วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยเม็ดเงินเริ่มไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำ และไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง โดยจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล ทะลุเหนือบริเวณ 20,000 จุด ทำให้ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง แต่ก็ไม่ได้ช่วยหนุนทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ และให้น้ำหนักซึมลงมากกว่าปรับตัวขึ้นต่อ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 8.52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.70% โดยปิดที่ 1,200.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,192.74 – 1,209.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,199 เหรียญ ราคาทองปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาล ทะลุ 20,000 จุด ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะยังปรับตัวลดลง แต่ก็ไม่สามารถช่วยหนุนราคาทองได้ในช่วงนี้ รวมทั้งกองทุน SPDR ขายทองคำต่อเนื่อง 3 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ขายทองคำอีก 5.04 ตัน รวมถือทองคำ 799.07 ตัน จึงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในระยะนี้ได้ ในวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ และคงน้ำหนักให้ราคาทองแกว่งตัวในกรอบ และเริ่มมีแนวโน้มซึมลงมากกว่าปรับตัวขึ้นต่อ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดลดลงน้อยกว่า 1% ในวันพุธหลังข้อมูลบ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวในช่วงแคบๆ โดยราคาได้แรงหนุนจากการปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก แต่ถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ • ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพุธ โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ • ปอนด์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.26 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์จากความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐ • ดอลลาร์อ่อนค่าลงโดยรวมในวันพุธ แม้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐสามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 20,000 ได้เป็นครั้งแรก • ราคาทองที่ตลาดสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่งในวันพุธขณะที่ความหวังครั้งใหม่ที่ว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์จะดำเนินนโยบายการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น ได้ช่วยหนุนราคาหุ้น และลดความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีน Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดการ(All time new high) Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • มุมมองนักลงทุนต่อนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบที่กว้างขึ้น ระยะกลางอาจรอสะสมเมื่อปรับลดลงแรง [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ระวังแรงขาย ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยสัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดเมื่อวานนี้บริเวณ 983.70 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวันโดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 989.50 จุด และปิดตลาดที่ 988.50 จุด (ชําระราคาประจำวันที่ 988.70 จุด) รูปแบบการเคลื่อนไหวแข็งแกร่งกว่า SET index ซึ่งเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าและมีแรงขายออกมาช่วงท้ายตลาด ก่อนที่จะปิดตลาดบริเวณ 1,584.29 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวมหนาแน่นถึง 66,820.55 ล้านบาท แต่ที่น่าสังเกตคือ เป็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันเป็นหลักซึ่งซื้อสุทธิ +2,324.55 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ซึ่งขายสุทธิเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ขายสุทธิกว่า -1,553.78 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดมูลค่าการซื้อขายสะสมของนักลงทุนต่างประเทศตั้งเเต่ต้นเดือนมกราคม ลดลงมาอยู่ที่ระดับซื้อสุทธิ +5,486.99 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยมองว่าภาพรวมการลงทุนทั่วโลกและในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเองยังไม่มีความชัดเจนทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย แม้ปรับขึ้นก็ยังถือว่ายังขาดปัจจัยรองรับ เป็นแรงซื้อจากความคาดหวังเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าออกของนักลงทุนต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวผันผวนและเปราะบางได้ • แนะนำ : Wait & See ลดความเสี่ยง, ระวังแรงขายทำกำไรหลังดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยที่ต้องติดตาม • ราคาน้ำมันดิบ WTI (NYMEX) ปรับตัวขึ้น 53.04 USD/bbl เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงานในประเทศ ข่าวในประเทศ - กระทรวงการคลังจ่อปรับประมาณการณ์จีดีพี, ปัจจัยบวกเพียบ : สศค.เปิดเผยว่า วันที่ 30 ม.ค.นี้ จะปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 60 เพิ่มขึ้นจากที่คาดไว้ 3.4% เนื่องจากมีหลายปัจจัยบวกเพิ่มเข้ามา ได้แก่ การทำงบประมาณเพิ่มกลางปี 60 วงเงิน 190,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 160,000 ล้านบาท คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ในปีนี้ 65-70% ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มขึ้น - นักวิชาการจี้รัฐหนุนผู้ส่งออกหน้าใหม่ : นายทศพล อภัยทาน นักวิจัยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ้งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึงงานวิจัยเรื่อง “จุลทรรศน์ภาคส่งออกไทย : ส่งออกยุคผลัดใบ เลือดใหม่แรงขับเคลื่อน” ว่าภาคการส่งออกของไทยอยู่ในยุคผลัดใบ โดยผู้ส่งออกหน้าใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น มีการส่งออกในตลาดใหม่และผลิตสินค้าใหม่มากขึ้น ในขณะที่ผู้ส่งออกหน้าเก่าหดตัวไปมากและอาจเผชิญกับการถดถอยของการส่งออกสินค้าเดิมในตลาดเดิม - (TPIPLM17) ‘โพลีนเพาเวอร์’คาดเข้าเทรด มี.ค.60 นี้ : ‘ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์’ คาดเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือน มี.ค.นี้ ระบุเลื่อนซีโอดีโรงไฟฟ้าขยะ 70 เมกะวัตต์ เป็นไตรมาส 4 ไม่กระทบรายได้ เดินหน้ายื่นอีโอเอภายในเดือน มี.ค. ส่งผลจ่ายไฟฟ้า 290 เมกะวัตต์ ปีนี้ตามแผน อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น