วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 30 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ ที่ 30 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปรับเพิ่มขึ้นแรง และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเช้านี้ ทำให้ภาพรวมเริ่มเห็นการดีดกลับได้มากขึ้น โดยปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลง รวมทั้งแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงที่เริ่มมีเข้ามา ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำได้รับแรงหนุน แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามว่าจะดีดกลับได้ไกลแค่ไหน เพราะภาพระยะกลางทองคำยังมีแนวโน้มที่อ่อนแอ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.19 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.42% โดยปิดที่ 1,158.24 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,140.73 – 1,159.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,158 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง และปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในเช้า ทำให้ภาพรวมเริ่มเห็นการดีดกลับได้มากขึ้นจาก การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลง รวมทั้งแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มชะลอลงเช่นกัน ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยเช่น ทองคำ และค่าเงินเยนเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมระยะกลางทองคำมีแนวโน้มที่อ่อนแอ ทำให้การดีดกลับครั้งนี้ยังต้องระมัดระวังการย่อตัวเช่นกัน โดยคาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวมีโอกาสกว้างขึ้นในวันนี้ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันพฤหัสบดีหลังจากสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างพลิกความคาดหมาย • ดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 วันเมื่อเทียบกับเยนในวันพฤหัสบดี ขณะที่เทรดเดอร์เทขายทำกำไรดอลลาร์ออกมาในช่วงวันหยุดที่เงียบเหงา และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ลดความน่าดึงดูดใจของดอลลาร์ลงด้วย • หุ้นบริษัทแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองพุ่งขึ้น 4.8 % และถือเป็นหุ้นที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในดัชนี FTSE 100หลังจากราคาทองพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 16.19 ดอลลาร์ หรือ 1.42 % สู่ 1,158.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง และหันมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นพันธบัตร โดยปัจจัยนี้ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเยน เพราะเยนถือเป็นสกุลเงินปลอดภัย Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : ฝั่ง long ถือต่อหรือทยอยปิดทำกำไร และเปลี่ยนเป็น trading ในกรอบ [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ลดสถานะลงทุนก่อนวันหยุดยาว • เมื่อวานนี้ S50Z16 ซื้อขายเป็นวันสุดท้ายโดยเปิดตลาดที่ 950.70 จุด แกว่งตัวในแดนบวกแบบขึ้นขาเดียวตลอดวันจนปิดตลาด โดยแรงซื้อในช่วงบ่ายดันตลาดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 966.00 จุดก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 965.30 จุด เคลื่อนไหวเช่นเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,537.81 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 35,814.48 ล้านบาทถือว่าปรับตัวขึ้นจากวันก่อนหน้าแต่ยังต่ำกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ยปกติของ SET index เป็นแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ 5,369.60 ล้านบาทและสถาบันในประเทศ 1,592.81 ล้านบาท ส่วนมากเป็นแรงซื้อในกลุ่มพลังงานที่นำตลาดขึ้นมา ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯและราคาน้ำมันดิบเริ่มทรงตัวได้ในระดับหนึ่ง สำหรับการซื้อขายในวันนี้ให้เปลี่ยน Series ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็น S50H17 และให้ระวังแรงขายทำกำไรหลังจากที่เมื่อวานตลาดได้รับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing และปัจจัยที่ต้องติดตามอีกประการหนึ่งได้แก่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงบ่ายได้แก่ ยอดค้าปลีก, การบริโภคภาคเอกชนและบัญชีเดินสะพัดฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดได้ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีแรงขายปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยงเนื่องจากเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปีก่อนวันหยุดยาว • แนะนำ : ไม่ถือสถานะลงทุน, ระวังแรงเทขาย ปัจจัยที่ต้องติดตาม - วันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยได้แก่ ยอดค้าปลีก, การบริโภคภาคเอกชน, บัญชีเดินสะพัด ข่าวในประเทศ - หนี้เสียแบงก์รัฐเพิ่ม3หมื่นล. เศรษฐกิจพ่นพิษ ประชาชน เอสเอ็มอีหมุนเวียนไม่ทันเบี้ยวชำระหนี้ : สศค. เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของแบงก์รัฐสิ้นไตรมาส 3 ปี 2559 มียอด เอ็นพีแอล คงค้าง 2.53 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.35 หมื่นล้านบาท และสัดส่วนเอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6.4% เทียบกับสิ้นไตรมาส 2 ปี 2559 - “สมคิด” รับห่วงความเสี่ยงตลาดการเงิน สั่งคลัง-แบงก์ชาติจับตา ยังมั่นใจเศรษฐกิจไทย ทิศทางเป็นบวก : รองนายกฯ กล่าวว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาในขณะนี้สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทย เป็นไปในทางบวก ทั้งตัวเลขตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในอาเซียน ตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ย.ที่ขยายตัวกว่า 10% ทั้งนี้หาก 3 ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ และจีน ยังขยายตัวต่อเนื่อง จะทำให้การส่งออกของประเทศในเอเชียดีขึ้น - (KTBH17) กรุงไทยพร้อมเพย์ จ่ายภาษีคืน 4 ม.ค. : กรุงไทยพร้อมโอนเงินคืนภาษี เบี้ยผู้สูงอายุและคนพิการ ผ่านระบบ “พร้อมเพย์” ต้นปี 2560 โดยธนาคารให้การสนับสนุนโครงการระบบการชำระเงินของประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-เพย์เมนต์ ซึ่งทางธนาคารกรุงไทยได้มีการพัฒนาระบบพร้อมเพย์สมบูรณ์และพร้อมให้บริการกับประชาชน อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น