วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) มีแรงขายกดดัน ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าบริเวณ 1,200.13 USD/toz ซึ่งเป็นระดับราคาที่มีนัยสำคัญต่อจิตวิทยาของนักลงทุน ก่อนที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาลงตลอดวัน ซึ่งเป็นแรงขายต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงวันอังคารที่ผ่านมาหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าการปรับตัวลงของทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นหลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้น Dow Jones สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 20,000 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบกับแรงกดดันของกองทุน SPDR ซึ่งขายทองคำออกสุทธิ 5.04 ตัน รวมถือครองทองคำสุทธิที่ 799.07 ตัน เป็นสัญญาณที่ไม่เป็นบวกต่อราคาทองคำเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดว่าทองคำยังอาจได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ตามฤดูกาล (วันตรุษจีน) ที่อาจเป็นปัจจัยบวกที่สามารถพยุงราคาทองคำไว้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ให้ระมัดระวังความผันผวนจากการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประกาศหลายดัชนีได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้า, สินค้าคงคลังภาคการค้า, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ, ยอดขายบ้านใหม่ฯ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในวันพุธโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนีหุ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางความหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับเศรษฐกิจและนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี เท่ากับ 3.1058% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เท่ากับ 2.5209% - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ : ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพุธ โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ในขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.26 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์จากความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ ดอลลาร์อ่อนค่าลงโดยรวมในวันพุธแม้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐสามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 20,000 ได้เป็นครั้งแรก - ราคาน้ำมันดิบปิดลบหลังข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดลดลงน้อยกว่า 1% ในวันพุธหลังข้อมูลบ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวในกรอบแคบ โดยราคาได้รับแรงหนุนจากการปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก แต่ถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดลบ 0.43 ดอลลาร์ สู่ระดับ 52.75 USD/bbl - ราคาทองคำร่วงสวนทางกับตลาดหุ้นปรับพุ่งรับนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ : ราคาทองที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 10 วัน ในวันพุธ ขณะที่ความหวังครั้งใหม่ที่ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์” จะดำเนินนโยบายการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น ได้ช่วยหนุนราคาหุ้นและลดความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน ก.พ.ที่ตลาด COMEX ปิดร่วงลง 13.00 ดอลลาร์ ที่ 1,197.80 USD/toz ประเด็นที่ต้องติดตาม: - GDP สหรัฐฯ (27 ม.ค.) - ปฏิกิริยาของนักลงทุนหลังดัชนี Dow Jones ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 20,000 จุด คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน, ระวังความผันผวนจากรายตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น