บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 28.50 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,788.10 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้น จากแรงซื้อในตลาดเอเชียและยุโรป เมื่อปัญหาการเมืองของกรีซและอิตาลีเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
o ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 28.50 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,745.00 – 1,791.10 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้น เมื่อนักลงทุนมีความมั่นใจในสถานการณ์การเมืองของกรีซและอิตาลีโดยราคาปิดสามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,775 USDต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทำให้คาดว่าในสัปดาห์นี้ราคามีโอกาสสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,800/1,825/1,850 ราคาทองคำปรับตัวบวกขึ้นได้ในวันศุกร์หลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 วันและทำให้กราฟในรายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน แสดงแนวโน้มเป็นขาขึ้นโดยมีจุดสูงสุดของสัปดาห์บริเวณ 1,802 USDต่อออนซ์ และราคาต่ำสุดบริเวณ 1,736 USDต่อออนซ์ การปรับบวกขึ้นแรงในวันศุกร์ทำให้สัญญาณทางเทคนิคกลับมาเป็นบวกและมีแนวโน้มขึ้นต่อในสัปดาห์นี้
o มีแรงซื้อจากเอเชียและยุโรป เมื่อความกังวลว่าจะจำกัดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ได้ผ่อนคลายลง สภาพคล่องของระบบการเงินในยุโรปดีขึ้น และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีปรับลดลงอีกในวันศุกร์ รวมถึงสถานการณ์ด้านการเมืองของอิตาลีและกรีซดีขึ้น
o นักวิเคราะห์คาดว่า การอัดฉีดเงินช่วยเหลือรอบใหม่ของธนาคารกลางยุโรปจะมีแรงผลักดันต่อเงินเฟ้อให้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความผันผวนของค่าเงิน USD และเงินยูโร ทำให้มีความต้องการถือทองคำเพิ่มขึ้น
o อิตาลีผลักดันมาตรการรัดเข็มขัดตามที่สหภาพยุโรปเรียกร้อง โดยรัฐสภาผ่านร่างก.ม.งบประมาณฉบับใหม่ และเปิดโอกาสให้จัดตั้งรัฐบาลฉุกเฉิน ส่วนกรีซ นายลูคัส ปาปาเดมอสได้เข้ารับตำแหน่ง โดยเขาจะพยายามทำให้กรีซบรรลุข้อตกลงที่กำหนดไว้ในมาตราให้ความช่วยเหลือทางการเงินของยูโรโซน
o ในระยะสัปดาห์คาดว่าถ้ายืนเหนือ 1,800 ได้จะมีแนวต้านบริเวณ 1,825/1,850 แต่ถ้าหากยังไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาสู่แนวรับ 1,775/1,750 โดยแนวโน้มในระยะกลางเป็นขาขึ้น การอ่อนตัวลงมาสู่แนวรับเป็นจังหวะให้นักลงทุนเข้าสะสมทองคำ เพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,825/ 1,850 USDต่อออนซ์
o ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากระดับ 1.35 มาที่ระดับ 1.37 USDต่อยูโร เมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัรรัฐบาลอายุ 1 ปีของอิตาลีต่ำกว่า 7% ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงจากระดับ 78 มาที่ระดับ 76.7 ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 1.24% จากความคืบหน้าของอิตาลีและกรีซในการแก้ปัญหาการเมืองและปัญหาหนี้สิน
o ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันศุกร์ออกมาดีที่ระดับ 64.2 จาก 61.5 และยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐในเดือนต.ค.ลดลง 1.1 หมื่นล้านดอลล่าร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคารดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมเดือนพ.ย. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย.วันพุธ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนก.ย.ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนต.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.วันศุกร์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค.
o ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.58 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 34.68 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.67 – 34.85 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,783.71 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 35.2 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 34.25/33.8 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 33.8 – 35.2 USDต่อออนซ์
o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,268.67 ตัน
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,750 – 1,825 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,750 – 1,825
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,600 - 1950 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น