วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 11 ตุลาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

Today Strategy:  Gold  ราคาร่วงลงแรง ถ้ายืนเหนือ 1,285 – 1,280 ไม่ได้จะร่วงลงต่อไปที่บริเวณ 1,270/1,265 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,300/1,310 แนวรับบริเวณ 1,280/1,265  แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน  SET50 หุ้นโลกตอบรับเชิงบวกต่อการต่อรองหาข้อยุติศึกปรับเพดานหนี้สหรัฐ จึงแนะนำให้ trading long

Gold  ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีราคาปิดลดลง 21.02 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำร่วงลงแรง โดยได้รับแรงกดดดันจากข่าวที่นักการเมืองทั้ง 2 พรรคของสหรัฐอาจจะตกลงกันได้ภายในวันนี้ ผู้นำพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนฯมีแผนที่จะเสนอร่างก.ม.เพิ่มเพดานหนี้โดยไม่มีเงื่อนไขต่อปธน.โอบาม่า ซึ่งเป็นแผนระยะสั้นทำให้สหรัฐไม่ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. – กลางเดือนพ.ย.หรือสิ้นเดือนพ.ย. ถ้าหากปธน.โอบาม่าตกลงสหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ตลาดหุ้นปรับขึ้นแรงดาวโจนส์ปิดบวก 323.09 จุด ในขณะที่มีการเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยเช่น ทองคำ และพันธบัตร สำหรับการประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 66,000 รายมาที่ระดับ 374,000 รายซึ่งเป็นผลกระทบจาก Government Shutdown ทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นไปทำ high ที่บริเวณ 1,310 หลังจากประกาศตัวเลขนี้ แต่มีแรงขายทำกำไรแรงทำให้ปรับตัวลดลง อีกทั้งรับข่าวการที่ฝรั่งเศสจะเพิ่มภาษีนำเข้าเครื่องประดับในปีหน้า และการที่นักการเมืองของสหรัฐอาจตกลงกันได้ในเรื่องเพดานหนี้ทำให้ราคาปิดร่วงลงแรง

ดัชนีดาวโจนส์  ปิดบวก 323.09 จุด หลังจากมีความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อเพิ่มเพดานหนี้เป็นการชั่วคราว

USD/THB  ปิดที่ 31.30 บาทต่อUSD  เงิน USD แข็งค่าขึ้นมาก หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐอาจตกลงกันได้ทำให้ไม่ต้องผิดนัดชำระหนี้

Oil  ราคาน้ำมัน Nymex เพิ่มขึ้น โดยมีความหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ และมีความกังวลในเรื่องอุปทานน้ำมันในลิเบียและตะวันออกกลาง

Gold  ปิดวันที่ 1,285.57 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,282 –1,311 USDต่อออนซ์  โดยในเช้าวันนี้ ราคาอยู่ที่บริเวณ 1,288 USDต่อออนซ์  คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,300/1,310 และแนวรับ 1,280/1,265

USD/THB  ปิดที่ 31.30  บาทต่อUSD  เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 31.29 บาทต่อUSD  วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 31.5/31.6  ให้แนวรับบริเวณ 31.2/31

ICE Brent  ปิดที่ 111.80 USD ต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 112/113  ให้แนวรับบริเวณ 110.8/110

Spot Gold
ระยะสั้น :  อยู่ในกรอบ 1,250 – 1,450 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ  1,200  –1,500 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว
ระยะยาว :    อยู่ในกรอบ 1,150 – 1,550 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

Positive View( + )
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก
ความต้องการทองคำในตลาด Physical

Negative View( - )
เฟดอาจยุติมาตรการ QE ในกลางปีหน้า
ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป
อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง
เงิน USD แข็งค่า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การพิจารณาข้อเสนอของพรรครีพับลิกันในการเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราว

Spot Silver
โลหะเงินยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม RSI เริ่มเข้าสู่เขต oversold แล้ว ราคาอาจมี downside ในการลงที่จำกัด 
ให้แนวต้านบริเวณ  22 / 22.3
ให้แนวรับบริเวณ  21.5 / 21
Strategy:  trading ในกรอบ

USD/THB
เงินบาทยังคงเคลื่อนไหว sideway ในกรอบหลังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 31.5 ได้ ทำให้แนวโน้มยังคงไม่ชัดเจน 
 ให้แนวต้านบริเวณ  31.5 / 31.6
ให้แนวรับบริเวณ  31.2 / 31
Strategy:  trading ในกรอบ

ICE Brent
น้ำมันดิบ Brent เริ่มมีแนวโน้มในเชิงบวกมากขึ้น หลังสามารถปรับตัวขึ้นมาเหนือกรอบการเคลื่อนไหวเดิม แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มระยะยาวยังไม่เปลี่ยนเป็นขาขึ้น
ให้แนวต้านบริเวณ  112 / 113
ให้แนวรับบริเวณ  110.8 / 110
Strategy: trading ในกรอบ

SET 50
ดัชนี SET50 พุ่งขึ้นรับข่าวการเจรจาปรับเพดานหนี้ที่แม้จะยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้มีลุ้นทะลุผ่าน 1,000 จุด  แต่ต้องระวังแรงขาย เนื่องจาก RSI เริ่มเข้าเขต overbought
Strategy:  trading long

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- การเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน เพื่อเปิดทางให้ภาครัฐมีงบใช้จ่าย และสามารถกลับมาเปิดทำการได้ตามปกติ
- 17 ต.ค. เส้นตายเพดานหนี้สาธารณะสหรัฐ และการกดดันให้สภาอนุมัติเพิ่มวงเงินโดยภาคเอกชน
- ค่าเงินบาทที่ผันผวนในกรอบ 30-33 บาทต่อUSD

ข่าวในประเทศ
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเผย หากคองเกรสไม่อนุมัติปรับเพดานหนี้ในวันที่ 17 ต.ค. สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้และถูกปรับลดเครดิต จนกลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจโลก และฉุดส่งออกไทยทรุดตัว โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกไปตลาดสหรัฐกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 9.94% ของการส่งออกทั้งหมด
- แบงก์ชาติไม่ห่วงธนาคารพาณิชย์นำเงินกู้ระยะสั้นสกุลต่างประเทศมาปล่อยกู้ภาคเอกชนจะเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำของระยะเวลาการให้เงินกู้ยืม(Maturity Mismatch) เพราะมีการออกหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศระยะ 5-10 ปี มาปิดความเสี่ยงแล้ว
- บริษัทตั้งใหม่เดือน ก.ย. 5,622 ราย เพิ่ม 3% เลิกกิจการ 1,450 ราย เพิ่ม 5% แต่คาดทั้งปีตั้งใหม่ทะลุ 7 หมื่นราย ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น