วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 16 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 16 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเช่นกัน โดยนักลงทุนเริ่มกังวลถึงนโยบายของนายทรัมป์ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ โดยในเช้านี้มีประเด็นที่น่าสนใจคือการออกจากยูโรโซนของอังกฤษอย่างแข็งกร้าว (hard brexit) ทำให้ค่าเงินปอนอ่อนค่าแรง และส่งผลให้ทองคำได้รับแรงหนุนเล็กน้อยในเช้านี้ และสัปดาห์นี้ติดตามประเด็นอังกฤษต่อ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน อีกทั้งการประชุมของธนาคารกลางยุโรป Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.14% โดยปิดที่ 1,197.26 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,187.53 – 1,200.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,202 เหรียญ ราคาทองปิดบวกได้เล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าหลังจากนักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ และในเช้าวันนี้ค่าเงินปอนด์เคลื่อนไหวผันผวนซึ่งปรับตัวลดลงแรงเนื่องจากความกังวลเรื่องการออกจากยูโรโซนแบบแข็งกร้าว(hard brexit) โดยในก่อนหน้านี้อังกฤษกล่าวว่าจะออกจากยูโรโซนแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ทองคำได้รับแรงหนุนจากประเด็นนี้ในเช้านี้ โดยในสัปดาห์นี้ติดตามประเด็นของทางฝั่งอังกฤษต่อเนื่อง และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีน การประชุมธนาคารกลางยุโรป ทำให้คาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งผันผวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ทางฝั่ง SPDR กลับเข้าซื้อทองครั้งแรกในรอบ 2 เดือนกว่า โดยซื้อทอง 2.96 ตัน รวมถือครองทองคำ 807.96 ตัน Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการรูดลง 3 % จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนไม่แน่ใจว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลกับสภาพเศรษฐกิจของจีนด้วย หลังจากจีนรายงานว่า ยอดส่งออกดิ่งลงอย่างรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 • ดอลลาร์ปรับตัวลงในวันศุกร์ และปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ขณะที่เทรดเดอร์มีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการขาดข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ • ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 6.5 % นับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. และพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ในวันพฤหัสบดี หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดในแผนการปรับลดภาษี และแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน แต่ นโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ โดยเฉพาะการปรับลดภาษีภาคเอกชน อาจจะส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น และดึงดูดเงินลงทุนให้ไหลออกจากทอง Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading long หากราคายืนเหนือ 1,200 เหรียญ ถ้าไม่ให้เปลี่ยนมาเป็น trading ในกรอบ [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: แกว่งตัวในกรอบรอปัจจัยหนุน ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index เเละ S50H17 เคลื่อนไหวผันผวนเล็กน้อยตามตลาดอื่นๆในภูมิภาคที่เปิดตลาดเเละเคลื่อนไหวบวกลบสลับกันโดย S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 979.50 จุด ก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 984.20 จุดเเละปิดตลาดในบริเวณใกล้เคียงกันที่ 983.60 จุด เช่นเดียวกับ SET index ที่ปิดตลาดบริเวณ 1,575.24 จุด มีปริมาณการซื้อขายไม่มากไม่น้อยแต่ถือว่าเบาบางลงเรื่อยๆ นับตั้งเเต่ต้นปีเพียง 45,151.49 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ (+835.54 ล้านบาท) เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (+490.88 ล้านบาท) สวนทางกับนักลงทุนต่างชาติเที่ขายสุทธิ (-975.30 ล้านบาท) เเละนักลงทุนสถาบันที่ขายออกสุทธิ (-351.13 ล้านบาท) ฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจัยบวกภายในประเทศมีเพียงค่าเงินบาทที่เเข็งค่า (35.465 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) สวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง (USD index = 101.410 จุด) หลังขึ้นไปทำจุดเเข็งค่าสูงสุดในรอบ 14 ปี ในด้านของปัจจัยลบที่ยังคงรุมเร้าปัจจัยหนึ่งได้แก่ปัญหาน้ำถ่วมภาคใต้ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายภาคเอกชนลดลงเศรษฐกิจชะลอตัวในระยะสั้นและปัจจัยด้านเงินทุนที่เริ่มกลับมาไหลออกนอกประเทศ คาดการณ์ว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มลดสถานะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก่อนจะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในช่วงปลายสัปดาห์นี้ • แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบ, ฝั่ง Long Position ได้เปรียบในวันแต่ Upside ยังจำกัดและขาดปัจจัยบวกหนุน ปัจจัยที่ต้องติดตาม - สัปดาห์นี้ติดตามการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (20 ม.ค.) ข่าวในประเทศ - กระทรวงการคลังชูปี 60 แก้หนี้นอกระบบ ดีเดย์กฎหมายคุมอัตราดอกเบี้ย เข็นนาโนไฟแนนซ์เกิด : กระทรวงการคลังเตรียมเปิดตัว "โครงการแก้หนี้นอกระบบ" 6 ก.พ.นี้ เชิญนายกฯเปิดงาน เผยกฎหมายห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรามีผลบังคับใช้แล้ว พร้อมไฟเขียวตั้งนาโนไฟแนนซ์ 21 ราย - นายกฯสั่งทำแผนพัฒนาคนรองรับ10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย – ไทยแลนด์ 4.0 : นายกฯสั่ง ก.พ.เตรียมบุคลากรรับการเติบโตของ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและไทยแลนด์ 4.0 สั่งกระทรวงศึกษาฯผนึกกระทรวงดิจิทัลฯ เร่งปั้นบุคลากรวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิศวกรรม ขีดเส้นทำโครงการให้เห็นผลในปีนี้ - ปัดฝุ่นรีดภาษี “ชาเขียว-กาแฟ” กระทบสุขภาพ : กรมสรรพสามิตปัดฝุ่นแผนรีดภาษีสินค้าส่งผลกระทบสุขภาพพุ่งเป้า "กาแฟชงสำเร็จ-ชาเขียว" ล็อตแรก - (PTTH17) PTT กดปุ่มเปิดประมูลท่อก๊าซ 1.1 แสนล้านบาท มั่นใจแล้วเสร็จปี'63 : PTT กดปุ่มเปิดประมูลหาผู้รับเหมาโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 จำนวน 2 สัญญา ระยะทาง 430 กิโลเมตร มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดแล้วเสร็จในปี 2563 อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น