Today Strategy: Gold ราคาแกว่งตัวในกรอบ และมีราคาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง และเงินบาทที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาทองในประเทศ SET50 หากดัชนียังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,065/1,075 ดัชนี ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมา
• Gold เมื่อวานนี้ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดปรับตัวขึ้นได้จากการที่ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และการปรับลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐ ทำให้มีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การที่ราคาทองคำปรับลดลงแรงในวันอังคารยังช่วยกระตุ้นความต้องการทองคำในตลาด Physical ให้เพิ่มขึ้นโดยค่าพรีเมียมของทองแท่งในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเป็น 7 USDต่อออนซ์ ในขณะที่ค่าพรีเมี่ยมในตลาดฮ่องกงอยู่ที่ 4 – 5 USDต่อออนซ์ ส่วน SPDR กลับเข้ามาซื้อทองคำเป็นครั้งแรกจำนวน 0.9 ตัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอีกครั้ง ซึ่งในอนาคตจะผลต่อราคาทองคำเช่นกัน ด้านสภาทองคำโลกคาดการณ์ว่าความต้องการทองคำของอินเดียในไตรมาสที่ 2 จะประมาณ 300 – 400 ตันซึ่งเท่ากับการนำเข้าทองคำในปีที่แล้วครึ่งปี สามารถชดเชยการขายออกของกองทุน ETF ที่ขายทองคำในปีนี้ไปแล้ว 477.7 ตันในช่วงเช้าวันนี้ ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,396 USDต่อออนซ์ มีปัจจัยหนุนจาก ค่าเงิน USD ที่อ่อนตัวลง เงินบาทอ่อนค่าลง และแรงซื้อที่เข้ามาในตลาด Spot คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,373/1,358 ส่วนแนวต้านของวันมีที่บริเวณ 1,400/1,411 โดยนักลงทุนจะจับตาดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในวันคืนนี้ ได้แก่ ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
• ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 106.59 จุด หรือ 0.69% มาที่ระดับ 15,302.80 จุด จากการคาดว่าเฟดจะลดขนาดมาตรการซื้อพันธบัตรในเร็วๆนี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐพุ่งขึ้น และหุ้นที่ปันผลสูงมีราคาร่วงลง
• USD/THB ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ในขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เมื่อผลการประชุม กนง.เมื่อวานนี้มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
• Oil ราคาน้ำมันในตลาด Nymex ปรับตัวลดลงแรง โดยนักลงทุนกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันที่ไม่แน่นอนในตลาดโลก หลังจากมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลง
• Gold ปิดที่ 1,392.45 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.20 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,380.29 – 1,394.66 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,396 USDต่อออนซ์ โดยวันนี้ มีแนวต้านบริเวณ 1,400/1,411 และแนวรับ 1,373/1,358
• USD/THB ปิดที่ 30.15 บาทต่อUSD เช้านี้ทรงตัวที่ 30.15 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 30.25 / 30.5 แนวรับบริเวณ 29.95 / 29.65
• ICE Brent ปิดที่บริเวณ 102.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 104.25 / 104.7 แนวรับบริเวณ 101.6 / 100.4
Spot Gold
ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,320 – 1,420 แนะนำ Trading ในกรอบ
ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,300 –1,500 แนะนำ สะสม Long หากไม่หลุด 1,300
ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 – 1,600 แนะนำ รอจังหวะเข้าสะสม Long อีกครั้ง
Positive View( + )
• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก
• เงินบาทอ่อนค่า
Negative View( - )
• แนวโน้มการยุติการดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่อง
• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป
• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง
• ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้
• การประชุม G8 ในวันศุกร์
Spot Silver
โลหะเงินยังคงแกว่งตัวแคบ ๆ อยู่เหนือระดับ 22 ขณะที่ rsi แกว่งตัวบริเวณ 50 ทำให้มีแนวโน้มไม่ชัดเจนว่าจะเลือกทิศทางอย่างไร จึงยังคงให้กรอบ 21–23 เช่นเดิม แต่ควรระวังความผันผวนในกรอบดังกล่าวมากขึ้น
ให้แนวต้านบริเวณ 23.1 / 23.5
ให้แนวรับบริเวณ 20.9 / 19.8
Strategy : trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
USD/THB
เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 30.23 ตอบรับการลดดอกเบี้ยลง 0.25% ขณะที่ rsi เริ่มอ่อนแรงก่อนเข้าเขต overbought จึงควรระวังการกลับมาแข็งค่า
ให้แนวต้านบริเวณ 30.25 / 30.5
ให้แนวรับบริเวณ 29.95 / 29.65
Strategy : สะสม short USD
ICE Brent
ราคาน้ำมันยังคงผันผวนในกรอบ channel การแกว่งตัวแบบ sideway โดย rsi อ่อนตัวในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่บอกทิศทางราคาในระยะถัดไป
ให้แนวต้านบริเวณ 104.25 / 104.7
ให้แนวรับบริเวณ 101.6 / 100.4
Strategy : trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
SET 50
ภาพกราฟทางเทคนิค SET50 ดัชนีร่วงลงมาแรงเมื่อวานนี้ อาจพบการ rebound กลับช่วงสั้น แต่ถ้ายังไม่ผ่าน 1,065/1,075 อาจพบการอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง ทั้งนี้ หากดัชนีปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1,048 อาจกดดันให้ปรับลดลงไปได้อีกกว่า 5 – 10 จุด
Strategy :Tradingในกรอบ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
- 6 มิ.ย. สรุปผลการคัดเลือกผู้ชนะประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ และ คาดว่าจะเสนอที่ประชุมครม. พิจารณาได้ ในวันที่ 11 มิ.ย.
ข่าวในประเทศ
- กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.50% หลังเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงด้านการขยายตัวมากขึ้น
- ธ.กรุงเทพ กำลังพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังกนง.มี มติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งอาจเห็นภายใน 1-2 วัน
- คลัง เตรียมเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลเพิ่ม 1.50 บาท แต่ยังคาดว่าจะยังไม่ทำให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับเพิ่มขึ้น
- AOT พลิกวิกฤติบาทแข็งเป็นโอกาส สว็อปหนี้สกุลเงินเยนก้อนใหญ่สุด 10,000 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ลดลงไป 2,900 ล้านบาท
- ไอเอ็มดี เผย ขีดแข่งขันไทยขยับขึ้น 3 ขั้น ปีนี้มาอยู่ที่ 27 จากปีก่อนอยู่ที่อันดับ 30
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น