บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 28 มกราคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,659 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,655-1,662 USDต่อออนซ์ โดยแกว่งตัวแคบในช่วงเช้า และร่วงลงมาแตะจุดต่ำสุดที่
1,655 USDต่อออนซ์ โดยในสัปดาห์นี้ นักลงทุนกำลังรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ในวันที่ 29-30 ม.ค.
โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับประเทศในยูโรโซนตามข้อตกลงเป็นประเด็นรอง ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันมาตลอดตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว
เนื่องจากไม่มีข่าวสำคัญที่มีน้ำหนักเชิงลบต่อเศรษฐกิจ และการประเมินว่าในปีนี้เศรษฐกิจของหลายประเทศกำลังจะดีขึ้น ทำให้กระแสเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยไป
เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยค่าเงินยูโรค่อนข้างทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และค่าเงินดอลล่าร์ค่อนข้างนิ่ง แต่ค่าเงินบาทกลับอ่อนตัวสวนทางราคาทองคำมาทดสอบบริเวณ
30 บาทต่อUSD ทำให้ราคาทองคำเมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้ว ไม่ได้รับผลกระทบทางลบของราคาสปอตที่ลดลงมากนัก อย่างไรก็ตาม การยืนอยู่เหนือระดับ 1,650 USDต่อออนซ์
ทำให้ยังไม่ต้องเผชิญแรงขายจากกองทุน SPDR มากนัก และนักลงทุนยังสามารถสะสม long ได้ แต่ถ้าหากราคาหลุดระดับ 1,650 USDต่อออนซ์
ก็จำเป็นต้องขายตัดขาดทุนออกมาดูสถานการณ์ก่อน
ญี่ปุ่นและสหรัฐเตรียมจัดการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำของ 2 ประเทศ ในวันที่ 21 หรือ 22 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ คาดว่านายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโสะ อาเบะ
จะเดินทางไปเยือนสหรัฐในวันที่ 19 ก.พ. และเข้าพบประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยมีแนวโน้มจะหารือกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงแผนการย้ายฐานทัพสหรัฐภาย
ในจังหวัดโอกินาวา ท่ามกลางการประท้วงอย่างรุนแรงของชาวญี่ปุ่น รวมทั้งการมีส่วนร่วมที่อาจจะมีขึ้นของญี่ปุ่นในการเจรจาการค้าเสรีสำหรับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ
ภาคพื้นแปซิฟิก(TPP)ที่นำโดยสหรัฐ ซึ่งเผชิญกระแสคัดค้านจากเกษตรกรชาวญี่ปุ่น
รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในปีงบประมาณ2556 ซึ่งจะเริ่มในเดือนเม.ย. มาอยู่ที่ราว 2.5%
ในแง่ความเป็นจริง และ 2.7% ในแง่ตัวเลข โดยคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ครั้งล่าสุดจะหนุนอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น
โดยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับแต่ปีงบประมาณ 2551 ส่วนเงินเยนที่อ่อนค่าอาจจะหนุนการส่งออก
แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในญี่ปุ่นอาจจะชะลอลงกว่าที่คาด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป
และภาวะขาดแคลนไฟฟ้าที่อาจจะเกิดขึ้นในญี่ปุ่น
หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเผชิญหน้ากับสงครามค่าเงินในปีนี้
ซึ่งเป็นผลมาจากเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณโดยไม่กำหนดวันสิ้นสุดมาตรการ
รวมทั้งยังมีเรื่องนโยบายกีดกันการค้าที่กำลังลุกลามไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ ซึ่งเกาหลีใต้จำเป็นต้องรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างจริงจัง เนื่องจากประเทศพึ่งพาเศรษฐกิจภายนอก
อย่างมาก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
20:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน ธ.ค. – เป็นดัขนีชี้นำสภาพเศรษฐกิจล่วงหน้าที่ดีตัวหนึ่ง โดยบ่งบอกได้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต
แต่เนื่องจากเป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิต จึงมีความผันผวนสูงจากหลายสาเหตุ ดังนั้น จึงควรพิจารณาทั้งยอดที่รวมกับยอดที่ไม่รวมยานพาหนะมาประกอบกัน
และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย ทั้งนี้ ยอดที่มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าปกติมักเกิดขึ้นจากคำสั่งซื้ออากาศยานหรือยุทโธปกรณ์ทางทหาร
ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในช่วงสั้นได้ โดยการประกาศตัวเลขในกรอบบวกหรือลบ 1% จะมีผลไม่มากนัก
22:00 ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย เดือน ธ.ค. – คล้ายกับดัชนีในภาคอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่เป็นเครื่องชี้นำภาวะเศรษฐกิจในระยะใกล้
แต่จะบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของผู้ซื้อได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นการตัดสินใจว่าจะทิ้งเงินจองหรือเงินดาวน์หรือไม่ ทั้งนี้ การปรับตัวสอดคล้องไปดัชนีที่อยู่อาศัยตัวอื่น
จะแสดงถึงความแข็งแกร่งของตลาดบ้านได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในแต่ละเดือน ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อทิศทางราคาทองคำ
จึงส่งผลกระทบไม่มากนัก และหากออกตามคาดในคืนนี้ จะมีผลดีต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทองคำ สัญญาณ macd และ rsi ในกราฟราย 1 ชม. เกิด divergence อย่างชัดเจน ภาวะการเก็งกำไรและปริมาณการซื้อขายก็แสดงการสะสมสถานะ
ของนักลงทุน ดังนั้น ในช่วงสั้นนี้ มีลุ้นดีดกลับได้แรง โดยให้แนวสำคัญที่ 1,650 ซึ่งหากหลุดลงไป จะทำให้เกิดสัญญาณขายอีกครั้งและนักลงทุนที่ได้สะสมสถานะไว้ก่อนหน้า
ก็จะขายออกมา แต่ถ้าหากสามารถยืนอยู่เหนือระดับนี้ได้ ก็มีโอกาสจะดีดกลับทางเทคนิคทันทีได้ในระดับ 10-20 เหรียญ โดยให้แนวรับ บริเวณ 1,650/1,645
และแนวต้านบริเวณ 1,665/1,673 แนะนำว่าหากไม่ผ่านแนวต้าน ให้ปิดทำ long ทำกำไรระยะสั้น แล้วรอสะสมสถานะ long อีกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัว
โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 31.0/ 30.3 ส่วนแนวต้านบริเวณ 31.5/31.8 แนะนำ Trading ในกรอบ
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น