Today Strategy: Gold ราคาทองำปรับลดลงแรง และเคลื่อนไหว side way ในกรอบ 1,360 – 1,420 คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,375/1,360 แนวต้านบริเวณ 1,395/1,400 SET50 หากดัชนียังตั้งฐานเหนือ 1,000/995 ดัชนียังมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,014/1,022
• Gold ราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแกว่งตัวผันผวนระหว่าง 1,378 – 1,423 USDต่อออนซ์ โดยมีราคาปิดลดลง 4.49 USDต่อออนซ์ ราคาปรับขึ้นแรงในวันพฤหัสจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด แต่ถูกหักล้างด้วยการปรับลดลงแรงในวันศุกร์เมื่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคาดที่ระดับ 175,000 รายสูงกว่าคาดที่ 170,000 ราย ตัวเลขอัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 7.6% สูงกว่าคาดที่ระดับ 7.4 – 7.5% แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างอ่อนๆ ทำให้นักลงทุนตาดว่า เฟดจะคงมาตรการซื้อพันธบัตรต่อไป ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแรงกว่า 200 จุด แต่ราคาทองคำในวันศุกร์ปรับลดแรง 29 USDต่อออนซ์ หรือ 2% เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมา สำหรับในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในวันพฤหัสและศุกร์ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู่ผลิต ข้อมูลภาคการผลิตและการใช่กำลังการผลิต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หรืออาจ side way ในกรอบ 1,360 – 1,425 โดยมีแนวต้านหลักบริเวณ 1,420/1,425 และแนวรับของสัปดาห์บริเวณ 1,372/1,360 ส่วนแนวต้านของวันมีที่บริเวณ 1,395/1,400 และแนวรับของวันที่บริเวณ 1.375/1,360 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
• ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 15,248.12 จุด ลดลง 207.50จุด แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 133 จุด โดยดัชนีปรับเพิ่มขึ้นแรงในวันศุกร์ เมื่อตัวเลขอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 7.6%
• USD/THB ปิดที่ 30.62 จุด ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง จากการที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย
• Oil ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD และการปรับเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ
• Gold ปิดที่ 1,381.94 1USDต่อออนซ์ ลดลง 29.26 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,378.26 – 1,417.46 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,386 US Dต่อออนซ์ โดยวันนี้ มีแนวต้านบริเวณ 1,395/1,400 และแนวรับ 1.375/1,360
• USD/THBปิดที่ 30.62 บาทต่อUSD เช้านี้อ่อนตัวลงต่อเนื่องที่บริเวณ 30.67 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 30.75 / 30.83 แนวรับบริเวณ 30.55 / 30.42
• ICE Brentปิดที่บริเวณ 104.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 105 / 106 แนวรับบริเวณ 104.3 / 103.85 / 102.9
Spot Gold
ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,320 – 1,450 แนะนำ Trading ในกรอบ
ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,300 –1,500 แนะนำ สะสม Long หากไม่หลุด 1,300
ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 – 1,600 แนะนำ รอจังหวะเข้าสะสม Long อีกครั้ง
Positive View( + )
• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก
• เงินบาทอ่อนค่าลงมาก
• เงิน USD อ่อนค่าลง
Negative View( - )
• แนวโน้มการยุติการดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่อง
• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป
• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้
• การประชุมเฟดวันที่ 18 – 19 มิ.ย.
Spot Silver
โลหะเงินหลุดกรอบการแกว่งตัวระหว่าง 22–23 ลงมา ทำให้กรอบการแกว่งตัวใหม่อยู่ระหว่าง 21–22 โดย rsi แตะระดับ oversold แล้วดีดกลับ ทำให้ราคามีแนวโน้มชะลอการลง แต่ยังคงคาดหมายการอ่อนตัวทดสอบแนวรับบริเวณ 21
ให้แนวต้านบริเวณ 22.05 / 22.2
ให้แนวรับบริเวณ 21.3 / 21.05 / 20.88
Strategy: trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
USD/THB
เงินบาทแกว่งตัวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ rsi เริ่มอ่อนแรงในเขต overbought ทำให้อาจมีการชะลอตัวลงทดสอบเส้นแนวโน้ม และสร้างกรอบการแกว่งตัวแบบ sideway
ให้แนวต้านบริเวณ 30.75 / 30.83
ให้แนวรับบริเวณ 30.55 / 30.42
Strategy: trading long และระวังแรงขาย
ICE Brent
ราคาน้ำมันทะลุกรอบ broaden triangle ขึ้นมาได้ แต่ยังติดแนวต้านเส้น moving average และ rsi อ่อนลงเล็กน้อยหลังแตะเขต overbought ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาจะพักตัวชั่วคราวก่อนปรับตัวขึ้นต่อ
ให้แนวต้านบริเวณ 105 / 106
ให้แนวรับบริเวณ 104.3 / 103.85 / 102.9
Strategy: trading long
SET 50
ภาพกราฟทางเทคนิค SET50 เข้าชนเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว ส่งผลให้ดัชนี rebound กลับขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม อาจพบการย่อตัวลงมาเล็กน้อย หลังจากขึ้นไปแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากดัชนียังตั้งฐานเหนือ 1,000/995 ดัชนียังมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,014/1,022
Strategy :Trading ในกรอบ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- 18-20 มิ.ย. ยอดขายรถเดือน พ.ค. ของไทย
ข่าวในประเทศ
- BECL ลุ้นกำไรไตรมาส 2/2556 ขยายตัวดี หลังปริมาณรถยนต์บนทางด่วนเดือนเมษายน-พฤษภาคมยังขยายตัวกว่า 2.7% แถมเตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TTW เพิ่มขึ้นเป็น 20.24% เข้ามาเต็มไตรมาส
- ความต้องการอสังหาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลชะลอลงบ้าง ส่วนหนึ่งเป็น เพราะธนาคารเริ่มระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปี 56 เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท เติบโต 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท เน้นปล่อยรถมือสอง เนื่องจากยังมีโอกาสเติบโตสูง
- รมช.พาณิชย์ ระบุขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดที่รัฐบาลจะยุติโครงการรับจำนำข้าว และตัวเลขขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว มูลค่าไม่ถึง 2.6 แสนลบ.ตามที่มีกระแสข่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถคำนวณได้ว่าขาดทุนเท่าใด เนื่องจากยังมีข้าวที่อยู่ในสต็อกมูลค่า 2.26 แสนลบ. เมื่อ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น