วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 20 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 20 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,660/1,670 และแนวรับที่ 1,645/1,640 กราฟรายวัน แสดงสัญญาณการเคลื่อนไหวในลักษณะ Side way เมื่อมีแนวต้านและแนวรับสำคัญที่ใกล้เคียงกัน และ MA หลายๆ เส้น เริ่มโน้มตัวเข้าหากัน คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640 - 1660 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,640 – 1,660 ผู้มีสถานะ Long ให้ปิดทำกำไร และรอเปิด Long ใหม่บริเวณแนวรับ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,634

ปรับฐานในระยะสั้น

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 20 ม.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,656.38 USDต่อออนซ์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,651 – 1,658 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำอ่อนค่าลงมา ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากราคาทองคำเริ่มได้รับอิทธิพลจากราคาน้ำมันมากขึ้นกว่าค่าขึ้นยูโร นอกจากนี้ การที่ภาคการผลิตของจีนอาจชะลอตัวลงในเดือนนี้ อาจส่งผลให้อุปสงค์ในทองคำลดลง และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำติดต่อกัน 3 สัปดาห์ สะท้อนถึงการปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และการอ่อนค่าของค่าเงิน US Dollar เมื่อค่าเงินยูโร ได้ปัจจัยบวกจากผลสำเร็จในการประมูลพันธบัตรในฝรั่งเศสและสเปน รวมถึงการคาดการณ์ว่า กรีซจะประสบความสำเร็จในการเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชน ส่งผลบวกแก่ราคาทองคำในระยะกลาง ดังนั้น คาดว่าการอ่อนตัวของราคาทองคำจะเป็นไปอย่างจำกัด เพื่อเป็นการปรับฐานในระยะสั้น โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640 – 1,660

กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับการสว็อปพันธบัตรอีกครั้งในวันนี้ ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าทั้งสองฝ่ายใกล้จะบรรลุข้อตกลงกันแล้ว ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้อย่างไม่เป็นระเบียบ รมว.คลังกรีซ กล่าววานนี้ หลังการเจรจากับนายชาร์ลส์ ดัลลารา ผู้อำนวยการสถาบันการเงินระหว่างประเทศ(IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายเจ้าหนี้ภาคเอกชนว่า "การเจรจามีบรรยากาศที่ดีโดยมีความคืบหน้าในเรื่องนี้ และเราจะเจรจาต่อไปในช่วงบ่ายวันศุกร์ ทางด้าน IIF ออกแถลงการณ์ที่คล้ายคลึงกับนายเวนิเซลอส โดยระบุว่าการเจรจา "ให้ผลที่น่าพึงพอใจ" ทั้งนี้ อาจจะมีการทำข้อตกลงกันในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่ กรีซใกล้ที่จะหมดเวลาในการทำข้อตกลงสว็อปพันธบัตรแล้ว และหวังพยายามทำข้อตกลงให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ม.ค. เพื่อให้มีโอกาสได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากต่างประเทศ ก่อนที่กรีซจะถึงกำหนดต้องชำระหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการไถ่ถอนพันธบัตรในเดือนมี.ค. โดยรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้เอกชนพยายามหาทางคลี่คลายความขัดแย้งในช่วงนี้หลังจากการเจรจาหยุดชะงักลงในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วในพันธบัตรใหม่ที่กรีซจะนำมาแลกกับพันธบัตรเก่า

ฟิทช์ เรทติงส์ คาดว่าการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ประเทศในยูโรโซนจะส่งผลให้มีการปรับลดอันดับของประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ลง 1-2 ขั้น ทั้งนี้ ฟิทช์ให้เครดิตพินิจเชิงลบแก่เบลเยียม, สเปน, สโลเวเนีย,อิตาลี, ไอร์แลนด์ และไซปรัสเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ฟิทช์ได้แจ้งต่อยูโรโซนในขณะนั้นว่า ฟิทช์คาดว่า ยุโรปจะไม่สามารถหาทางออกแบบเบ็ดเสร็จสำหรับวิกฤติหนี้ยูโรโซนได้ ขณะที่ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของยูโรโซนลงครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนนี้ สำหรับสเปน การทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือจะพิจารณาถึงการดำเนินการล่าสุดของรัฐบาลใหม่ในการลดค่าใช้จ่ายและทำการปฏิรูป แต่ "ยังมีปัญหาต่อเนื่องกับฐานะการคลังภาครัฐ และสินทรัพย์ธนาคารขณะที่ตลาดแรงงานก็ยังไม่ปกติ โดยการทบทวนจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนนี้
ทีมงาน "ทรอยกา" หรือคณะผู้ตรวจการณ์ของสหภาพยุโรป (อียู),ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเริ่มต้นการประชุมกับรัฐบาลกรีซในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูป และแผนการในการจัดทำมาตรการช่วยเหลือให้แล้วเสร็จ

ธนาคาร HSBC เปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคการผลิตของจีนในวันนี้ โดยระบุว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีแนวโน้มร่วงลงในเดือนม.ค.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และสิ่งนี้บ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ถึงแม้มีสัญญาณแสดงว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเริ่มบรรเทาลงแล้ว HSBC ระบุว่าดัชนี PMI สำหรับภาคการผลิต ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่เร็วที่สุดสำหรับกิจกรรมทางอุตสาหกรรมของจีน อยู่ที่ 48.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นจุดสูงสุดรอบ 3 เดือน และขยับขึ้นจาก 48.7 ในช่วงปลายเดือนธ.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางอุตสาหกรรมที่หดตัวลง โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ในช่วง 7 เดือน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 22.00 น. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,660/1,670 และแนวรับที่ 1,645/1,640 กราฟรายวัน แสดงสัญญาณการเคลื่อนไหวในลักษณะ Side way เมื่อมีแนวต้านและแนวรับสำคัญที่ใกล้เคียงกัน และ MA หลายๆ เส้น เริ่มโน้มตัวเข้าหากัน คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640 - 1660 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,640 – 1,660 ผู้มีสถานะ Long ให้ปิดทำกำไร และรอเปิด Long ใหม่บริเวณแนวรับ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,634
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 30.0/29.8 แนวต้านบริเวณ 30.8/31.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 29.8 – 31.5

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น