วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ 17 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ 17 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงในวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ ที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภาคค้าปลีกที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งมีตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า เชื่อว่าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ที่ 70% แต่อย่างไรก็ตามกองทุน SPDR สะสมทองคำต่อเนื่องในเดือนนี้ ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัว Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 7.74 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.59% โดยปิดที่ 1,250.05 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาวันศุกร์เคลื่อนไหวในกรอบ 1,247.01 - 1259.15 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,253 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนราคาทองโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภาคค้าปลีกที่ยังปรับตัวดีขึ้น โดยในสัปดาห์นี้ติดตามการโต้วาทีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งจริง รวมทั้งตัวเลข GDP ของจีน การประชุมนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยของยุโรป และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ แต่ในด้านความต้องการทองคำของกองทุน SPDR มีการซื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยซื้อ 3.86 ตันในวันศุกร์ทีผ่าน ซึ่งคาดว่าราคาทองจะสามารถเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 1,250 เหรียญได้ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และจากตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้างจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะแสดงความเห็นมากยิ่งขึ้นเรื่องการปรับลดการผลิตน้ำมัน และปัจจัยนี้จะช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบให้อยู่สูงกว่า 50 ดอลลาร์ • ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันศุกร์และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 7 เดือนหลังข้อมูลยอดค้าปลีก ที่แข็งแกร่งของสหรัฐและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. • ดอลลาร์ลดช่วงบวกลงเมื่อเทียบกับเยนและยูโรหลังนางเจเน็ต เยลเลนประธานเฟดกล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องดำเนินภาวะเศรษฐกิจที่มีแรงกดดันสูงเพื่อพลิกฟื้นความเสียหายจากวิกฤติการเงินและนักวิเคราะห์กล่าวว่ามุมมองทางเศรษฐกิจของนางเยลเลนไม่ได้เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. • ยอดค้าปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย.หลังลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ • การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559) • Strategy : trading ในกรอบแคบ หรือ รอ follow เมื่อ breakout Smart Stock Today Strategy: ตลาดตอบสนองรวดเร็วและรุนแรง • S50Z16 ในวันศุกที่ผ่านมา (14 ต.ค.) เปิดตลาดมีแรงซื้อรุนแรงดันตลาดขึ้นไปซื้อขายในแดนบวกที่ 935 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 948 จุด มีกรอบการแกว่งตัวประมาณ 20 จุด ถือว่าผันผวนลดน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมาในสัปดาห์ก่อนแต่ยังแสดงให้เห็นว่าตลาดยังอยู่ในภาวะผันผวนต่อเนื่อง ด้านดัชนี SET หลัก ปิดบวก +67.65 จุด หรือเพิ่มขึ้นราว 4.59% มีปริมาณการซื้อขายที่ 105,761.63 ล้านบาท ถือว่ามีปริมาณการซื้อขายที่มากอย่างมีนัยสำคัญและซื้อขายในหลักแสนล้านบาทติดต่อเป็นวันที่สาม เป็นแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 13,524.98 ล้านบาท สวนทางกับแรงขายของนักลงทุนทั่วไปภายในประเทศที่ขายออกสุทธิ -12,252.20 ล้านบาท ในขณะที่ Fund Flow ต่างชาติไหลออกขายสุทธิที่ -2,572.74 ล้านบาท ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิดในช่วงนี้ได้แก่ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐซึ่งยังไม่มีความแน่นอน ซึ่งล่าสุดนางเยลเลนก็ออกมากล่าวแบ่งรับแบ่งสู้ต่อประเด็นดังกล่าวเพื่อลดความร้อนแรง ในขณะเดียวกันก็สร้างความคลุมเครือให้นักลงทุนพอสมควร และอีกปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่การดีเบตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่สามซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีประเด็นด้านแนวนโยบายมากกว่าประเด็นส่วนตัวเหมือนกับการดีเบตครั้งก่อนๆ • แนะนำ : ถือเงินสด, ตลาดผันผวนและยังไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน ปัจจัยกระทบทั้งภายในและภายนอก ปัจจัยที่ต้องติดตาม - การดีเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่สาม - Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทยและตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ข่าวในประเทศ - รัฐวิสาหกิจส่งรายได้เกินเป้าหมื่นล้าน : "สคร." เผยรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้ารัฐปีนี้ 1.33 แสนล้าน เกินเป้ากว่า 1 หมื่นล้าน รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงสุด คือ สำนักงานสลากฯ ปตท. และธนาคารออมสินเผยปีหน้าตั้งเป้านำส่ง 1.31 แสนล้านบาท งบลงทุน 5.2 แสนล้านบาท เป้าเบิกจ่ายที่ 95% - ‘อมุนดิ’ เมินบอนด์ไทย กังวลเศรษฐกิจจีนฉุดยิลด์ต่ำ : ‘อมุนดิ’ เชื่อผลตอบแทนตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ยังสูง 8-9% หลังแนวโน้มเงินลงทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้น แต่ให้น้ำหนักลงทุนไทยต่ำกว่ากลุ่ม เหตุเศรษฐกิจอิงกับจีนและผลตอบแทนต่ำเพียง 2-2.5% - กองทุนเลี้ยงชีพ 8 เดือนโต 9.54% : นายธีรนาถท รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ ระบุว่า ช่วงแปดเดือน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสุทธิ 962,000 ล้านบาท เติบโต 9.54% มีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน และนายจ้าง 17,000 บริษัท ขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดนายจ้างสูงสุด 25% หรือกว่า 4,000 บริษัท มีสมาชิก 640,000 คน และมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสุทธิ 129,000 ล้านบาท เติบโต 8.93% อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น