บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
เก็งทองต้องดูบาท - ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,469 USDต่อออนซ์ ทรงตัวระหว่าง 1,468–1,475 USDต่อออนซ์ ขณะที่เงินบาทผันผวนระหว่าง 29.29–29.53 บาทต่อUSD ทำให้วันนี้ราคาทองคำในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าตลาดโลก โดยยังคงมีแรงซื้อจากผู้นำเข้าหลักของโลกทั้งอินเดียและจีน ในขณะที่ทองคำอาจกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งเมื่อผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินเยนญี่ปุ่นมีมากขึ้นจนเกิด Yen carry trade อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ธนาคารกลางหลายชาติได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาเพื่อลดช่องว่างดอกเบี้ยกับสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่น เพื่อลดแรงจูงใจในการนำเงินเข้ามาหากำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินในประเทศนั้นแข็งค่ามากขึ้นจนมีความเสี่ยงต่อธุรกิจในภาคการส่งออกของประเทศ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องติดตามการประชุม G7 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ว่าจะมีความเห็นอย่างไรต่อมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของญี่ปุ่น
สรุปข่าวที่น่าสนใจ
คาดประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 จะให้การรับรองว่าจะร่วมมือกันในการใช้นโยบายการเงินและการคลังเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ว่าจะยังคงมีเสียงวิจารณ์จากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บางประเทศเกี่ยวกับการผ่อนคลายด้านสินเชื่อเชิงรุกของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอยู่บ้างก็ตาม ทั้งนี้ G7 มีกำหนดจัดการประชุมเป็นเวลา 2 วัน โดยจะเริ่มการประชุมวันแรกในวันพรุ่งนี้ที่เมืองบัคกิงแฮมเชียร์ ใกล้กับกรุงลอนดอน
บริษัทของสเปนกว่า 2,800 แห่ง ได้ประกาศล้มละลายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 22.8% เทียบเป็นรายปี และ 10.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่ง 25% อยู่ในภาคการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 17.1% เป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์ 16.3% อยู่ในภาคอุตสาหกรรม
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมในเดือน มี.ค.ของอังกฤษขยายตัว 0.7% จากเดือนก่อนหน้า เพราะได้ปัจจัยหนุนจากผลผลิตภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 1.1% แต่ยังคงต่ำกว่าในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 1.4% สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัว 0.2%
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.61 พันล้านดอลลาร์ แตะระดับ 1.25796 ล้านล้านดอลลาร์ โดยปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เนื่องจากการแข็งค่าของเงินยูโรเทียบกับดอลลาร์ ส่งผลให้ทรัพย์สินภายใต้การถือครองญี่ปุ่นในสกุลเงินยูโรมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และจากการเพิ่มขึ้นของรายได้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่รัฐบาลญี่ปุ่นถือครองอยู่
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 2.5% ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เพื่อรับมือกับการอ่อนค่าของเงินเยนที่ส่งผลกระทบต่อศักยภาพการแข่งขันด้านราคาของบริษัทส่งออกเกาหลีใต้ ซึ่งต้องแข่งขันอย่างดุเดือดกับบริษัทญี่ปุ่น โดยระบุว่าทิศทางของเงินเยนในอนาคตมีความไม่แน่นอนมากขึ้น และเมื่อพิจารณาทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต เกาหลีใต้กำลังเผชิญทั้งความเสี่ยงขาขึ้นที่เป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากบังคับใช้งบประมาณเพิ่มเติม และความเสี่ยงขาลงที่เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของค่าเงินเยนญี่ปุ่น
ตัวเลขเงินเฟ้อในจีนเพิ่มเป็น 2.4% ในเดือน เม.ย. หลังราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้นถึง 4% นักเศรษฐศาสตร์เชื่อ พ.ค.นี้ อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 3% ซึ่งมีผลต่อนโยบายผ่อนคลายการเงินของทางการ ทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนลดลงด้วย
ยอดขายรถยนต์ที่ผลิตในจีนเพิ่มขึ้น 13.4% ในเดือน เม.ย.เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นจากอัตราขยายตัวที่ 11% ในเดือน มี.ค. ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 1.44 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์อยู่ที่ 400,300 คัน เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบรายปี สำหรับยอดขายรถทั่วประเทศในช่วง 4 เดือนแรกของปี อยู่ที่ 7.27 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบรายปี
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์ – ตัวเลขในระดับต่ำกว่า 4 แสน แสดงถึงภาวะที่ดีขึ้นของการจ้างงานในสหรัฐ สอดคล้องกับอัตราการว่างงานที่ล่าสุดลดลงมาอยู่ที่ 7.5% อย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐดีขึ้นมาก แม้ว่า Fed จะยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ที่อัตราการว่างงานจะแตะระดับ 6% ในปีนี้ก็ตาม ทั้งนี้ หากตัวเลขในคืนนี้ออกมาต่ำกว่าที่คาด จะสร้างความมั่นใจให้กับตลาด แต่จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ แต่หากประกาศยอดสูงขึ้นในช่วง 3.5-4.0 แสนราย จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำอย่างมากทันที
- 21:00 ยอดสต๊อคสินค้า ภาคค้าส่ง เดือน มี.ค. – การเปลี่ยนแปลงในระดับบวกหรือลบไม่เกิน 1% เป็นเรื่องปกติตามปัจจัยฤดูกาล โดยเป็นตัวเลขในการพิจารณาเศรษฐกิจประกอบกับยอดค้าปลีกและยอดสต๊อคสินค้าในภาคธุรกิจ แต่มีผลเล็กน้อยต่อราคาทองคำ
ทองคำ ราคามีแนวโน้มชะลอตัวชั่วคราวหลังผ่านเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,455 ขึ้นมาได้เมื่อคืนนี้ แต่เนื่องจาก rsi ในกราฟราย 1 ชม. อ่อนตัวลง จึงต้องจับตาใกล้ชิด หากมีแรงซื้อเข้ามา จะทำให้ราคาผ่านแนวต้าน 1,475 และปรับตัวในทิศทางขาขึ้นได้ต่อไป แต่หากขาดแรงซื้อ จะมีแนวโน้มที่ราคาจะร่วงลง แนะนำให้ปิดทำกำไรสถานะ long และเน้น trading สั้น ๆ ให้แนวต้านบริเวณ 1,475/1,480/1,490 ให้แนวรับบริเวณ 1,465/1,460/1,450
โลหะเงิน ราคาพยายามปรับตัวขึ้นจากฐานรับ โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 24.2–24.35 ซึ่ง rsi ให้สัญญาณพร้อมขึ้น จึงคาดว่าราคามีโอกาสจะปรับตัวขึ้นต่อตามกรอบ channel ขาขึ้น ให้แนวต้านบริเวณ 24.2–24.35/24.8/25.8 ให้แนวรับบริเวณ 23.5/22.9 แนะนำให้ถือ long แต่ cut loss ทันที หากหลุด 23.5
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น