วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560
บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
Today Strategy:
• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้ในช่วงท้ายตลาด หลังจากซึมตัวลงตลอดวันในช่วงแรกก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงาน และราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงหลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาดีกว่าคาดการณ์แต่น้อยกว่าที่นักลงทุนคาดหวัง รวมทั้งค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงออกมาแย่กว่าคาดการณ์ รวมทั้งค่าเงินยูโรเริ่มแข็งค่าหลังจากนโยบาย QE ของยุโรปใกล้สิ้นสุดลง ปัจจัยดังกล่าวล้วนกดดันค่าเงินดอลลาร์และช่วยหนุนราคาทองได้
Key Factors
• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.71 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.31% โดยปิดที่ 1,204.47 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,194.55 – 1,206.36 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,204 เหรียญ ราคาทองคำปรับซึมลงในช่วงก่อนที่จะประกาศตัวเลขการจ้างงานและลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,194 เหรียญ แต่หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประกาศออกมามากกว่าคาดการณ์ แต่ไม่มากกว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ในวันพุธก่อนหน้า รวมทั้งค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงออกมาแย่กว่าคาดการณ์ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ร่วงลง รวมทั้งการแข็งค่าของค่าเงินยูโร หลังจากมาตรการ QE ของทางฝั่งยุโรปใกล้สิ้นสุดลง ทำให้ราคาทองมีแรงหนุนและปิดบวกได้ในช่วงท้ายตลาด แต่สัปดาห์นี้ต้องติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะส่งผลให้ราคาทองเคลื่อนไหวผันผวนได้
Exclusive News
• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดดิ่งลงอีกครั้งในวันศุกร์ หลังจากรูดลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนในระหว่างวัน ในขณะที่นักลงทุนยังคงระบายสถานะซื้อออกมา เนื่องจากกังวลว่ามาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลกไม่สามารถบรรเทาภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกลงได้
• ยูโรแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันศุกร์ หลังมีรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้หารือถึงความเป็นไปได้เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นสุดโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
• ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. และลดลง 0.34% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ ดอลลาร์ถูกถ่วงลงหลังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐบ่งชี้ว่า ค่าแรงเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 3.71 ดอลลาร์ สู่ 1,204.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ หลังจากร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ที่ 1,194.55 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอกว่าการคาดการณ์ของนักลงทุนบางราย
Key Point
Positive( + )
• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง
Negative( - )
• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ
Neutral ( * )
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ
• ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
• Strategy : ปิดทำกำไรฝั่ง short และเริ่มเปลี่ยนมา trading long หากราคาไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่
[/color]
[color=#0066FF]
Smart Stock
Today Strategy:
น้ำมันดิบกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนได้รับปัจจัยกดดันจากฝั่งสหรัฐฯ ค่อนข้างชัดเจน ภาพรวมการเคลื่อนไหวมีความผันผวนอย่างรุนแรงในระหว่างวัน แกว่งตัวไร้ทิศทางเช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบและเงินทุนยังคงไหลออกอย่างชัดเจนทั้งในตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ประกอบกับยังสะสมสถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 กว่า -6,141 สัญญา สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ (ซึ่งมีโอกาสที่อาจจะปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยก็ได้เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ และประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงมีมุมมองต่อเศรษฐกิจที่อาจไม่สอดรับกันในบางมิติ) สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 ในวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตลาดและซื้อขายในแดนลบมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 970-979 จุด และปิดตลาดที่ 972.30 จุด ผันผวนรุนแรงกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดลบบริเวณ 1,539.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันเพียง 39,569.57 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองขายสุทธิ -1,290.12 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดค่อนข้างรุนแรงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ตลาดโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
• Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 976 จุด ในระหว่างวัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดรุนเเรงอาจกระทบกลุ่มพลังงานภายในประเทศ (WTI=48.17 USD/bbl)
ข่าวในประเทศ
- สินเชื่อบุคคลหดล้านบัญชี หนี้บัตรเครดิตลดตาม 20% เหตุแบงก์กลัวหนี้เสียและลูกหนี้หวั่นรายได้น้อย : ธปท. รายงานสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบการธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงินเดือน ม.ค.2560 ว่า จำนวนบัญชีผู้ใช้สินเชื่อรวมทั้งระบบลดลงจากเดือนก่อนหน้าถึง 1.02 ล้านบัญชี หรือ 7.5% จาก 13.7 ล้านบัญชี เหลือ 12.7 ล้านบัญชี โดยลดลงจากบัญชีของนันแบงก์ 1 ล้านบัญชี และธนาคารพาณิชย์ลดลง 2.4 หมื่นล้านบัญชี ขณะที่ยอดสินเชื่อรวมลดลง 5,951 ล้านบาท หรือ 1.8% จาก 3.38 แสนล้านบาท เหลือ 3.32 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่ 4,505 ล้านบาท ลดลงจากยอดสินเชื่อของนันแบงก์
- โครงสร้างภาษีกระทบผู้ค้าออนไลน์เติบโตลดลง : นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทยมูลค่า 2.4 แสนล้านบาท ในช่วง 9 เดือนข้างหน้า การเติบโตมีโอกาสชะลอตัวลง จากเดิมคาดการณ์ว่าทั้งปีตลาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
- (CPNH17)CPNอัดฉีดงบ4.5พันล้าน ปรับโฉม ‘เซ็นทรัล บางนา’ : CPN ทุ่มงบ 4.5 พันล้านบาท ปรับโฉมเซ็นทรัลพลาซาบางนาใหม่ หวังปรับภาพลักษณ์และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายหลักช็อปปิ้งมอลล์ โซนกรุงเทพฯ ตะวันออกภายใต้ธีม Lifestyle Companion Shopping-เพราะความผูกพัน สร้างพิกัดแห่งความสุข
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น