วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560
บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
Today Strategy:
• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในเมื่อวานนี้ และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ หลังจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองคำจะเริ่มแกว่งในกรอบที่แคบลง หลังจากราคาทองคำได้รับข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปหมดแล้ว และเริ่มมีแรงขายของกองทุน SPDR ในเมื่อคืนนี้ รวมทั้งการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ฝ่ายต่อต้านอิสลามแพ้การเลือกตั้งทำให้แรงซื้อทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง
Key Factors
• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.64% โดยปิดที่ 1,226.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,217.45 – 1,233.13 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,225 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในเมื่อวานนี้โดยราคาทองคำได้ทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่บริเวณ 1,233 เหรียญ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ และในวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มแกว่งในกรอบที่แคบลงหลังจากรับรู้ข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเริ่มมีแรงขายออกมาจากกองทุน SPDR ที่ขายออกมา 2.37 ตัน รวมถือครองทองคำ 837.06 ตัน รวมทั้งผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ที่ฝ่ายต่อต้านอิสลามแพ้การเลือกตั้งส่งผลให้แรงซื้อทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงเช่นกัน และในวันนี้ติดตามตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ โดย ม.มิชิแกน
Exclusive News
• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันพฤหัสบดี ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงอยู่ใกล้สถิติสูงสุด และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจจะไม่สามารถบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาดโลก โดยความกังวลดังกล่าวบดบังแรงหนุนที่ราคาน้ำมันได้รับจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้ากสุลเงินในวันพฤหัสบดี หลังแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเร่งอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดลงมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ช่วง 0.75-1.00% และคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่บรรดานักลงทุนคาดไว้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้
• ปอนด์ปรับตัวขึ้น หลังธนาคารกลางอังกฤษลงมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ขณะที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการระบุถึงโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปอนด์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1.2373 ดอลลาร์
• เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในรอบ 3 เดือนในวันพุธที่ผ่านมา แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเร่งความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้นักลงทุนบางรายเคยคาดการณ์ก่อนหน้านั้นว่า เฟดอาจจะเร่งความเร็ว
Key Point
Positive( + )
• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง
Negative( - )
• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ
Neutral ( * )
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ
• การประชุม G20
• Strategy : trading ในกรอบ 1,218 – 1,233 เหรียญ โดยฝั่ง long ยังน่าสนใจเมื่อราคาย่อตัว
[/color]
[color=#0066FF]
Smart Stock
Today Strategy:
ได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มธนาคาร
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกอย่างชัดเจนโดยเปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาประมาณ +4 จุดที่ 982 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาดันสัญญาขึ้นไปทำจุดสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 987.20 จุด และปิดตลาดในแดนบวกที่ 986.60 จุด ลักษณะการเคลื่อนไหวเหมือนกับ SET index ซึ่งปิดตลาด 1,557.05 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันหนาเเน่นพอสมควรที่ 56,117.78 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อหลักจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า +5,568.85 ล้านบาท ซึ่งมีมุมมองต่างจากนักลงทุนกลุ่มอื่นโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศที่ขายสุทธิ -3,640.94 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศที่ขายสุทธิ -1,324.92 ล้านบาท (รวมมีสถานะขายสุทธิตลอดเดือนกว่า -16,124.63 ล้านบาท) โดยเป็นแรงซื้อเข้าในกลุ่มธนาคารเป็นหลักจากปัจจัยบวกด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เราคาดว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนประกอบกับเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์อาจส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายระหว่างวันเบาบางจำกัด Upside ของดัชนีได้ อีกทั้งดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงขาดปัจจัยบวกสำคัญภายในประเทศที่จะชี้นำทิศทางการเคลื่อนไหวได้อย่างมีนัยสำคัญ
• Strategy : ฝั่ง Long ได้เปรียบในวันหากราคายังเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 985 จุด, ระวังแรงขายทำกำไร
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าที่ 34.97 บาท/USD
- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องเคลื่อนไหวที่ระดับ 100.23 จุด
ข่าวในประเทศ
- ดัชนีตลาดหุ้นโลกทะยานรับเฟดไม่เร่งดอกเบี้ย : เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ไปอยู่ที่ 0.75-1% ตามความคาดหมายระหว่างการประชุมรอบล่าสุด ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งผ่านอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงาน แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่เหลือในปีนี้ให้มากขึ้นตามที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้ตลาดทุนทั่วโลกตอบรับในแดนบวกจนทุบสถิติใหม่
- กลต.อาเซียนออกเกณฑ์คุมกรีนบอนด์ : รายงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน (ACMF) เห็นชอบโครงการสำคัญตามแผนปฏิบัติการ 5 ปี (2559-2563) มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน เชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียนในแข็งแกร่งและเตรียมออกเกณฑ์อาเซียนกรีนบอนด์ใช้ร่วมกันทั่วภูมิภาค
- (PTTH17) PTT ลุ้นปันผลครึ่งหลัง : PTT จับตาไตรมาสแรกปี 2560 กลับมาฟื้นตัวโดดเด่น เหตุไม่มีการตั้งสำรองกำไรหลักได้แรงหนุนจากอัตรากำไรของธุรกิจโรงแยกก๊าซที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนก๊าซที่ทรงตัวต่ำ หนุนทั้งปีเติบโตต่อเนื่อง
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น