,680 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,725 1,740

รอผลประชุมแก้ไขหนี้ของยูโรโซน

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 29 พ.ย. อยู่ที่ 1,708.7 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,703 – 1,714 USD ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ เนื่องมาจากรอผลประชุมของ รมว.คลังยูโรโซนในการแก้ไขวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่จะประชุมกันในวันนี้ (29 พ.ย.) เพื่อที่จะอนุมัติข้อตกลงสำหรับการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จากของเดิมจำนวน 4 แสนล้านยูโร เพื่อช่วยป้องกันการลุกลามของปัญหาในตลาดพันธบัตร รวมถึงการจะเบิกจ่ายเงินกู้ช่วยเหลือแก่กรีซจำนวน 8 พันล้านยูโรด้วย ซึ่งการประชุมนี้จัดขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ซึ่งนักลงทุนมองว่าการประชุมวันที่ 9 ธ.ค. อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหลีกเลี่ยงการล่มสลายของ เขตยูโรโซน หากผลการประชุมในวันนี้สามารถช่วยแก้ไขวิกฤตหนี้ของยูโรโซนได้ ก็จะช่วยส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวล ซึ่งจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งตลาดหุ้น น้ำมัน รวมถึงทองคำก็จะได้รับผลดีด้วยเช่นกัน ส่วนความวิตกของยูโรโซนจะปะทุขึ้นมาใหม่ หากการประมูลพันธบัตรของหลายประเทศ อาทิ อิตาลี และสเปน ในสัปดาห์นี้ประสบความล้มเหลว หรือมีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ก็จะส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น น้ำมัน รวมถึงทองคำด้วยเช่นกัน และหันเข้าไปถือครองเงินดอลล่าร์แทน ดังนั้นคาดว่าราคาทองคำหากยืนเหนือ 1,700 – 1,705 ได้ยังเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนประเด็นที่ควรติดตาม ได้แก่

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยในวันนี้ว่า มูดี้ส์อาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคาร 87 แห่งในประเทศยุโรป 15 ประเทศ เนื่องจากกังวลว่ารัฐบาลอาจประสบภาวะขาดแคลนสภาพคล่องจนไม่สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ถือครองตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงของธนาคารได้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียด ธนาคารส่วนใหญ่ที่ถูกพิจารณาทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้อยู่ในสเปน, อิตาลี, ออสเตรีย และฝรั่งเศส ส่วนประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ได้แก่ ออสเตรีย (ธนาคาร 9 แห่ง), เบลเยียม (3), ไซปรัส (2),ฟินแลนด์ (3), ฝรั่งเศส (7), อิตาลี (17), ลักเซมเบิร์ก (3), เนเธอร์แลนด์(6), นอรเวย์ (5), โปแลนด์ (1), โปรตุเกส (2), สโลเวเนีย (2),สเปน (21), สวีเดน (4) และสวิตเซอร์แลนด์ (2) โดยการทบทวนดังกล่าวอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลง 2 ขั้นโดยเฉลี่ย และการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิชั้นรองและชั้นที่ 3 ลง 1 ขั้น

ฟิทช์ เรทติงส์ให้เวลาสหรัฐจนถึงปี 2013 เพื่อวาง "แผนการที่น่าเชื่อถือ" ในการจัดการกับยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมากของประเทศมิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA "แนวโน้มเชิงลบสะท้อนความเชื่อมั่นที่ลดลงของฟิทช์ที่ว่า สหรัฐจะมีมาตรการทางการคลังออกมาในไม่ช้าที่เหมาะสมกับเวลาซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการรักษาฐานะการคลังของสหรัฐให้มีความยั่งยืน และรักษาอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA" ฟิทช์ระบุ พร้อมเสริมว่า โอกาสที่จะมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐมีมากกว่า 50% โดยได้ทบทวนปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" หลังจากคณะกรรมการพิเศษของสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการลดยอดขาดดุลมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ความล้มเหลวดังกล่าวทำให้สหรัฐไม่สามารถปฏิบัติตามแผนการลดยอดขาดดุลในปีหน้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระทางการคลังต่อฝ่ายบริหารชุดใหม่ที่จะเข้ามาหลังการเลือกตั้งในปลายปีหน้า

ประธานาธิบดีสหรัฐได้กดดันเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู)เมื่อวานนี้ ( 28 พ.ย.) ให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและเฉียบขาดในการคลี่คลายวิกฤติหนี้โดยทำเนียบขาวระบุว่าวิกฤติดังกล่าวกดดันเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในขณะนี้ แนวปฏิบัติของ EFSF จะเปิดโอกาสให้ EFSF ซึ่งมีวงเงิน 4.40 แสนล้านยูโรสามารถดึงดูดเงินสดจากนักลงทุนในภาครัฐและเอกชนเข้าสู่กองทุนการลงทุนร่วมของ EFSF ได้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งถ้าหากโครงการเหล่านี้สามารถดึงดูดเงินลงทุนได้เป็นจำนวนมาก ขีดความสามารถของ EFSF ก็อาจเพิ่มขึ้นสู่ 1 ล้านล้าน โดยกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน มีกำหนดจะตกลงกันในวันนี้เกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) เพื่อให้ EFSF สามารถให้ความช่วยเหลือแก่อิตาลีหรือสเปนได้ถ้าหากทั้ง 2 ประเทศต้องการความช่วยเหลือ และกลุ่มยูโรมีแนวโน้มที่จะอนุมัติการปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินงวดถัดไปสำหรับกรีซและไอร์แลนด์ด้วย ส่วนอิตาลีมีแผนจะขายพันธบัตรวงเงิน 8 พันล้านยูโรในวันนี้

ผลการประชุมและตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
1. สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ย.ในวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย
2. Conference Board จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย.ในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,700 1,680 แนวต้านที่ 1,725 1,740 ภาพกราฟราย 240 นาที มีแรงขายบริเวณ 1,715 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 75 (MA75) แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,700 1,680 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,725 1,740
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 30.9 30.6 แนวต้านที่ 32.8 33.0 ภาพกราฟราย day ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 30.6 – 33.0 แนะนำ Trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....lassicgoldgroup

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น