วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 17 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 17 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,665/1,675 และแนวรับที่ 1,645/1,635 กราฟรายวัน แสดงสัญญาณบวก เนื่องจากราคาสามารถผ่าน MA 50 และเส้น Stochastic ปรับตัวชี้ขึ้น มีโอกาสไปได้ต่อที่บริเวณ 1,665/1,675 แต่อาจมีแรงขายทำกำไรทุกแนวต้าน หากไม่หลุด 1,645 มีโอกาสไปแตะที่ 1,675 แนะนำ นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,635 – 1,675

แนวรับสำคัญที่ 1,645

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 17 ม.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,657.10 USD ต่อออนซ์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,656 – 1,667 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนออกมาสูงเกินคาด แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหลายๆ ประเทศในกลุ่มยูโรโซน และกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ทั้งนี้ จีน เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความต้องการทองคำในปริมาณที่สูง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีน เป็นต้น โดยในปีที่แล้ว จีนมีความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมจิวเวลลี่ เพิ่มขึ้น 16% มาอยู่ที่ 500 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากปี 2005 อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงิน US Dollar มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น และสถานการณ์ในยุโรปที่ยังคงมีความผันผวนสูง อาจกดดันราคาทองคำในระยะกลางได้ สำหรับคืนนี้ คาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้นต่อ ถ้าไม่หลุดแนวรับที่ 1,645 แต่ระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีแรงขายทำกำไรในทุกๆ แนวต้าน โดยคาดว่าคืนนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635 – 1,675

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีน มีอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจาก 9.1% ในไตรมาส 3 แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของ นักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจีดีพีอยู่ที่ 8.7% ในไตรมาส 4 ขณะที่จีดีพีของทั้งปีที่แล้วอยู่ที่ 9.2%

อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังฝรั่งเศสลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) โดยการประมูลตั๋วเงินคลังฝรั่งเศสในครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งแรกว่านักลงทุนต้องการซื้อตราสารหนี้ฝรั่งเศสมากเพียงใด หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เพิ่งปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงจาก AAA ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ม.ค.) สำนักบริหารตราสารหนี้ฝรั่งเศส (AFT) สามารถขายตั๋วเงินคลังระยะสั้นได้ในวงเงิน 8.6 พันล้านยูโร ซึ่งใกล้เคียงกับเพดานของกรอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่7.4-8.7 พันล้านยูโร การประมูลในครั้งนี้สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้อย่างมาก ถึงแม้ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของฝรั่งเศสลงจาก AAA สู่ AA+ โดยมีแนวโน้มเชิงลบ นอกจากนี้ S&P ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือะยะสั้นของฝรั่งเศสไว้ที่ A-1+

ประธานสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศยูโรโซนจะเป้าหมายข้อตกลงด้านวินัยทางการคลังและจะเสร็จสิ้นการ หารือเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวในปลายเดือนมกราคมนี้ ทั้งนี้ จะบังคับใช้กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (ESM) ภายในเดือนกรกฎาคม 2555 และจะประเมินขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และ ESM นอกจากนี้ อียูจะดำเนินการร่วมกับพันธมิตรนานาชาติเพื่อเพิ่มขนาดกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นในการผลักดันเศรษฐกิจและการจ้างงานให้ขยายตัว และยังกล่าวด้วยว่าผู้นำยุโรปควรจะเร่งดำเนินการในเรื่องกลยุทธ์การป้องกันภาวะถดถอย

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,665/1,675 และแนวรับที่ 1,645/1,635 กราฟรายวัน แสดงสัญญาณบวก เนื่องจากราคาสามารถผ่าน MA 50 และเส้น Stochastic ปรับตัวชี้ขึ้น มีโอกาสไปได้ต่อที่บริเวณ 1,665/1,675 แต่อาจมีแรงขายทำกำไรทุกแนวต้าน หากไม่หลุด 1,645 มีโอกาสไปแตะที่ 1,675 แนะนำ นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,635 – 1,675
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 29.4/29.0 แนวต้านบริเวณ 30.2/30.7 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 29.0 – 30.7

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น