บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 12 กันยายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
แกว่งแคบรอข่าวต่อไป
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,735 USDต่อออนซ์ ตลอดภาคเช้าแกว่งตัวแบบ sideway up ในกรอบ 1,733–1,737 USDต่อออนซ์ โดยมีการคาดการณ์ว่าศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันจะอนุญาตให้รัฐบาลผ่านเรื่องกองทุน ESM ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้ราคาทองคำสวิงขึ้นมาได้พร้อมกับเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น แต่เนื่องจากเงินบาทก็แข็งค่าตามไปด้วย ทำให้ราคาทองคำในประเทศไม่ได้ปรับขึ้นตามไปด้วย ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ ราคาทองคำเริ่มสวิงแรงขึ้นก่อนการแถลงของศาล กระทั่งเมื่อศาลอ่านคำวินิจฉัยเห็นชอบให้ใช้ ESM ได้ ราคาทองคำก็พุ่งขึ้นทันที โดยไปทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,747 USDต่อออนซ์ แต่มีแรงขายทำกำไรบ้างทำให้ราคาอ่อนตัวลงมา คาดว่าจะเป็นลักษณะแกว่งตัวสร้างฐานก่อนที่จะ break ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,750
ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีอนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป(ESM) ซึ่งจะทำให้กองทุน ESM และเครื่องมืออื่น ๆ สามารถดำเนินการกู้วิกฤตในยูโรโซนได้ อย่างไรก็ตาม ศาลได้กำหนดเงื่อไขว่า การเพิ่มภาระหนี้ของเยอรมันที่มากกว่า 1.90 แสนล้านยูโรต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีก่อน
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกับประธานาธิบดีสหรัฐด้สนทนาทางโทรศัพท์นาน 1 ชั่วโมง เพื่อหารือเรื่องภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งทั้งคู่จะร่วมกันยับยั้งไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง โดยจะหารือกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ จอห์น โบห์เนอร์ ไม่มั่นใจว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะตกลงกันได้ในเรื่องการลดหนี้สินของประเทศ ซึ่งจะทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ เนื่องจากวุฒิสภายังไม่ดำเนินการมากพอในเรื่องการขึ้นภาษีและการลดการใช้จ่าย ทั้งนี้ มูดีส์ระบุในแถลงการณ์วานนี้ว่า การเจรจาเรื่องงบประมาณในการประชุมฝ่ายนิติบัญญัติของสภาคองเกรสในปี 2556 จะเป็นตัวกำหนดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ หากการเจรจาดังกล่าวนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะสร้างเสถียรภาพและลดสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีในระยะกลาง มูดีส์ก็อาจจะคงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ AAA และปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือเป็นมีเสถียรภาพ แต่หากการเจรจาไม่สามารถนำไปสู่การกำหนดนโยบายดังกล่าว มูดีส์ก็อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงมาอยู่ที่ระดับ Aa1
ภาคธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้นในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน แม้มีรายงานการจ้างงานที่น่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ(NFIB) ระบุว่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นแตะ 92.9 จาก 91.2 ในเดือน ก.ค. แต่แทบไม่มีสัญญาณบวกสำหรับอนาคต และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในระยะยาว ทั้งนี้ ภาคธุรกิจขนาดเล็กคิดเป็น 99% ของบริษัททั้งหมดในสหรัฐ และมีการจ้างงานราวครึ่งหนึ่งของแรงงานในประเทศ
ทรอยก้าเผยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของโปรตุเกสจะอ่อนแอไปถึงปี 2556 และจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นสำหรับกระบวนการปรับปรุงทางการคลังของประเทศ โดยระบุว่า การบรรลุเป้าขาดดุลครั้งใหม่นั้นจะต้องใช้ความพยายามปฏิรูปเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน, การจ้างงาน และการขยายตัว
ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมันในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือน ก.ค. และดีดตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงผลักดันจากราคาพลังงาน แต่หากไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนี CPI ทรงตัวเมื่อเทียบรายเดือน และบวกขึ้น 1.4% จากปีที่แล้ว
ดัชนีราคาผู้บริโภคของฝรั่งเศสในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก.ค. และพุ่งขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น 3.6% จากเดือน ก.ค.และพุ่งขึ้น 6.9% จากเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว
อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2555 จะเพิ่มขึ้น 0.84 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 89.09 ล้านบาร์เรล/วัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) คาดว่าอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก จะลดลง 1.5% ในปีนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปีที่ 18.67 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซิน คาดว่าจะลดลง 0.2% จากปีก่อน สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีที่ 8.73 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐจะช่วยให้ลดการการนำเข้าน้ำมัน โดยคาดว่าการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นสุทธิของสหรัฐจะลดลงสู่ 39% ของอุปสงค์ทั้งหมดของประเทศในปี 2556 ซึ่งลดลงจาก 49% ในปี 2553
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19:30 ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน ส.ค.
- 21:00 สต็อคสินค้าภาคค้าส่ง เดือน ก.ค.
- 21:30 สต็อคน้ำมัน รายสัปดาห์
-
ทองคำ ภาพกราฟในราย 240 นาที ราคามีการปรับขึ้นใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 1,750 แล้วไม่ผ่าน ทำให้มีการย่อตัวลงมา คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,750/1,760 ส่วนแนวรับมที่บริเวณ 1,730/1,725 ราคาแกว่งตัวสร้างฐาน เพื่อสะสมพลังก่อนที่จะ Break ผ่านไปสู่แนวต้านถัดไป แนะนำ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,760/1,790 หรือ ทยอยทำกำไรในระดับตั้งแต่ 1,760 ขึ้นไป
โลหะเงิน ให้แนวต้านบริเวณ 34.3/34.8 และแนวรับบริเวณ 33.7/33.5 แนะนำให้เล่น trading ในกรอบ 33.5-35.0
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น