วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 23.8 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,702.4 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้นใกล้ Strike Price ของสัญญาออปชั่นที่หมดอายุเมื่อวานนี้

o ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 23.8 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,667.50 – 1,706.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้นกว่า 1% เมื่อมีแรงซื้อเพื่อปิดสถานะสัญญาออปชั่นที่ครบกำหนดสัญญาในวันที่ 22 พ.ย. ราคาปรับสูงขึ้นเข้าใกล้ 1,700 USDต่อออนซ์ซึ่งเป็น Strike price ถ้าหากจะขึ้นต่อต้องรักษาระดับความเคลื่อนไหวของราคาไม่ให้หลุดแนวรับบริเวณ 1,690 ถ้าหลุดบริเวณนี้ แนวรับถัดไปที่บริเวณ เส้นค่าเฉลี่ย 34 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,635 และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,596 นักลงทุนระยะสั้นที่เปิดสถานะ Long ไว้ปิดทำกำไรบริเวณ 1,713 บริเวณแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน และถ้าผ่านแนวนี้ไปได้ให้เปิด Long อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,736 หรือถ้าไม่ผ่านบริเวณ 1,713 ให้เปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,680/1,670/1,635 ส่วนนักลงทุนระยะยาวทยอยสะสม Long บริเวณแนวรับ 1,635/ 1,596 หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,670/ 1,665 ได้

o ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำของราคาทองคำในเช้าวันนี้เคลื่อนไหวระหว่าง 1,695 – 1,708 USDต่อออนซ์ ราคามีแนวโน้มจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,713 – 1,736 คาดว่าจะไม่สามารถผ่านบริเวณแนวต้านบริเวณ 1,736 ไปได้

o สถานการณ์หนี้ในยูโรโซนมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อ IMF จะเพิ่มสภาพคล่องให้กับประเทศที่มีปัญหาในยูโรโซน และรมว.คลังของยูโรโซนพร้อมจะให้เงินช่วยเหลือแก่กรีซจำนวน 8 พันล้านยูโร ในการประชุมครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงลงอีก 53.59 จุดหรือ 0.46% โดยมีปริมาณซื้อขายเบาบาง เนื่องจากใกล้วันหยุดในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า และปัจจัยลบจากความกังวลในเรื่องหนี้สินของยุโรปเมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของสเปนพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง นอกจากนี้การประกาศ GDP ไตรมาสที่ 3 ของสหรัฐลดลงเหลือ 2.0% ต่ำกว่า 2.5% กดดันให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ราคาน้ำมันดิบ Nymex พุ่งขึ้น 1.12% เมื่อนักลงทุนกังวลต่อการคว่ำบาตรอิหร่านจะทำให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลาง และเข้าใกล้วันหยุดยาวที่จะมีความการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น


o ปัจจัยลบที่กดดันราคาทองคำในช่วงนี้ คือ การแข็งค่าของเงิน USD และการขาดสภาพคล่องของประเทศในยูโรโซน ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ การคาดการณ์ว่าสหรัฐ อังกฤษ ธนาคารกลางยุโรปและ IMF จะเพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน เช่น การใช้มาตรการ QE ส่วนปัญหาวิกฤตหนี้ของยูโรโซน และการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำของสหรัฐยังเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวสำหรับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนในระยะสั้นการแข็งค่าของเงิน USD ทีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับ อาจลงมาที่ระดับ 1,635 / 1,600

o ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพุธ รายได้ส่วนบุคคลเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ย. วันพฤหัสและวันศุกร์ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ เนื่องจากหน่วยงานราชการปิด เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

o ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 1.84 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 32.95 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.16 – 33.04 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 30.26 ตัน ถือโลหะเงินจำนวน 9,685.37 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 33.05/ 33.6 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 31.7/30.7 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 30.7 – 33.6 USDต่อออนซ์

o SPDR ซื้อทองคำ 6.05 ตันถือทองคำจำนวน 1,297.32 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,640 – 1,736 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,640 – 1,736
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,600 - 1950 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น