บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 7 กันยายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
อ่อนแรงหลังรับข่าว ECB
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,690 USDต่อออนซ์ โดยแกว่งในกรอบ 1,689 – 1,697 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา จากแรงขายในลักษณะ sell on fact เมื่อ ECB ได้ออกมาตรการซื้อพันธบัตรตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ เมื่อตลาดยุโรปเปิดทำการ ราคาทองคำได้ rebound กลับขึ้นมา จากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาดี อาทิ การส่งออกของเยอรมนีเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค. และยอดขาดดุลงบประมาณฝรั่งเศสปรับตัวลดลง อีกทั้ง จีนอนุมัติโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน 60 โครงการในสัปดาห์นี้ ช่วยหนุนตลาดปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าการจ้างงานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และอาจเป็นผลกดดันต่อราคาทองคำในระยะถัดไปได้ ทั้งนี้ คาดว่าในคืนนี้ หากราคาทองคำไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1,700/1,705 อาจส่งผลให้ราคากลับมาอ่อนตัวอีกครั้ง
ยอดขาดดุลงบประมาณของฝรั่งเศสในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงแตะ 8.55 หมื่นล้านยูโร จาก 8.66 หมื่นล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปี 2554 โดยยอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแตะ 2.26 แสนล้านยูโร จาก 2.19 แสนล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ของภาครัฐอยู่ที่ 1.623 แสนล้านยูโร เพิ่มขึ้นจาก 1.606 แสนล้านยูโร ตัวเลขขาดดุลงบประมาณที่ลดลง ณ เดือนก.ค.ปีนี้ สะท้อนถึงคำมั่นสัญญาของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งที่จะปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณลงเหลือ 3% ของจีดีพีในปี 2556
ยอดขาดดุลการค้าของฝรั่งเศสในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 4.27 พันล้านยูโร จากเดือนมิ.ย.ที่ 5.99 พันล้านยูโร ข้อมูลระบุว่าตัวเลขขาดดุลที่ลดลงเป็นผลมาจากการส่งออกขยับขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 3.658 หมื่นล้านยูโร เทียบกับ 3.628 หมื่นล้านยูโรในเดือนมิ.ย. แต่การนำเข้าในเดือนก.ค.ลดลงที่ 4.085 หมื่นล้านยูโร จาก 4.234 หมื่นล้าน
การส่งออกของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 9.29 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ค. หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่การนำเข้าดีดตัวขึ้น 0.9% แตะ 7.68 หมื่นล้านยูโร หลังหดตัว 2.9% ในเดือนก่อนหน้า การส่งออกที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวกว่าการนำเข้า ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมนีลดลงแตะ 1.61 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับ 1.63 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ค.
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 25 ปีในเดือนก.ค. โดยฟื้นตัวขึ้นจากการดิ่งลงเนื่องจากวันหยุดพิเศษในเดือนมิ.ย. และเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจอังกฤษจะสามารถค่อยๆฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย ทั้งนี้ ผลผลิตภาคการผลิตพุ่งขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ร่วงลง 2.9% ในเดือนมิ.ย.
รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่านโยบายการเงินไม่สามารถใช้แก้ไขปัญหาทางการคลังได้ พร้อมเตือนว่ายูโรโซนต้องไม่จัดการปัญหาการคลังด้วยนโยบายการเงิน รมว.คลังเยอรมนีได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศแผนการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสมาชิกที่มีปัญหาทางการเงิน โดยเป็นการซื้อแบบไม่จำกัดจำนวน เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศดังกล่าว พร้อมระบุว่าอีซีบีจะดำเนินการจัดการสภาพคล่องในระบบให้อยู่ในภาวะที่สมดุล อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ชัดเจนต่อการตัดสินใจของอีซีบี ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมา เยอรมนีได้แสดงท่าทีคัดค้านแผนดังกล่าว โดยมองว่าอาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและเป็นแนวทางที่ไม่เหมาะสมในการใช้ นโยบายการเงินเพื่อจัดการปัญหาด้านการคลัง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19.30 ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.
- 19.30 อัตราการว่างงาน
ประเด็นที่ต้องติดตาม นายกกรีซพบประธาน ECB // ผู้นำสเปนพบผู้นำฟินแลนด์ (11 ก.ย.)
ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันประกาศคำวินิจฉัยเกี่ยวกับกองทุนเสถียรภาพการเงินของยุโรป(ESM) // เนเธอร์แลนด์จะจัดการเลือกตั้ง (12 ก.ย.)
การประชุม FOMC ของเฟดในวันที่ 12 – 13 ก.ย.
การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (10-14 ก.ย.) มีดังนี้: วันจันทร์ ดัชนีการจ้างงานเดือนส.ค. วันอังคาร ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค. วันพุธ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค. ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ค. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ เฟด เริ่มการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยวันแรก วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนส.ค. วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.
ทองคำ สำหรับภาพทางเทคนิคราคาอ่อนตัวลงมาหลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,715 แล้วไม่ผ่าน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,685/1,675 ส่วนแนวต้านคาดว่ามีที่บริเวณ 1,708/1,712 แนะนำ นักลงทุนหลังจากปิด Long ทำกำไรไปแล้วรออ่อนตัวบริเวณแนวรับ 1,685/1,675 เพื่อสะสม Long ใหม่ ---- สำหรับสัปดาห์หน้า หากราคาทองคำตั้งฐานรับเหนือบริเวณ 1,675/1,660 จะผลัดดันให้ราคาทองคำสามารถกลับมาปรับตัวสูงขึ้นต่อในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,640 – 1,735
โลหะเงิน ให้แนวต้านบริเวณ 32.7/33.0 มีแนวรับบริเวณ 32.0 / 31.8 แนะนำนักลงทุนที่ปิด Long ทำกำไรไปแล้ว รอราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับเพื่อเปิด Long ใหม่
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น