วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 29 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดี ที่ 29 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าจากจุดสูงสุด รวมทั้งแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงที่เริ่มมีเข้ามา เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มปิดปรับตัวลดลงหลังจากทดสอบจุดสูงสุดเช่นกัน ทำให้ทองคำเริ่มได้รับแรงหนุนกลับมาหลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่อง วันนี้ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานและสต็อกน้ำมัน ว่าจะช่วยหนุนราคาทองได้หรือไม่ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.28% โดยปิดที่ 1,142.05 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,136.14 – 1,144.44 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,147 เหรียญ ราคาทองเริ่มดีดกลับได้เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมทั้งสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มเจอแรงขายทำกำไร เช่นดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลดลงประมาณ 0.5% รวมทั้งแรงหนุนจากอุปสงค์ในจีนและรัสเซียในช่วงสิ้นปี และจากคำสั่งซื้อชดเชยของนักลงทุน โดยในคืนนี้ติดตามตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงาน และน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์ ว่าจะช่วยหนุนราคาทองคำให้ทะลุเหนือ 1,150 เหรียญได้หรือไม่ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันพุธ และเข้าใกล้จุดสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2015 ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันในวันพฤหัสบดี และในขณะที่นักลงทุนรอดูหลักฐานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงมากเพียงใดในปี 2017 • ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินเพิ่มขึ้น 4.7% แล้วในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา • ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับปอนด์ในวันพุธจากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit ในปีหน้า ขณะที่การคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวมากขึ้นช่วยหนุนดอลลาร์ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 3.2 ดอลลาร์สู่ 1,142.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในจีนและรัสเซียในช่วงสิ้นปี และจากคำสั่งซื้อชดเชยของนักลงทุน โดยปัจจัยเหล่านี้ช่วยบดบังแรงกดดันที่ราคาทองได้รับจากการแข็งค่าของดอลลาร์ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบ หรือรอ follow long เมื่อ breakout 1,150 เหรียญ [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ระวังแรงขาย • S50Z16 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นหลักตั้งเเต่เปิดตลาดในภาคเช้าที่บริเวณ 946.70 ก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 951.90 จุด และย่อตัวลงมาปิดตลาดบริเวณ 951.00 จุด เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับ SET index ที่ปิดตลาดบริเวณ 1,524.60 จุด มีปริมาณการซื้อขายที่ 32,828.60 ลบ.ถือว่าเบาบางอยู่แม้จะเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า คาดการณ์เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มกองทุนและสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า 2,087.00 ลบ.เพื่อเข้ามาทำ Window Dressing ในช่วงปลายปีโดยเป็นเเรงซื้อที่เข้ามาในกลุ่มพลังงานเป็นหลักหลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นในวันโดยราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 54.18 USD/bbl ในขณะที่ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องหลังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่า USD index ปรับตัวขึ้นจากระดับ 102.88 ขึ้นเป็น 103.17 จุด สวนทางกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่อัตราผลตอบเเทนลดลงที่บริเวณ 2.4970% ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าวันนี้ปริมาณการซื้อส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศเป็นหลักและมีแนวโน้มที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะย่อตัวลงมาที่บริเวณ 948.00 จุด เนื่องจากมี Upside ที่จำกัดแล้วและนักลงทุนส่วนมากเริ่มปิดสถานะลงทุนเนื่องจากเข้าใกล้วันหยุดยาวในช่วงปลายปี • แนะนำ : ไม่ถือสถานะลงทุน, ระวังแรงขาย ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อวานที่ 54.18 USD/bbl ข่าวในประเทศ - กระทรวงอุตสาหกรรมรื้อโครงสร้างปีหน้า-เอกชนชี้ทำงานคล่องตัว : กระทรวงอุตสหากรรมเตรียมปรับโครงสร้างรอรับไทยแลนด์ 4.0 มุ่งเน้นบทบาทส่งเสริมและความร่วมมือเอกชน คาดเริ่มใช้กลางปีหน้า ขณะเอกชนมั่นใจมากขึ้น หลังมีกรอบเวลาชัด มั่นใจหลังปรับโครงสร้างการทำงานคล่องตัวกว่าเดิม - ชงแก้พรบ.ร่วมทุน เอื้อโครงการพีพีพี สคร.หวังดันร่วมทุน ‘รัฐ-เอกชน’ 4.7 หมื่นล.ต่อปี จ้างที่ปรึกษาวางเกณฑ์ขายหลักทรัพย์ที่คลังไม่จำเป็นต้องถือหุ้น 100 กิจการ กว่า 5 พันล้าน : สคร.เปิดแผนงานปี 60 เตรียมเสนอแก้ พ.ร.บ.ร่วมทุน กำหนดมูลค่าโครงการให้ชัดและไม่รวมการเช่าที่ดินราชพัสดุ แก้อุปสรรคการลงทุน หวังเอื้อให้เกิดโครงการพีพีพีไม่ต่ำกว่าปีละ 4.7 หมื่นล้านบาท ด้านคลังคาดเงินลงทุนภาครัฐใน 2 ไตรมาสแรกปี 60 จะสูงถึง 2 แสนล้าน เชื่อจะจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุนตาม - (TRUEZ16) TRUE ควัก268ล้าน ดึงพันธมิตรแคนาดา ตั้งบ.ร่วมทุนอัพฐาน : TRUE ทุ่มงบลงทุน 268.47 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน บริษัท แค็ป สตรีม เวนเซอร์ อิงค์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แคนาดา จำนวน 20 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.50 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 8.84% พร้อมร่วมกันตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น