วันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 12 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 12 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมากกว่า 1.5% หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทองคำได้รับแรงหนุนในแง่สินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งปัจจัยความไม่สงบของซีเรีย และการเลือกตั้งรอบแรกในฝรั่งเศสที่ใกล้จะเข้ามาถึง รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุน SPDR ช่วยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นแรง และทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือนได้ วันนี้ติดตามดัชนีราคานำเข้าและควรระมัดระวังการถือสถานะ เนื่องจากตลาดไทยปิดทำการใน 2 วันที่เหลือของสัปดาห์ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.83 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.58% โดยปิดที่ 1,274.06 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,252.90 – 1,275.16 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,277 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยราคาทองมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ และขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน บริเวณ 1,275 เหรียญ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองมี 3 ปัจจัยหลักคือ 1.ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับซีเรีย รวมทั้งเกาหลีเหนือ และตะวันออกกลาง 2. การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก ที่ฝั่งขวาจัดมีโอกาสที่จะเข้าเป็นตัวแทนในการเลือกตั้งรอบสุดท้าย 3.กองทุน SPDR สะสมทองต่อเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อคืนนี้ซื้ออีก 4.15 ตัน ทำให้ถือรวม 842.41 ตัน ทำให้ทองคำมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง และในวันนี้ติดตามดัชนีราคานำเข้า และระมัดระวังการถือครองสถานะ เนื่องจากตลาดไทยปิดทำการในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์นี้ และมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคของสหรัฐฯ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียแจ้งเจ้าหน้าที่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ว่า ซาอุดิอาระเบียต้องการจะต่ออายุมาตรการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปอีก 6 เดือน เมื่อกลุ่มโอเปกจัดการประชุมในเดือนพ.ค. • ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ในวันอังคาร โดยอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับเยน ขณะที่ความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงกระตุ้นให้บรรดาเทรดเดอร์เทขายดอลลาร์ออกมา • เยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ จากความวิตกเกี่ยวกับซีเรียและเกาหลีเหนือ รวมถึงการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันขณะที่ความวิตกเพิ่มขึ้น • นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมีความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจดำเนินการโจมตีทางการทหารต่อซีเรียและเกาหลีเหนือ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ • เหตุการณ์ความไม่สงบทั่วโลก • ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภค • Strategy : trading long ได้เปรียบ หากราคายืนเหนือ 1,275 เหรียญได้ต่อ แต่ถ้าไม่ระวังแรงขายทำกำไร [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิ สำหรับวันนี้เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเราคาดว่ามูลค่าการซื้อขายระหว่างวันจะเบาบางลงอย่างชัดเจนรวมทั้งอาจมีแรงขายทำกำไรปรับพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาวบางส่วน สำหรับภาพรวมการซื้อขายเมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นนำไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างโดดเด่นแม้มีแรงขายในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า ต่างจากตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวและปิดในแดนลบจากความกังวลประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศที่ดูเหมือนเริ่มจะมีความตึงเครียดมากขึ้นโดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่ประเทศพันธมิตรของซีเรียและรัสเซียเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านและย้ำเตือนสหรัฐฯ ในเรื่องบทบาทระหว่างประเทศ ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับแรงกดดันดังกล่าวเช่นกันเพียงแต่รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากความกังวลเรื่องอุปทานที่อาจลดลงในช่วงนี้ก็เป็นปัจจัยบวกที่มีต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศซึ่งถ่วงน้ำหนักในดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าบริเวณ 996.60 จุด มีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,001.90 จุด ซึ่งสามารถทะลุระดับนัยสำคัญที่ 1,000 จุด ได้แต่ก็มีแรงขายกดดันในช่วงท้ายตลาดไม่สามารถยืนเหนือ 1,000 จุด ได้อย่างมั่นคงและปิดตลาดที่ 999.80 จุด +2.7 จุด ในขณะที่ดัชนี SET index ปิดตลาดที่ 1,582.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เริ่มกลับมาคึกคักกว่า 44,659.19 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +753.66 ล้านบาท เเละบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ +613.73 จุด ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง -758.93 ล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิตลอดเดือนเมษายนลดลงเหลือเพียง +1,335.37 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรามองว่าตลาดหุ้นไทยและสัญญาฯ มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบและอาจมีแรงขายทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงบางส่วนจากช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นหากนักลงทุนไม่ต้องการรับความเสี่ยงแนะนำให้ถือเงินสดรอไปก่อนเนื่องจากกรอบการเคลื่อนไหวอาจถูกจำกัดด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันและความผันผวนที่เกิดจากทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบกดดันให้ตลาดอาจเคลื่อนไหวอย่างไม่มีแนวโน้ม • Strategy : Wait & See, ไม่ถือสถานะลงทุนข้ามสัปดาห์ ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศในตะวันออกกลางที่เริ่มรุนแรงขึ้นอย่างใกล้ชิด ข่าวในประเทศ - ไอพีโอยังคึกต่อ ตลท.ยันได้ตามเป้า/ ชี้ขัดแย้งต่างประเทศไม่กระทบ: ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้มั่นใจว่า ยังเห็นบริษัทที่จะไอพีโอเข้ามาจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และสามารถถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมี มาร์เก็ตแคป 2.8 แสนล้านบาท เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีมาร์เก็ตแคปหุ้นเข้ามาใหม่รวม 9.39 หมื่นล้านบาท จากทั้งหมด 9 แห่ง - ศสค. โต้เวิลด์แบงก์ยันเศรษฐกิจไทยเริ่มเติบโตอย่างยั่งยืน: สศค.โต้รายงานธนาคารโลกที่ระบุว่าไทยยังต้องปรับปรุงนโยบายหลายด้าน ยันขณะนี้ เศรษฐกิจไทยกำลังมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ถือว่า ตอบสนองต่อข้อเสนอแนะของธนาคารโลกที่ได้จัดทำเมื่อปลายปีก่อนทั้งหมดแล้ว - ดัชนีความเชื่อมั่นทองคำ ไตรมาส 2 ปรับลดลง: ศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน เม.ย.2560 ปรับลดลง 5.68 จุด จากเดือน มี.ค. 2560 มาอยู่ที่ระดับ 62.37 จุด หรือ ปรับลดลง 8.35% จากระดับ 68.05 จุด โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาทองคำ คือ ทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ การแข็งค่าของเงินบาท และแรงขายเก็งกำไรของกองทุน - (BEMM17)BEM ควักงบ 2.2 หมื่นล้าน ลุยส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน: BEM เดินหน้าทุ่มงบราว 2.2 หมื่นล้านบาท ลุยโครงการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน รวม 27.7 กิโลเมตร พร้อมปักธงปี 2560 รายได้-กำไรทะยานต่อเนื่อง อานิสงส์เก็บเกี่ยวสายสีม่วงเต็มปี – ทางด่วนวงแหวนรอบนอกหนุน แถมเดินหน้าลุยชิงเค้กรถไฟฟ้าสายใหม่เพิ่มเสริมแกร่งระยะยาว อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น