วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงแรงกว่า 34.10 ดอลลาร์ โดยปิดที่ 1,225.58 โดยราคาได้ปรับตัวต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิม บริเวณ 1,240 เหรียญ ทำให้มีแรงขายออกมาอีกครั้ง และราคาไปทำจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ 1,213 เหรียญ ในเช้านี้ โดยราคาทองคำโดนกดดันจากความกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งแรงขายทำกำไรจากกองทุน SPDR ทำให้ราคาทองมีแนวโน้มที่แย่ลง แต่ระยะสั้นอาจจะลุ้นการดีดกลับสั้นๆ หลังจากปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อน Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 34.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -2.71% โดยปิดที่ 1,225.58 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวันศุกร์เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,219.40 – 1,265.40 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,219 เหรียญ ราคาทองคำโดนกดดันต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นความกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในอนาคต หลังจากนายทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี รวมทั้งมีตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ โดย ม.มิชิแกนปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเป็น 2.7% และกองทุน SPDR ยังปรับลดการถือครองทองคำลงอีก 7.12 ตัน ทำให้ถือครองเหลือ 934.56 ตัน ทำให้ภาพรวมราคาทองคำโดนกดดันต่อเนื่องและทำจุดต่ำสุดใหม่ ในรอบกว่า 5 เดือนหลังจาก ราคาทองคำเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,240 เหรียญ Exclusive News • กลุ่มโอเปกระบุในวันศุกร์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพุ่งขึ้นสู่ 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค. โดยปรับขึ้น 240,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนก.ย. กลุ่มโอเปกวางแผนจะจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน แต่นักลงทุนไม่แน่ใจว่า กลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.หรือไม่ และกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ • ดอลลาร์แข็งค่าสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินสำคัญในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมามากที่สุดในรอบ 1 ปี ขณะที่นักลงทุนคาดว่า รัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ • นักลงทุนคาดว่า ข้อเสนอของนายทรัมป์ที่จะส่งกลับผู้อพยพผิดกฏหมาย, การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีใหม่และการออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังครั้งใหญ่จะหนุนอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับหยวนและเปโซสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการคาดการณ์ที่ว่า บรรดาตลาดเกิดใหม่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด หากนายทรัมป์ดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าตามที่หาเสียงไว้ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559) • นโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ • Strategy : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง Short แล้วเปลี่ยนมา trading ในกรอบ 1,210 – 1,240 เหรียญ Smart Stock Today Strategy: ยังไม่สดใส • S50Z16 เมื่อวันศุกร์สิ้นสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเคลื่อนไหวลดลงค่อนข้างรุนแรงตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้าเปิดกระโดดลงมาที่ 940.50 จุด ก่อนปรับตัวลดลงต่อเนื่องตลอดวันปิดปรับลดลงกว่า 12 จุดถือเป็นทิศทางขาลงช่วงสั้นค่อนข้างชัดเจนเช่นเดียวกับดัชนี SET ซึ่งไม่สามารถยืนเหนือ 1,500 จุดได้ลงมาปิดตลาดที่ 1,494.53 จุดนักลงทุนต่างชาติยังคงมุมมองขายสุทธิต่อเนื่อง ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวบวก/ลบสลับกัน ฝ่ายวิจัยมองว่าตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยบวกและภาพรวมการลงทุนทั่วโลกค่อนข้างไม่สดใสจากหลากหลายปัจจัยได้แก่ 1.ทองคำและน้ำมันปรับตัวค่อนข้างรุนแรงโดยทองคำมีแรงขายลงมาที่บริเวณ 1,215 USD/toz น้ำมันปรับตัวลงต่ำกว่า 43.50 USD/bbl 2.เงินบาทอ่อนค่ารุนแรงถึง 35.39บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 3.ความกังวลปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจหลังนายทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดสหรัฐฯ ซึ่งหลากหลายปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทางปรับตัวขึ้นลงผันผวนตามปัจจัยที่เข้ามากระทบในช่วงสั้นเรื่อยๆ มีกรอบการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างจำกัดมองว่า Upside ยังไม่มากซึ่งฝั่งซื้อ(Long Position)จะได้เปรียบอีกครั้งหลังดัชนี SET สามารถยืนเหนือ 1,500 จุดได้อย่างมั่นคง • แนะนำ : ฝั่งขายยังได้เปรียบซื้อขายในกรอบราคา 925-940 จุด, ยังไร้ปัจจัยบวก ปัจจัยที่ต้องติดตาม - เงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ารุนแรง - USD index แข็งค่าขึ้น, ทองคำและน้ำมันดิบปรับลดลงรุนแรง - การประชุม OPEC วันที่ 30 พ.ย. ข่าวในประเทศ - เอ็นพีแอลสินเชื่อบุคคลเดือน ก.ย. วูบ 31% : Non-Bank ฉุดยอดเอ็นพีแอลรวมทั้งระบบเดือน ก.ย ลดลงถึง 31% ทำให้หนี้เสียบัตรเครดิตยังขยับต่อด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่าสิ้นเดือน ก.ย. หรือไตรมาส 3 ที่ผ่านมาสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงินมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 3.33 แสนล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนเพิ่มขึ้น 1.17 หมื่นล้านบาท หรือ 3.65% เป็นสินเชื่อของ Non-Bank 1.77 แสนล้านบาทและของธนาคารอีก 1.57 แสนล้านบาทและทั้งระบบมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม 1.15 หมื่นล้านบาทลดลง 5,198 ล้านบาทหรือ 31.06% ส่วนใหญ่ลดลงจากสินเชื่อของ Non-Bank - หนี้เสียภาคธุรกิจส่อเพิ่มถึงต้นปี’60 : สภาองค์กรนายจ้างแนะจับตาหนี้เสียเอสเอ็มอีหลังแบงก์ชาติชี้เอ็นพีแอลแบงก์พุ่งสูงสุดรอบ 5 ปี โดยนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทยเปิดเผยว่ามีแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในภาคธุรกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2560 โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเนื่องจากขณะนี้เริ่มขาดสภาพคล่องเพราะยอดขายทั้งการส่งออกที่ปี 2559 ภาพรวมติดลบหรืออาจโต 0% ประกอบกับกำลังซื้อภายในประเทศทิศทางยังคงไม่ขยายตัวจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะปัจจัยจากราคาข้าวที่ตกต่ำซึ่งจะกระทบเป็นห่วงโซ่ต่อเนื่องไปยังภาคการผลิตอื่นๆ อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น