วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 12 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 12 ตุลาคม 2559 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 11 สัปดาห์ โดยปัจจัยที่สนับสนุนคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูงในเดือน ธ.ค. นี้ โดยวันนี้มีประเด็นที่กล่าวถึงคือมูลค่าของ MBS ในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากวิกฤต subprime ซึ่งมีโอกาสที่ประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองได้ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 6.61 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.52% โดยปิดที่ 1,252.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบ 1,252.10 - 1262.16 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,257 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องและพุ่งแตะขึ้นจุดสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ ทำให้ราคาทองคำถูกกดดันต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เหนือ 1,250 เหรียญได้ โดยในวันนี้เริ่มมีการพูดถึงประเด็นของ MBS ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2009 หลังจากวิกฤต subprime จนถึงปัจจุบันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งประเด็นนี้อาจจะกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้มีการอ่อนค่าได้และราคาทองมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หากยังสามารถเคลื่อนไหว 1,250 เหรียญได้ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันอังคาร หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)ระบุว่า ทางกลุ่มพยายามจะบรรลุข้อตกลงระดับโลกในการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน แต่นักลงทุนไม่มั่นใจว่า มาตรการดังกล่าวจะสามารถบรรเทาภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกได้มากน้อยเพียงใด • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 6.61 ดอลลาร์ สู่ 1,252.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. • นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวในวันอังคารว่า เขายอมรับได้กับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในเดือนธ.ค. แต่เขาต้องการจะรอดูว่าเศรษฐกิจกับภาวะเงินเฟ้อปรับตัวเช่นใด ก่อนจะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย • เทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 70 % ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยปรับขึ้นจากโอกาส 66 % ที่เคยคาดการณ์ไว้ในวันศุกร์ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ11 สัปดาห์ และส่งผลให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่นๆ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง • ธ.กลางจีนและรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้น Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ • การปรับค่าเงินหยวนของจีนเข้าสู่สกุลเงิน SDR ( 1 ต.ค. 2559) • Strategy : trading ในกรอบการรีบาวน์ โดยเน้นฝั่ง long [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ผันผวนตามจิตวิทยามวลชน • SET50 future (S50Z16) เมื่อวานนี้ถือว่ามีอารมณ์เชิงลบมากกว่าตลาดเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน โดยส่วนใหญ่เป็นปัจจัยด้านจิตวิทยามากกว่าปัจจัยพื้นฐานของดัชนี ดัชนีซื้อขายในแดนลบตลอดวัน มีแรงขายร่วมกันขายระหว่างสามกลุ่มนักลงทุนหลักได้ แก่นักลงุทนสถาบัน, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์เเละนักลงทุนต่างชาติ โดยเปิดตลาดที่ 933 จุด ปิดที่ 914.6 จุด (-13.6 จุด) ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 933.60 จุด มีจุดต่ำสุดที่ 907.10 จุด ตลอดวันมีกรอบการเคลื่อนไหว 26.50 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมของดัชนีหลัก (SET) ที่ 65,340.27 ล้านบาท ซึ่งซื้อขายในลักษณะลดลงรุนแรง แม้มีความพยายามจะดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าเเต่ต้องเผชิญแรงขายออกมาในช่วงบ่าย โดยกลุ่มที่นำตลาดลดลงคงจะหนีไม่พ้น กลุ่มท่องเที่ยวเผชิญเเรงขายจากความกังวลการก่อวินาสกรรมและสนามบิน ในขณะที่กลุ่มพลังงานบวกสวนดัชนีได้รับผลพลอยได้จากราคาน้ำมันที่ถูกกำหนดอุปทาน (แต่ในวันนี้ น้ำมันเริ่มราคาลดลงแล้ว) ในวันนี้ คาดการณ์ตลาดอาจมีแรงรีบาวด์แต่มีแนวโน้มจะซึมลง และให้ระวัง sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งเมื่อคืนลดลงกว่า1%-1.5%จากผลประกอบการต่ำกว่าที่คาดการณ์ และ ความกังวลการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุน • แนะนำ : เน้นเปิดสถานะขาย short position มากกว่า ปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวกในช่วงนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องที่ 35.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าที่สุดในรอบ 3 เดือน - ราคาน้ำมันที่ลดลงประมาณ 1% - 1.4% ค่ำคืนที่ผ่านมา ข่าวในประเทศ - หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวร่วงหลังหลังมีกระแสข่าวให้ระวังเหตุก่อความไม่สงบใน กทม.ช่วงปลายเดือน ต.ค.กดดันตลาดระยะสั้น ทำให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมีแรงขายสลับออกมาต่อเนื่อง นำโดยหุ้น AOT ซึ่งได้รับแรงกดดันจากความกังวลการก่อความไม่สงบโดยตรง - บาทอ่อนค่าอ่อนสุดรอบ 3 เดือน กสิกรฯ ชี้ดอยช์แบงก์ซ้ำเติมให้ผันผวนต่อ โดยความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมายังคงอ่อนค่าต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า โดยปิดตลาดที่ 35.30 บาท/เหรียญสหรัฐ อ่อนค่ามากสุดในรอบ 3 เดือน และอ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาด ที่ 35.16 บาท/เหรียญสหรัฐ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยต่างประเทศที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักในภูมิภาค - ตลาดหลักทรัพย์เปิดผลสำรวจ 126 ซีอีโอ บริษัทจดทะเบียน ช่วง 6 เดือนหลังปี 59 พบส่วนใหญ่เชื่อมั่นมีแนวโน้มดีขึ้น คาดเศรษฐกิจปีนี้โต 2-4% หวังนโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ-การท่องเที่ยวหนุน ขณะที่ห่วงกำลังซื้อลด หนี้ครัวเรือนพุ่งและเศรษฐกิจโลกซบ เป็นปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจไทย ขณะที่ประเมินรายได้ปีนี้ขยายตัวเกิน 6% อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น