บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 16 กรกฎาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
ทยอยปิด long แล้วรอซื้อเมื่ออ่อนตัว
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,586 USDต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการย่อตัวลงมาจากจุดสูงสุดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 1,597 USDต่อออนซ์ จากนั้นก็แกว่งตัว sideway1,583-1,591 USDต่อออนซ์ โดยช่วงบ่ายมีข่าวคืบหน้าเรื่อง ESM ออกมาว่า ศาลเยอรมันจะพิจารณาในวันที่ 12 ก.ย. ซึ่งชัดเจนขึ้น แต่ส่งผลลบต่อทั้งยูโรโซนเพราะเยอรมันยังไม่สามารถใส่เงินเข้ากองทุนได้จนกว่าเรื่องจะเรียบร้อย ทำให้ ESM ขาดกำลังในการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ชาติสมาชิกที่ประสบปัญหา ซึ่งเป็นผลดีต่อการเป็น safe haven ของทองคำ แต่ข่าวเงินเฟ้ออินเดียที่ยังทรงตัวในระดับเกิน 7% ทำให้ค่าเงินรูปีมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปอีก จึงส่งผลลบต่อทองคำในแง่ความต้องการซื้อจากอินเดียจะลดลง ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสวนทางกับเงินยูโรที่อ่อนลงจากความกังวลต่อความเสี่ยงในยุโรป แต่ก็ใกล้จุดวกกลับทั้งคู่ ส่วนเงินบาทยังคงนิ่งหลังแข็งค่าขึ้นมาเมื่อวันศุกร์ โดยยังคงอยู่ในกรอบ 31.35-31.95 บาทต่อUSD ราคาน้ำมันดิบกำลังปรับฐานในกรอบแคบ โดยต้องจับตาความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกในประเด็นนิวเคลียร์กับการปิดช่องแคบฮอร์มุซอย่างใกล้ชิด และประเด็นเศรษฐกิจจีนที่นักวิเคราะห์หลายรายเริ่มประเมินว่าอาจชะลอตัวรุนแรงกว่าที่เคยคาดกันไว้
สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจสหรัฐ(NABE) เผยผลสำรวจระบุว่า วิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลต่อสหรัฐมากขึ้น และภาคธุรกิจสหรัฐชะลอตัวก่อนการปรับขึ้นภาษีและลดค่าใช้จ่ายในประเทศ ทั้งนี้ ผลสำรวจแสดงมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในสมาคมการค้าและภาคเอกชน 67 ราย
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เผยว่า การที่ศาลเยอรมนีจะใช้เวลาหลายเดือนในการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป(ESM) จะเป็นปัจจัยลบสำหรับประเทศสมาชิกยูโรโซนทั้งหมด นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยเงินกู้ของ ESM แก่ธนาคารของสเปนมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตลาดการเงินยุโรปมีความผันผวนต่อไป
คณะรัฐมนตรีจีนเตรียมจัดการประชุมเศรษฐกิจรอบครึ่งปีในวันพุธนี้ เพื่อเตรียมหาแนวทางควบคุมเศรษฐกิจมหภาคในช่วงครึ่งปีหลัง โดยประเด็นสำคัญของการประชุมจะเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ โดยตลาดหวังว่าจะมีการประกาศใช้มาตรการรอบใหม่หลังการประชุมสิ้นสุดลง โดยเฉพาะการเร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า จีนจะไม่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์ แต่จะมุ่งเน้นการปรับลดโครงสร้างภาษี
กระทรวงพาณิชย์อินเดียเปิดเผยว่า ดัชนีราคาภาคค้าส่ง เดือน มิ.ย.ขยายตัวขึ้น 7.25% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 7.55% ในเดือน พ.ค. แต่ยังสูงกว่า 7% มา 5 เดือนติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่า แรงกดดันด้านราคาอาจจะทำให้อินเดียไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติมได้เหมือนกับจีนและยุโรป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19:30 น. [US] ยอดค้าปลีก เดือน มิ.ย.
- 19:30 น. [US] ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม เดือน ก.ค. (เขตนิวยอร์ค)
- 21:00 น. [US] สต็อคสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เดือน พ.ค.
ภาพกราฟทางเทคนิคในรายวัน ให้แนวต้าน 1,595/1,605 และแนวรับ 1,575/1,560 โดยแนะให้จับตาแนวรับสำคัญ 1,575 เป็นระดับวัดทิศทางระหว่างขาขึ้นกับขาลงในระยะสั้น แนะนำทยอยปิดสถานะ long ทำกำไรเมื่อราคาขึ้นสูง แล้วรอรับกลับเมื่อราคาอ่อนตัวต่ำกว่า 1,575 คืนนี้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสสูงที่จะแกว่งตัว sideway รอการประชุม G7 และถ้อยแถลงของประธานเฟด
โลหะเงิน มีแนวรับบริเวณ 26.80 / 26.55 แนวต้านบริเวณ 27.35 / 27.55 แนะนำ trading ในกรอบแนวรับ-แนวต้าน และทยอยซื้อสะสมที่แนวรับ
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น