วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 14 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 14 ธันวาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองคำยังโดนกดดันต่อเนื่อง โดยนักลงทุนติดตามการประชุมของเฟดในคืนนี้ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน โดยเชื่อวาราคาทองคำได้สะท้อนปัจจัยนี้ไปเยอะแล้ว และปัจจัยที่ต้องติดตามมากกว่าคือ มุมต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และมุมมองต่อเศรษฐกิจของเฟด ว่าจะเป็นอย่างไร โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงอ่อนแอ โดยขาดปัจจัยบวกในช่วงนี้ แต่การปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องทำให้หากมีปัจจัยเข้ามาสนับสนุนอาจทำให้ราคาดีดกลับได้แรงเช่นกัน Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 4.16 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.36% โดยปิดที่ 1,157.96 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,154.33 – 1,164.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,158 เหรียญ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการประชุมของเฟดที่จะมาถึงในคืนนี้ โดยการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่เชื่อว่าราคาทองคำได้สะท้อนปัจจัยนี้ไปพอสมควรแล้ว ทำให้ประเด็นที่น่าสนใจมากกว่าคือ มุมมองต่อแนวโน้มของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต รวมทั้งภาพรวมเศรษฐกิจของเฟด ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นปัจจัยถัดไปในการขับเคลื่อนราคาทองคำได้ โดยการประชุมในคืนนี้จะตรงกับเวลาประมาณ ตี 2 เวลาไทย ทำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำควรระมัดระวังการถือครองสถานะข้ามคืน โดยราคาทองยังคงขาดปัจจัยบวกในช่วงนี้ แต่การปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องทำให้หากมีปัจจัยเข้ามาสนับสนุนอาจทำให้ราคาดีดกลับได้แรงเช่นกัน Exclusive News • กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงกันในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงรวมกัน 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และข้อตกลงดังกล่าวได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์นี้ จนราคาน้ำมันแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2015 อย่างไรก็ดี มีคำสั่งเทขายทำกำไรเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงหลังจากนั้น • ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันอังคารจากความไม่แน่นอนที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วหรือช้าในการประชุมนโยบายที่สิ้นสุดในวันพุธนี้ ขณะที่ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกในปี 2007-2009 • นางโจนี เทเวส จากบริษัทยูบีเอส โกลบัล รีเสิร์ชระบุว่า "ถ้อยแถลงของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มที่จะตอกย้ำว่า แนวโน้มเศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงที่ 'สมดุล' และสิ่งนี้จะบ่งชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แทนที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้" Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • นโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบด้านล่าง โดยหากหลุดจุดต่ำสุดเดิมให้ follow short เพื่อทำกำไรเร็ว แต่ระวังการดีดกลับเช่นกัน [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ผันผวนตาม FED... • S50Z16 เมื่อวานเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนคาดมาจากมุมมองของนักลงทุนที่หลากหลายต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯซึ่งนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าตลาดรับข่าวไปมากแล้วก็อาจเข้ามาถือสถานะลงทุนต่อในขณะที่นักลงทุนที่ยังไม่มั่นใจและรอมติของธนาคารกลางสหรัฐฯอย่างเป็นทางการก็อาจปรับสถานะการลงทุนหรือถือเงินสดส่งผลให้ตลาดเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนโดย S50Z16 ลงไปทำจุดต่ำสุดในวันช่วงภาคเช้าที่ 950.10 จุด หลังจากนั้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 962.00 จุดในการซื้อขายภาคบ่าย ก่อนปิดตลาด 960.50 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับด้าน SET index แต่มีความผันผวนที่รุนแรงกว่าเนื่องจากเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดย SET index ปิดตลาดที่ 1,530.21 จุด มีความพยายามจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนมีปริมาณการซื้อขาย 49,796.09 ล้านบาทอยู่ในเกณฑ์ปานกลางในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองขายสุทธิ -1,617.4 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายในวันคาดอาจเกิดขึ้นสองกรณีได้แก่ 1.ปริมาณการซื้อขายเบาบางรอผลการประชุม FED, 2.มีความผันผวนรุนแรงจากการปรับสถานะการลงทุนรวมทั้งจากการเก็งกำไรทิศทางฯ ซึ่งทั้งสองประเด็นฝ่ายวิจัยมองว่าทำให้ตลาดยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทางแม้แนวโน้มระยะสั้นจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นก็ตามซึ่งมองว่าเป็นการปรับตัวขึ้นโดยไร้ปัจจัยรองรับและ Upside จำกัดแล้ว • แนะนำ : ฝ่ายวิจัยคงมุมมองเดิม Wait & See รอผลการประชุม FED ก่อน, ไม่ควรเปิดสถานะรับความเสี่ยง ปัจจัยที่ต้องติดตาม - การประชุมของ FED ช่วง 14-15 ธ.ค.(เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) - ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นรุนแรงเหนือระดับ 55 USD/bbl ข่าวในประเทศ - กรมบัญชีกลางระบุเบิกจ่าย 2 เดือนแรกสูงกว่าเป้า 2.4% : "กรมบัญชีกลาง" เผยผลการเบิกจ่ายภาพรวมช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 60 เบิกจ่ายได้ 18.46% สูงกว่าปี 2.43% คาดสิ้นไตรมาสแรกผลการเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าปีที่ผ่านมา - พรบ.ใหม่ไม่กระทบซื้อขายหุ้น : ตลาดหลักทรัพย์ประเมินการบังคับใช้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่ไม่กระทบมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้น เผยระยะแรกนักลงทุนอาจกังวล แต่เป็นสัญญาณที่ดีในการตื่นตัว เร่งทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน ด้านสมาคมบล.นัด ก.ล.ต.หารือแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน - "คลัง" ดันจีดีพีโต3.4% เพิ่มวัน "ชอปช่วยชาติ" : ครม. "ไฟเขียว" มาตรการชอปช่วยชาติปี 59 เพิ่มเป็น 18 วัน มั่นใจสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปี 58 เป็น 2 หมื่นล้านบาท ด้าน "อภิศักดิ์" มั่นใจจีดีพีปี 60 โต 3.4% อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น