บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 30 มกราคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
ราคาทองคาเปิดตลาดเอเชียที่ 1,663 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,663-1,668 USDต่อออนซ์ ราคาทองคา rebound ขึ้นหลังจากลงไปทา low
ในวันจันทร์ที่บริเวณ 1,651 ปัจจัยบวกที่สนับสนุนราคาทองคา คือ การคาดการณ์ว่าเฟดจะคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง แต่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ
ทางด้านยูโรโซนในช่วงบ่ายวันพุธออกมาไม่ดี เช่น GDP ไตรมาสที่ 4 ของสเปนหดตัวมากขึ้น จากการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และดัชนีความเชื่อมั่นของอิตาลีปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตามค่าเงิน USD ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงมาที่ระดับ 1.35 USDต่อยูโร ซึ่งอาจเป็นผลจากการที่ ธ.พ.ของยูโรโซนคืนหนี้เงินกู้ให้กับธนาคารกลางยุโรปในวันนี้
นอกจากนี้นักลงทุนกาลังรอผลการประชุมคณะกรรมการกาหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ในวันที่ 30 ม.ค. คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่ประเด็นสาคัญที่
ถูกจับตามอง คือ ความคิดเห็นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งตลาดค่อนข้างเป็นกังวลมากว่าเฟดอาจลดหรือยกเลิก QE
ก่อนกาหนด และจะส่งผลลบอย่างมากต่อราคาทองคาด้วย ทาให้ในช่วงก่อนที่เฟดจะออกมาแถลงในคืนวันพุธ การ rebound ของราคาทองคาจะอยู่ในกรอบจากัดเท่านั้น
แนะนำให้เปิด Short รอบใหม่หลังจากไม่ผ่านแนวต้าน หรือ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน โดยถ้ายังยืนเหนือ 1,660 ได้ จะเป็นการแกว่งตัวในกรอบ
1,660 – 1,670
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 14 เดือน ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 1.3513 USDต่อยูโร จากการชาระหนี้ของธ.พ.
ในยูโรโซนให้แก่ธนาคารกลางยุโรป ทาให้คาดว่าระบบการเงินของยูโรโซนจะกลับมาดีขึ้น และได้ผ่านจุดวิกฤติที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว การแข็งค่าของเงินยูโรทาให้เงิน USD
อ่อนค่าลง และสนับสนุนให้ราคาสินค้าโภคพัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น
เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินในเอเชีย เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 29.77 บาทต่อดอลล่าร์ เนื่องจาก นักลงทุนคาดการณ์ผลการประชุมกาหนด
นโยบายการเงินของสหรัฐในคืนนี้ เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่าเช่นเดิม นอกจากนี้การไหลเข้าของเงินทุนในช่วงที่ผ่านมาทาให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
โดยแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 17 เดือนในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ทางด้านรมว.คลัง นายกิติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวว่าจะไม่เข้าแทรกแซงเงินบาท ส่วนนักวิเคราะห์คาด
เงินบาทมีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นต่อไป
เกาหลีใต้ขู่ใช้มาตรการคุมเข้มเงินทุนสกัดเก็งกาไรค่าวอน เกาหลีใต้เตือนนักเก็งกาไรมิให้ทาการเก็งกาไรต่อค่าเงินวอนในวันนี้ และเปิดเผยว่า
จะพิจารณามาตรการใหม่ที่คล้ายคลึงกับการเก็บภาษี Tobin Tax หรือภาษีที่เรียกเก็บจากการทาธุรกรรมทางการเงิน ถ้าหากมีความจาเป็นในอนาคต
ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเมื่อเทียบกับเงิน USD ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมากที่ระดับ 91.32 เยนต่อดอลล่าร์ จากการคาดการณ์ว่า
ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมนับจากนี้ไป ค่าเงินเยนได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยอ่อนค่าลงมาที่ระดับ 123.30 เยนต่อยูโร
GDP ไตรมาสที่ 4/2012 ของสเปนหดตัวลง 0.7% QoQ และ -1.8% YoY ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากกว่าคาดที่ระดับ -0.6% QoQ และ
-1.7% YoY แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงมากขึ้นกว่าเดิม โดยจีดีพีที่ติดลบมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลสเปนใช้นโยบายรัดเข็มขัดที่
เข้มงวดมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ขณะที่การประชุมคณะกรรมการยุโรป หรือ อีซีในสัปดาห์นี้ ที่ประชุมส่งสัญญาณว่า อาจลดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณ
ให้กับสเปนสาหรับปีนี้ หลังอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของอิตาลีลดลงมาที่ระดับ 88.2 จากเดือนก่อน 88.9 และต่ากว่าคาดที่ระดับ 89.5
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
20.15 ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศ ซึ่งมีตัวเลขคาดการณ์ที่ 164,000 ตาแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนที่ระดับ 215,000 ตาแหน่ง
โดยถ้าหากตัวเลขการจ้างงานออกมาดีกว่าคาด จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ
20.30 GDP ไตรมาส 4/2012 (ประมาณการครั้งแรก), มีตัวเลขการคาดการณ์ที่ +1.1% QoQ ซึ่งต่ากว่าตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3
ที่ revised ขึ้นมาที่ระดับ 3.1% ตัวเลข GDP รายไตรมาสของสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงในกรอบ 1% – 3% QoQ โดยถ้าเทียบเป็นรายปี ตัวเลข GDP
จะมีอัตราการเติบโตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างสม่าเสมอมากกว่าเทียบรายไดรมาสโดยอยู่ที่ระดับ 2.7% การประกาศตัวเลขในช่วงเวลา 20.15 – 20.30 น.
เป็นช่วงที่จะทาให้ราคาทองคาแกว่งตัวผันผวนได้ โดยถ้าตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าจะทาให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคา
22.30 ยอดสต๊อคน้ามัน รายสัปดาห์ ตัวเลขคาดการณ์เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่เพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ามันในช่วงบ่ายวันที่ 30 ม.ค. อยู่ที่ระดับ 97.6 USDต่อบาร์เรลค่อนข้างทรงตัว โดยราคาน้ามันดิบในช่วงก่อนหน้านี้ได้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจาก
การประกาศตัวเลขในภาคการผลิตของสหรัฐและจีนที่ออกมาดี
02.15 FOMC ประกาศมติการประชุม และประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่าเช่นเดิม
แต่ต้องติดตามความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
ทองคำ ภาพกราฟในกราฟราย 2 ชม. การ rebound ขึ้นยังติดแนวต้านบริเวณ 1,668 – 1,670 ทาให้ในระยะสั้นมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาก่อน คาดว่า ถ้ายังยืนเหนือ 1,660
ได้ จะเป็นการแกว่งตัวในกรอบ 1,660 – 1,670 ส่วนการดีดตัวผ่าน 1,670 ขึ้นไปได้จะส่งสัญญาณที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาณ indicator ในระยะสั้นเป็นลบ
คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงมาก่อน สาหรับคืนนี้ ให้แนวรับที่บริเวณ 1,662/1,659/1,653 และแนวต้านที่บริเวณ 1,670/1,675 แนะนาให้เปิด Short
รอบใหม่หลังจากไม่ผ่านแนวต้าน หรือ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 31.2/ 31.0 ส่วนแนวต้านบริเวณ 31.5/31.6 แนะนา Trading ในกรอบแนวรับ-แนวต้าน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น