วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 19 เมษายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 19 เมษายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

จับตาผลการประชุม G7/G20

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 19 เม.ย. อยู่ที่บริเวณ 1,640.61 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,636 - 1,646 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมของรมว.คลังจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมทั้ง 7 (จี-7) จะหารือกันในวันที่ 19 เม.ย รวมถึง วาระการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มจี-20 ซึ่งมีกำหนดจะประชุมกันในวันที่ 19-20 เม.ย.นี้ในวอชิงตัน ทั้งนี้ สเปน สามารถจำหน่ายพันธบัตรในวันนี้ ได้ตามเป้า และเป็นระดับสูงสุดของเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสูงกว่าการประมูลครั้งก่อนในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งข่าวการขายพันธบัตรได้ตามเป้าหมาย ช่วยคลายความวิตกกังวลของนักลงทุนได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เงินสบทบช่วยเหลือกลุ่มประเทศในยูโรโซนก็เป็นที่จับตามอง เนื่องจากจะช่วยให้กลุ่มประเทศเหล่านั้นผ่านพ้นวิกฤติหนี้ไปได้ ทั้งนี้ หากเงินช่วยเหลือสามารถระดมทุนได้ตามเป้า อาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในระยะถัดไป สำหรับภาพทางเทคนิค ราคาทองคำ ยังไม่ส่งสัญญาณกลับทิศเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน แม้ว่าจะประคองตัวเหนือเส้น UpTrend ระยะยาวได้ ดังนั้น ราคาจึงมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ในกรอบ 1,630 – 1,680 ซึ่งหากหลุดด้านใดด้านหนึ่งจึงจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น โดยหากราคาทองคำ ลดลงต่ำกว่า 1,630 จะส่งสัญญาณ Bearish มากขึ้น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า ไอเอ็มเอฟสามารถระดมทุนได้แล้ว 3.20 แสนล้านดอลลาร์เพื่อนำมาใช้เป็นทุนทรัพย์ในการแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซน ทั้งนี้ ประเทศต่างๆได้ให้สัญญาว่าจะจัดสรรเงินเพิ่มเติมให้แก่ไอเอ็มเอฟอีก 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งรวมถึงเงิน 8 พันล้านดอลลาร์จากโปแลนด์ และ "เงินจำนวนมาก" จากสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ ยอดเงินสมทบในวันอังคารอยู่ที่ 2.86 แสนล้านดอลลาร์ ดังนั้นเมื่อรวมกับตัวเลขใหม่เมื่อวานนี้ ยอดเงินรวมจึงอยู่ที่ 3.20 แสนล้านดอลลาร์ ประเทศสมาชิกไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกจะจัดการประชุมที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ โดยการประชุมจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ และไอเอ็มเอฟคาดหวังว่ายอดเงินสมทบจะเพิ่มขึ้นถึงระดับ 4 แสนล้านดอลลาร์ในการประชุมครั้งนี้ การระดมทุนให้แก่ไอเอ็มเอฟกลายเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเร่งด่วนในช่วงนี้ เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีพุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ดังนั้นนักลงทุนจึงกังวลว่าวิกฤติหนี้ยูโรโซนอาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ในวันอังคารที่ผ่านมาญี่ปุ่นได้ประกาศจัดสรรเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่ไอเอ็มเอฟ ขณะที่สวีเดนประกาศว่า พร้อมที่จะจัดสรรเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในทันที และจะเพิ่มจำนวนดังกล่าวขึ้นเป็น 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์ในเวลาต่อมา ส่วนเดนมาร์กประกาศว่าจะจัดสรรเงิน 7 พันล้านดอลลาร์ นอรเวย์ประกาศในเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่าจะจัดสรรเงิน 9.6 พันล้านดอลลาร์ ให้ไอเอ็มเอฟ ในขณะที่ประเทศสมาชิกยูโรโซนให้สัญญาไปแล้วว่าจะจัดสรรเงิน 1.50 แสนล้านยูโร (2 แสนล้านดอลลาร์) คาดกันว่าประเทศอื่นๆจะจัดสรรเงินเพิ่มเติมให้แก่ไอเอ็มเอฟในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า โดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) จะจัดประชุมกันในวันศุกร์นี้ และมีแนวโน้มว่าประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนทรัพย์ของไอเอ็มเอฟจะเป็นหัวข้อสำคัญในการประชุม ประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงจีน, บราซิล และรัสเซียยังไม่ได้ประกาศจัดสรรเงินเพิ่มเติมให้แก่ไอเอ็มเอฟ ขณะที่ สหรัฐประกาศไปแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมในความพยายามเพิ่มทุนของไอเอ็มเอฟ ในครั้งนี้ 


กระทรวงการคลังสเปนสามารถจำหน่ายพันธบัตรประเภทอายุ 2 ปีและ 10 ปีในวันนี้เป็นจำนวนเงิน 2.5 พันล้านยูโร (3.3 พันล้านดอลลาร์)ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุน แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสูงกว่าการประมูลครั้งก่อนในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรทั้ง 2 ประเภทอยู่ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนในตลาดรองอยู่เล็กน้อยก่อนการขายครั้งแรก ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสเปนสามารถจำหน่ายพันธบัตรงวดครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 31 ต.ค.2014 ที่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3.463% ได้เป็นเงิน1.1 พันล้านยูโร โดยสัดส่วนความต้องการซื้อต่อปริมาณพันธบัตรที่ออกขายอยู่ที่3.3 เท่า เทียบกับ 2.0 เท่าในการประมูลครั้งที่แล้วในเดือนต.ค. นอกจากนี้ กระทรวงยังสามารถจำหน่ายพันธบัตรงวดครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 31 ม.ค.2022 ที่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5.743% ได้เป็นเงิน 1.4พันล้านยูโร โดยมีสัดส่วนความต้องการซื้อต่อปริมาณพันธบัตรที่ออกขายอยู่ที่ 2.4เท่า เทียบกับ 2.2 เท่าในการประมูลครั้งก่อนในเดือนม.ค. ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5.403%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 20.30 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- 22.00 น. คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค.
- 22.00 น. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.

ภาพทางเทคนิคยังเป็นแนวโน้มขาลงในระยะกลาง แต่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ความยังเป็นลักษณะ side way รอการ break การปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,630 จะทำให้แนวโน้มเป็น bearish มากขึ้น และอาจทำ low ที่บริเวณ 1,610 / 1,600 ภาพกราฟในรายวันมีเส้นกดจาก MA หลายเส้น ทำให้กรอบการขึ้นค่อนข้างจำกัด คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,655/1,665 และแนวรับบริเวณ 1,635/1,630 แนะนำ นักลงทุนในระยะ 1 – 2 วัน ที่ปิด short ทำกำไรไปแล้ว หากราคาไม่หลุด 1,630 รอเปิด Long บริเวณแนวรับ 1,635/1,630 ส่วนนักลงทุนที่ไม่มีสถานะ Trading ในกรอบ 1,630 – 1,665
ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.3/ 30.9 แนวต้านบริเวณ 32.0/ 32.6 แนะนานักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 30.9 – 32.6

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น