ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,283 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวแคบ ๆ ในกรอบ 1,280-1,288 USDต่อออนซ์ โดยราคาปรับตัวขึ้นมาในช่วงปลายตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้ หลังจากมีการเปิดเผยถ้อยแถลงที่รองประธานและว่าที่ประธาน Fed คนใหม่ เจเน็ต เยลเลน จะอ่านต่อหน้าคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในคืนนี้ ซึ่งเป็นไปในเชิงบวกต่อการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(QE) และสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินในแนวทางเดียวกับ เบน เบอร์นันเก้ ทำให้ตลาดประเมินทันทีว่าจะไม่มีการยกเลิก QE อย่างกะทันหัน รวมทั้งน่าจะเป็นการทยอยปรับลดขนาดมาตรการลงหลายครั้งมากกว่าจะเป็นการปรับใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเข้าพบวุฒิสมาชิกในคืนนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ารับตำแหน่งประธาน Fed อย่างเป็นทางการ รอเพียงการรับรองจากสภา และเซ็นอนุมัติจากประธานาธิบดีเท่านั้น โดยขั้นตอนนี้จะเน้นไปที่การสัมภาษณ์แนวคิดเชิงนโยบายของว่าที่ประธาน Fed ซึ่งเปรียบเสมือนแนวทางปฏิบัติของ Fed ไปอีก 4 ปี ตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น ประเด็นการซักถามและคำตอบของ เจเน็ต เยลเลน ในคืนนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีผลกระทบต่อภาวะการลงทุนและเศรษฐกิจโลก
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)ของเยอรมันในไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 0.3% เทียบกับไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 0.7% เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศยังไม่สามารถขยายตัวได้เพียงพอที่จะช่วยชดเชยการส่งออกที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม การขยายตัวในไตรมาส 3 ได้รับแรงผลักดันจากอุปสงค์ภายในประเทศ โดยการลงทุนในอุปกรณ์และการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ขณะที่การบริโภคในภาคเอกชนและรัฐบาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เศรษฐกิจฝรั่งเศสในช่วงไตรมาส 3/2556 หดตัวลง 0.1% หลังจากที่ขยายตัว 0.5% ในช่วงไตรมาส 2 โดยการส่งออกปรับตัวลง 1.5% ในช่วงไตรมาส 3 ขณะที่การลงทุนในภาคธุรกิจลดลง 0.6% อย่างไรก็ตาม รมว.คลังฝรั่งเศสยังเชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะขยายตัว 0.1-0.2% ในปี 2556
ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของฝรั่งเศสในเดือน ต.ค.ลดลงเล็กน้อย 0.1% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากราคาพลังงานร่วงลง แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.6% แต่ชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 0.9% ในเดือน ส.ค.และ ก.ย.
ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของฝรั่งเศสในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 3.9 พันล้านยูโร เทียบกับที่ขาดดุล 3.6 พันล้านยูโรในเดือน ส.ค. เนื่องจากยอดขาดดุลการค้าในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 5.8 พันล้านยูโร จาก 5.4 พันล้านยูโร ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่ายอดเกินดุลการค้าในภาคบริการมีการขยายตัวเล็กน้อยก็ตาม
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 1.3% จากเดือน ส.ค. เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยา อาหาร และยาสูบที่ซบเซา ส่วนดัชนีผลผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมและเหมืองแร่อยู่ที่ระดับ 98.3 จากฐานที่ 100 ในปี 2553 นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ยังปรับลดดัชนีการส่งออกในภาคอุตสาหกรรมเหลือขยายตัว 1.5% จากรายงานเบื้องต้นที่ระดับ 1.6% ส่วนดัชนีสินค้าคงคลังภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.2% ไม่เปลี่ยยนแปลง
อินเดียเผยเงินเฟ้อเดือน ต.ค.ขยายตัว 7% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเดือน ก.ย.ที่ขยายตัว 6.46% บ่งชี้ถึงแรงกดดันที่มีต่อธนาคารกลางอินเดียที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ทั้งนี้ ค่าเงินรูปีที่อ่อนลง และปัญหาด้านอุปทานอาหารไปจนถึงพลังงาน ทำให้ค่าครองชีพในอินเดียสูงขึ้น แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลงก็ตาม
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม
- 20:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์ – อัตราการว่างงานล่าสุดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจนแตะ 7.2% บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่ดีขึ้นมาก แต่เป้าหมายของ Fed ที่ระดับ 6.5% ยังต้องรอจนกว่าตัวเลขรายสัปดาห์จะทรงตัวในระดับต่ำกว่า 3 แสนราย เสียก่อน ซึ่งคาดว่าผลกระทบจากปัญหา shutdown ได้หมดลงแล้ว แต่ยังต้องจับตาว่าตัวเลขในคืนนี้จะลดต่ำลงกว่าสัปดาห์ก่อน ซึ่งจะเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขอยู่ต่ำกว่า 3.3 แสนราย จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ แต่ถ้าอยู่สูงกว่า อาจเป็นผลบวกเล็กน้อย
- 20:30 ยอดผลผลิต นอกภาคเกษตรกรรม (เบื้องต้น) ไตรมาส 3/2013 – ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการผลิตที่ใช้เปรียบเทียบกับต้นทุนค่าแรงต่อหน่วยว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต โดยการประกาศตัวเลขที่เป็นบวก มักส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย
- 20:30 ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน นอกภาคเกษตรกรรม (เบื้องต้น) ไตรมาส 3/2013 – เป็นข้อมูลค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยเป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจในแง่อำนาจซื้อของประชาชน ซึ่งการประกาศตัวเลขในช่วงบวกหรือลบไม่เกิน 2% มักไม่ส่งผลต่อราคาทองคำ
- 20:30 ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ เดือน ก.ย. – การขาดดุลการค้ามีผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง แต่ไม่มีผลต่อราคาทองคำ
- 22:00 รองประธาน และว่าที่ประธาน Fed คนใหม่ เจเน็ต เยลเลน รายงานตัวต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภา – กระบวนการก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี บารัก โอบามา เปลี่ยนใจจาก ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ที่ขอถอนตัว มาเสนอชื่อลูกหม้อคนสนิทของ เบน เบอร์นันเก้ ซึ่งตามกฎหมาย จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาก่อนการรับตำแหน่ง ทำให้สิ่งที่นักลงทุนต้องติดตาม ไม่ใช่ถ้อยแถลงของ เจเน็ต เยลเลน แต่เป็นคำถามเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินของ Fed ที่วุฒิสมาชิกจะถาม ซึ่งจะสามารถคาดคะเนมาตรการของ Fed ในปีหน้าได้
- 23:00 ยอดสต๊อกน้ำมันดิบ รายสัปดาห์ – โดยทั่วไป หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากสัปดาห์ก่อนหน้าเกิน 10 ล้านบาร์เรล การประกาศตัวเลขนี้จะไม่มีผลต่อราคาทองคำ
Technical Analysis:
ทองคำ ราคาทองคำเมื่อดูจากกราฟราย 1 ชม. macd line ตัดขึ้นเหนือเส้น signal line เป็นการ confirm สัญญาณ Bullish Divergence ที่เกิดขึ้น ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,280/1,287 และให้แนวรับบริเวณ 1,268/1,260
โลหะเงิน โลหะเงินปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาโลหะเงินอยู่ต่ำกว่าเส้น moving average 200 ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาลง แต่ราคาโลหะเงินเริ่มใกล้เข้าสู่แนวรับสำคัญแล้ว ราคามีโอกาสรีบาวน์ได้ โดยคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 20.85/21.05 และให้แนวรับบริเวณ 20.6/20.3
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น