วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 13 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคาร ที่ 13 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดต่อเนื่อง ลงไปทดสอบที่บริเวณ 1,151 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบเดือน รวมทั้งแรงขายของกองทุน SPDR ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง โดยสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมของเฟด ที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ และติดตามมุมมองดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า ที่เป็นปัจจัยที่สำคัญในการประชุมครั้งนี้ ภาพรวมทองคำฝั่ง short ยังได้เปรียบแต่ให้ระมัดระวังความผันผวนในช่วงใกล้การประชุมเฟด Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.37 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.38% โดยปิดที่ 1,162.12 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,151.34 – 1,165.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,162 เหรียญ ราคาทองได้ลดลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 10 เดือนหลังจากความกังวลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ที่มีการคาดการณ์กันว่าจะปรับขึ้นค่อนข้างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามค่าเงินดอลลาร์ก็เริ่มอ่อนค่าลงหลังจากปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่เดือนก่อน โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือ มุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า โดยถ้าหากเฟดแสดงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วอาจจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำได้ต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่ลดความเสี่ยงได้ต่ำควรลดสถานะการลงทุนและรอความชัดเจนหลังทราบผลการประชุมในช่วงเช้าวันพฤหัส Exclusive News • ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งนำโดยรัสเซีย ได้ตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 558,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ยังคงถือเป็นการร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก ก่อนหน้านี้กลุ่มโอเปกเพิ่งบรรลุข้อตกลงในวันที่ 30 พ.ย.ในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2017 โดยซาอุฯ จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงราว 486,000 บาร์เรลต่อวัน • ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในวันจันทร์จากความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจระบุในแถลงการณ์นโยบายครั้งใหม่ว่า ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมากเกินไป ขณะที่การทะยานขึ้นของราคาน้ำมันหนุนสกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ • ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้เป็นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกตลาดได้ปรับตัวรับการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดแล้ว และมุ่งความสนใจไปที่สัญญาณที่เฟดจะส่งออกมาเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินอีกในปีหน้า Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบด้านล่าง โดยฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ แต่ให้ระวังความผันผวนช่วงใกล้การประชุมเฟด [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ปัจจัยภายนอกยังคงผันผวน • S50Z16 ในวันศุกร์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบเเคบขาลงเป็นส่วนมากเปิดดตลาดที่ 958.00 จุด ทำจุดสูงสุดในวันที่ 960.00 จุด และจุดต่ำสุดในวันที่ 952.50 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวในขาลงประมาณ 8 จุด เคลื่อนไหวไม่เเตกต่างจาก SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,526.32 จุด มีปริมาณการซื้อขายที่ 43,866.49 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +373.76 ล้านบาท ถือว่าเบาบางเนื่องจากเป็นปลายสัปดาห์ซึ่งมีวันหยุดยาวนักลงทุนปิดสถานะลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงเนื่องจากตลาดต่างประเทศซึ่งไม่ได้ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค. โดยมีเเรงซื้อเข้ามาในกลุ่มธนาคารเเละกลุ่มพลังงานจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวดีดสูงขึ้น อย่างไรก็ตามถือว่าตลาดเริ่มปรับขึ้นในกรอบจำกัดเเละค่อนข้างหมดเเรงเเละมีเเรงขายทำกำไรกดดันให้ย่อตัวลงมาจากปัจจัยภายนอกที่ค่อนข้างรุมเร้า ค่าเงินดอลลาร์ยังคงเเข็งค่าเเละกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าอยู่ที่บริเวณ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ ประเด็นที่สำคัญสำหรับตลาดทั่วโลก ณ ขณะนี้ได้เเก่ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค.59 ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นรุนแรงตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามขอให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวังและติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากปัจจัยภายนอกยังคงผันผวน • แนะนำ : Wait & See รอผลการประชุม FED ก่อน, ไม่ควรเปิดสถานะรับความเสี่ยง ปัจจัยที่ต้องติดตาม - การประชุมของ FED ช่วง 14-15 ธ.ค.(เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) - ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นรุนแรง ข่าวในประเทศ - ‘ประยุทธ์’ สั่งเร่งแผนพัฒนาแรงงาน รับเขตเศรษฐกิจพิเศษ-ไทยแลนด์ 4.0 : นายกฯ สั่งกระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักพิจารณาจัดทำแผนแม่บทพัฒนาแรงงานไทยระยะ 5 ปี (2560-2564) โดยให้ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจ การลงทุนและแรงงานในปัจจุบัน ความต้องการแรงงานในภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศ - กม.หุ้นเริ่มบังคับใช้เข้มโทษอาญา-แพ่ง : ก.ล.ต. เผยว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับที่ 5 แล้ว ทำให้ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป - (SAMARTZ16) SAMART จ่อเซ็นงานพันล้าน ปี'60 : SAMART จ่อเซ็นงานใหม่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ภายในปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้าและอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง หวังได้รับงานเติม Backlog ทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต ขณะที่เดินหน้าลุยทุกธุรกิจเต็มสูบเล็งคลอดแผนปี 2560 ต้นปีหน้า อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น