วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 7 มิถุนายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,411 USDต่อออนซ์  เคลื่อนไหวระหว่าง 1,409  –  1,414 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา หลังจากทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,421 แล้วไม่ผ่าน ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไร ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นทั่วโลกวันนี้ เริ่มมีการฟื้นตัว หลังจากที่ปรับลดลงติดต่อกันหลายวัน ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำอีกทาง อีกทั้ง การจำกัดการนำเข้าทองคำของอินเดีย และการกลับมาขายทองคำของกองทุน SPDR ยังเป็นแรงกดดันต่อ Sentiment ของตลาดทองคำ อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงซื้อจากตลาด Physical ทั้งจากสหรัฐ และจีน ยังเป็นแรงหนุนกลับเข้ามาให้ราคาทองคำยังสามารถทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในคืนวันนี้ เนื่องจาก จะมีผลต่อเนื่อง ถึงการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายของเฟดที่จะมีขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งหากตัวเลขการจ้างงานปรับตัวดีขึ้น และเฟดมีแนวโน้มชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจจริง อาจเป็นแรงกดดันต่อทั้งตลาดทองคำ และตลาดหุ้น สำหรับภาพทางเทคนิค ราคาทองคำเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว แม้จะไม่ชัดเจนนัก ซึ่งสัญญาณจะชัดเจนมากขึ้น หากในคืนวันนี้ ราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1,393 และการ Break 1,421 จะเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำให้ปรับขึ้นได้อีก 10 – 20 เหรียญ ในระยะถัดไป   

สรุปข่าวที่น่าสนใจ:
การส่งออกสินค้าของเยอรมนีในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.9% จากเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว ขณะที่การนำเข้าดีดตัวขึ้น 2.3% ทั้งนี้ การส่งออกและนำเข้าที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าเยอรมนี ได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอุปสงค์ในตลาดโลก รวมทั้งความต้องการภายในประเทศด้วย ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว การส่งออกพุ่งขึ้น 8.5% จากคำสั่งซื้อนอกสหภาพยุโรปที่พุ่งขึ้น 13.6% ขณะที่การนำเข้าในเดือนเม.ย.ปรับขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมนีในเดือนเม.ย.เพิ่มเป็น 1.77 หมื่นล้านยูโร จาก 1.76 หมื่นล้านยูโรในเดือนมี.ค.

ผลการสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรลงเหลือ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ โดยก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า เฟดจะลดวงเงินโครงการ QE ลงในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ พร้อมกับคาดการณ์ว่า เฟดจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรเหลือ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงการลดวงเงินครั้งแรก ทั้งนี้ กระแสการคาดการณ์ในเรื่องท่าทีของเฟดนั้นได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและตลาดหุ้น โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงไป 2.8% นับตั้งแต่ที่ทำสถิติปิดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 21 พ.ค.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่าความมั่งคั่งภาคครัวเรือนสหรัฐปรับตัวขึ้น 4.5% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ทางการเงินและมูลค่าบ้าน ทั้งนี้ ความมั่งคั่งสุทธิของภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างสินทรัพย์และหนี้สินนั้น พุ่งขึ้นสู่ระดับ 70.3 ล้านล้านดอลลาร์ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับเมื่อสิ้นปีที่แล้วอยู่ราว 3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งความมั่นคั่งภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นกลไกหลักในการผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
- 19.30 ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. -- ข้อมูลการจ้างงานใหม่รายเดือนที่รวบรวมทั้งจากภาครัฐและเอกชนครอบคคลุมทั่วประเทศ แต่ไม่ได้นับรวมการจ้างงานจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยสถิติดังกล่าวเป็นดัชนีชี้วัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ แต่มีจุดอ่อนอยู่ที่การเก็บข้อมูล ทำให้ตัวเลขค่อนข้างผันผวนได้ง่ายจากหลายปัจจัย ทั้งนี้ ตัวเลขที่ลดลง อาจหนุนราคาทองคำ

- 19.30 อัตราการว่างงาน – อัตราการว่างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อาจหนุนราคาทองคำ แต่ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังคาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับที่คงที่ ดังนั้น อาจไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก 
การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (10-14 มิ.ย.) มีดังนี้: วันจันทร์  ดัชนีการจ้างงานเดือนพ.ค.   วันอังคาร  ตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนเม.ย. วันพุธ  ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์  งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนพ.ค.  วันพฤหัสบดี  ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.  ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์  ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. วันศุกร์  ข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1/2013   ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.  ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนพ.ค.  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมิ.ย.

Technical Analysis:
ทองคำ   ราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,421 ไปได้ ดังนั้น รอการย่อตัวในคืนวันนี้ โดยมีแนวรับแรกที่บริเวณ 1,410/1,405 และถัดไปที่บริเวณ 1,400/1,393 ซึ่งหากยังรับอยู่เหนือแนวรับ 1,393 อย่างแข็งแกร่ง ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ และการทะลุผ่านแนวต้าน 1,421 จะหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้ถึงระดับ 1,440 ในระยะถัดไป ขณะที่ การหลุดแนวรับ 1,393 จะส่งสัญญาณลบ แต่ยังมีฐานรับแรกที่บริเวณ 1,385/1,375 โดยคืนวันนี้ มีแนวต้านที่บริเวณ 1,416/1,421 – 1,440 และแนวรับที่บริเวณ 1,410/1,405 – 1,400/1,393 – 1,385/1,375 ------ สำหรับสัปดาห์หน้า หากคืนนี้ ราคายังทรงตัวเหนือระดับ 1,390 ราคาทองคำพร้อมดีดตัวขึ้นต่อสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,380 – 1,450 

โลหะเงิน   ให้แนวต้านบริเวณ 23.00/23.21 และแนวรับบริเวณ  22.40 -- 22.31/22.16 แนะนำ Trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น