วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 11 ตุลาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 11 ตุลาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,645 1,631 1,600 แนวต้านที่ 1,681 1,705 1,753 ภาพกราฟราย 120 นาที แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบรูปแบบ Side way Up โดยจุดต่ำยกตัวสูงขึ้น แนะนำเปิด long ที่แนวรับบริเวณ 1,645

วิกฤติหนี้ จะสกัดช่วงบวก

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 11 ต.ค. อยู่ที่ 1, 681 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบ ระหว่าง 1,653 - 1,684 USD ต่อออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ราคายังคงปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่3 แต่ราคาปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีแรงเทขายทำกำไรออกมา เชื่อว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเป็น side way จนกว่าราคาจะสามารถทะลุผ่านแนวต้านที่สำคัญที่ 1,681 ไปได้ ราคาทองคำจะมีสัญญาณเป็นบวกมากขึ้น โดยปัจจัยบวกที่สนับสนุนราคาทองคำ ได้แก่ ปัญหาวิกฤตหนี้ของยูโรโซนที่กำลังจะแผ่ขยายไปที่ระบบธนาคารพาณิชย์ถูกยับยั้งโดยความร่วมมือกันของประเทศในกลุ่มซึ่งนำโดยเยอรมันและฝรั่งเศสจะเพิ่มสภาพคล่องและเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์

นอกจากนั้นประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และประธานสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมการปฏิรูปตลาดการเงิน-ฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นวาระหลักประชุม G-20ในช่วงต้นเดือนหน้า อีกทั้งการประชุมครั้งนี้มีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อยุโรปมาก เนื่องจากมุ่งเน้นจะทำให้ระบบการเงินระหว่างประเทศมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และกระตุ้นการค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งวาระการประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 23 ต.ค. จากเดิม 17-18 ต.ค. โดยการเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอียูและยูโรโซนครั้งนี้ เพื่อให้คณะกรรมการยุโรปมีเวลามากขึ้นก่อนที่จะสรุปแนวทางและกลยุทธ์ต่างๆใน การรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะ

ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ของ หลายๆ ประเทศที่ออกมาดี ที่ประกาศออกมา ได้แก่ เยอรมนีเปิดเผยว่ายอดเกินดุลการค้าขยายตัวขึ้นแตะระดับ 1.38 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนส.ค. จากระดับ 1.06 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ค. เนื่องจากยอดการส่งออกของเยอรมนีขยายตัว 3.5% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ฝรั่งเศส เผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศขยายตัวขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก.ค.ที่ 1.8% เพราะได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมการผลิตที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และญี่ปุ่น ประกาศความเชื่อมั่นผู้บริโภคขยายตัวขึ้นมาอยู่ที่ 38.6 เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนในเดือนก.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพการจ้างงานที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ตัวเลขในส่วนของภาวะการจ้างงานพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 34.7 จากระดับ 31.8 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน โดยชี้ว่า ตลาดแรงงานที่ดีขึ้นมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นที่เป็นบวกของภาค ครัวเรือนในด้านการใช้จ่าย ขณะที่ อิตาลี เปิดเผยว่า ยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ทำสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ยอดผลผลิตที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์นั้น สวนทางกับการคาดการณ์จากแหล่งต่างๆ ภาคการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดได้แก่ ยานยนต์ เพิ่มขึ้น 31.7% จากปีก่อน ตามมาด้วยโลหะ 16.8% และ เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์น้ำมันตามลำดับ ข้อมูลดังกล่าวถือว่าเป็นสัญญาณด้านบวกที่ได้พิสูจน์ถึงเสถียรภาพของ เศรษฐกิจอิตาลีและระบบเศรษฐกิจที่สดใสของประเทศ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,645 1,631 1,600 แนวต้านที่ 1,681 1,705 1,753 ภาพกราฟราย 120 นาที แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบรูปแบบ Side way Up โดยจุดต่ำยกตัวสูงขึ้น แนะนำเปิด long ที่แนวรับบริเวณ 1,645
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 31.0 แนวต้านที่ 32.9 33.3 Trading ในกรอบ 31 - 33.3

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgg
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น