วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ 14 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ 14 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมทั้งตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตามทองคำไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังกดดันต่อเนื่อง และเมื่อคืนตัวเลขภาคการจ้างงานออกมาดีต่อเนื่อง วันนี้ติดตามตัวเลขค้าปลีก และ ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.22% โดยปิดที่ 1,257.49 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และราคาเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบ 1,252.90-1,261.78 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,258 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ปรับตัวอ่อนแอกว่าคาดการณ์ รวมทั้งความกังวลของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้มีแรงหนุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่น เงินเยน และเงินสวิสฟรังก์ แต่ตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ต่อเนื่อง ส่งผลให้โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ได้รับแรงหนุนไม่มากนัก แต่กองทุน SPDR กลับมาซื้อทองคำเพิ่ม 2.67 ตัน และในคืนนี้ติดตามตัวเลขค้าปลีก และถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ราคาทองอีกครั้งในคืนวันศุกร์ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพฤหัสบดีหลังจากรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินดิ่งลงอย่างรุนแรง และตัวเลขดังกล่าวบดบังการพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ • ดอลลาร์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนในวันพฤหัสบดี ขณะที่ความต้องการเสี่ยงลดลงหลังจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอ โดยดัชนีดอลลาร์ร่วงลงเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดในรอบ 1 เดือน • ดอลลาร์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อเทียบกับเยนและฟรังก์สวิส โดยสกุลเงินปลอดภัยสองสกุลนี้ได้แรงหนุนจากช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดทางการเมืองหรือการเงิน • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 2.76 ดอลลาร์ สู่ 1,257.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง และตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลง เนื่องจากมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีน • นายแพทริค ฮาร์เคอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหนึ่งครั้งก่อนสิ้นปีนี้ และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2017 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในสภาพดีโดยนายฮาร์เคอร์จะมิสิทธิในการออกเสียงในปีหน้า Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ • การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559) • Strategy : trading ในกรอบแคบ หรือรอ follow เมื่อ breakout Smart Stock Today Strategy: ตั้งสติในภาวะผันผวน • S50Z16 เมื่อวานนี้มีเเรงขายออกมาตลอดวัน (ก่อนกลับมาบวกรุนแรง) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีเเรงขายกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง S50Z16 เปิดตลาดเช้าที่ 883.00 จุด มีความพยายามที่จะขึ้นไปปิดช่องว่างราคาที่หลุดลงมาเเต่ต้านทานเเรงขายไม่ได้ ร่วงลงอย่างรุนแรงจนถึง ช่วงบ่ายเหมือนพยายามจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในวันเดิมเเต่ไม่สามารถทานเเรงขายได้อีกครั้ง มีจุดต่ำสุดที่ 857.00 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวที่กว้างเเละรุนเเรงมากพอสมควร (68.20 จุด) สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อตลาด อย่างไรก็ตามในช่วง 16.00 น. มีแรงซื้อเข้าตลาดรุนแรงดันดัชนีบวกขึ้นไปกว่า 50-60 จุด จากจุดต่ำสุดซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าอาจเป็นเเรงซื้อของนักลงทุนสถาบันซึ่งซื้อสุทธิกว่า 9,712.9 ล้านบาท ในดัชนี SET หลักที่กลับเข้ามาผยุงตลาด อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าตลาดยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ยังไม่ชัดเจนทั้งภายในประเทศและ ปัจจัยระดับโลก รุมเร้ามากมายเช่นค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงโดยอ่อนค่าที่สุดในรอบเเปดเดือน พร้อมเผชิญ Fund Flow ที่ไหลออกทั้งหุ้นเเละตราสารหนี้ที่ไหลออกต่อเนื่อง รวมทั้งคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ เรายังมองว่าอารมณ์ตลาดค่อนข้างผันผวนอ่อนไหวต่อปัจจัยรอบด้าน แนะนำให้ถือเงินสดก่อนรอความชัดเจน • แนะนำ : ถือเงินสด รอให้อารมณ์ตลาดเข้าสู่ภาวะปกติ ปัจจัยที่ต้องติดตาม - เงินบาทอ่อนค่ารุนแรงต่อเนื่อง - ราคานำมันดิบโลกยังคงผันผวนจากความกังวลการปฏิบัติตามข้อตกลงของโอเปก - ปัจจัยภายในประเทศที่มีผลต่อจิตวิทยาการลงทุน ข่าวในประเทศ - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปิดเผยว่า บาทปิดตลาดเย็นเมื่อนี้อยู่ที่ระดับ 35.65 บาท/ดอลลาร์ กลับมาแข็งค่าจากเช้าเมื่อวานที่เปิดตลาดท 35.69/73 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันค่อนข้างผันผวนแกว่งอยู่ในกรอบ 35.61-35.88 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าสุดตั้งแต่ต้นปี 59 เป็นผลจากปัจจัยภายในประเทศ และจากนั้นในช่วงเย็นเมื่อวาน บาทก็ค่อยกลับมาแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.50 - 35.75 บาท/ดอลลาร์ - ตลท.ยืนยันเข้มงวดการตรวจสอบ หลังวอลุ่มเทรดพุ่ง ราคาหุ้นขยับแรง มั่นใจระบบเอาอยู่หากวอลุ่มเทรดสูงกว่านี้ เตือนนักลงทุนใช้สติในการพิจารณาพอร์ตลงทุน หารือ ก.ล.ต.ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีทาง ต.ล.ท.ยืนยันว่าให้ความร่วมมือกับทางกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง และได้มีการหารือกันอยู่เสมอ โดยขณะนี้ก็ยังไม่ได้พบความผิกปกติใดเกิดขึ้นแต่ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น