วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 26 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 26 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,690/1,680 และแนวต้านที่ 1,715/1,730 กราฟรายวัน ส่งสัญญาณบวก จากราคาทองคำสามารถทะลุผ่าน Down Trend line และเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น มีแนวโน้มไปต่อ แต่อาจมีการย่อลงมาบริเวณแนวรับ ก่อนปรับตัวสูงขึ้นต่อ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,680 – 1,730 หรือรออ่อนตัวบริเวณแนวรับ เปิด Long เล่นรอบ โดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,660

แนวโน้มเป็นบวกเพิ่มมากขึ้น

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 26 ม.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,711.15 USDต่อออนซ์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,702 – 1,714 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบๆ หลังจาก ทำ New High เมื่อคืนวานนี้ที่ 1,714 โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับต่ำเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ และเฟดพร้อมจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงิน US Dollar อ่อนค่าลง ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ กองทุน SPDR เริ่มกลับมาซื้อทองคำเพิ่มเติมกว่า 9 ตัน หลังจากคงสถานะไว้นานหลายสัปดาห์ ส่งผลให้ราคาทองคำทะยายขึ้นเหนือเส้น Down Trend และสะท้อนถึงขาขึ้นที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาดูการแก้ไขวิกฤติหนี้ในยุโรป และการเจรจาระหว่างกรีซ และเจ้าหนี้ภาคเอกชน ซึ่งยังคงมีผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะกลาง โดยในระยะสั้นนี้ คาดว่าราคาทองคำยังสามารถไปต่อได้ แต่อาจอ่อนตัวลงก่อนที่บริเวณแนวรับเพื่อปรับฐาน โดยในคืนนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680 – 1,730

อัตราว่างงานของฝรั่งเศสในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1% จากเดือนพ.ย. และเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 297,000 คน รวมเป็นทั้งหมด 2.874 ล้านคน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะการยกเลิกการใช้มาตรการฟื้นฟู และหันมาใช้มาตรการรัดเข็มขัดแทน ทำให้ไม่ได้เพิ่มการสร้างงาน และกำลังเข้าสู่ระยะถดถอย สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอาจไม่ดีขึ้นไปอีกหลายเดือน และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มแตะ 10% ในเดือนเม.ย. เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นายนิโคลาส์ ซาร์โคซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อหนุนตลาดแรงงาน รวมถึงการอัดฉีดเงิน 500 ล้านยูโร (651.79 ล้านดอลลาร์) เพื่อใช้พัฒนาการฝึกฝนด้านวิชาชีพและการจ้างแรงงานอีก 1,000 รายในหน่วยงานของรัฐ

ธนาคารโลกเปิดเผยว่า จะจัดสรรเงินกู้ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง2 ปีข้างหน้า ให้กับประเทศในแถบยุโรปตะวันออกและเอเชียกลาง ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติในยูโรโซน โดยเพิ่มขึ้น 7 พันล้านดอลลาร์จากระดับในปี 2011 โดยการเพิ่มวงเงินกู้มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประเทศต่างๆในการรับมือกับวิกฤตการณ์ ซึ่งเงินทุนช่วยเหลือสำหรับปี 2012-2013 จะประกอบด้วยเงินกู้ของธนาคารโลก1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4 พันล้านดอลลาร์จากปีที่ผ่านมา ส่วนบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคเอกชนของธนาคารโลก จะจัดสรรเงินกู้1 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว 2 พันล้านดอลลาร์ และสำนักงานรับประกันการลงทุนพหุภาคี ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารโลก จะจัดสรรเงินกู้เพิ่มอีก1 พันล้านดอลลาร์ เงินกู้ดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการปฏิรูปโครงสร้างสำหรับภาคเอกชนรวมถึงการสนับสนุนภาคธนาคารและเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม

สื่อของกรีซ รายงานว่า เจ้าหนี้ภาคเอกชนของกรีซมีความตั้งใจที่จะปรับปรุง "ข้อเสนอสุดท้าย" ของการกำหนดอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรใหม่ของกรีซจากเดิมที่ 4% เพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ ทั้งนี้ ขณะที่กรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในเดือนมี.ค.นี้ เจ้าหนี้ภาคเอกชนก็กำลังพิจารณากำหนดอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 3.75%สำหรับพันธบัตรที่พวกเขาจะยอมรับเพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรที่ถือครองอยู่ นายชาร์ลส์ ดัลลารา ผู้อำนวยการสถาบันการเงินระหว่างประเทศ(IIF) และเป็นหัวหน้าผู้เจรจาสำหรับเจ้าหนี้ภาคเอกชน จะเดินทางกลับไปยังกรีซในวันนี้ เพื่อเริ่มการเจรจาครั้งใหม่กับบรรดาเจ้าหน้าที่กรีซที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรใหม่นับเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการเจรจา โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ), เยอรมนี และประเทศอื่นๆในยูโรโซนยืนยันว่า อัตราผลตอบแทนต้องอยู่ในระดับต่ำพอที่จะรับรองว่า หนี้ของกรีซจะกลับไปอยู่ในระดับที่สามารถชำระคืนได้ภายในปี 2020
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 20.30 น. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนธ.ค.
- 20.30 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- 20.30 น. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.
- 22.00 น. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
- 22.00 น. คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนธ.ค.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,690/1,680 และแนวต้านที่ 1,715/1,730 กราฟรายวัน ส่งสัญญาณบวก จากราคาทองคำสามารถทะลุผ่าน Down Trend line และเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น มีแนวโน้มไปต่อ แต่อาจมีการย่อลงมาบริเวณแนวรับ ก่อนปรับตัวสูงขึ้นต่อ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,680 – 1,730 หรือรออ่อนตัวบริเวณแนวรับ เปิด Long เล่นรอบ โดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,660
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.5/31.5 แนวต้านบริเวณ 33.7/34.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.5 – 34.0

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น