บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 4 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,610/1,620 และแนวรับที่ 1,588/1,565 ราคา Rebound ขึ้นมาหลังจากลงไปแรงในช่วงสัปดาห์ก่อน ซึ่งหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,600 มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ภาพทางเทคนิคในราย 4 ช.ม. มีแรงขายบริเวณ 1,606 อาจมีการย่อตัวมาที่บริเวณแนวรับก่อนได้ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,588 – 1,620
กลับมายืนเหนือ 1,600
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 4 ม.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,598.38 USD ต่อออนซ์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,596 – 1,613 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำพุ่งขึ้น 3 วัน ติดต่อกัน หลังจากที่ทำ low ที่ 1,522 ซึ่งเป็นราคาที่หลุด Trend line ประกอบกับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งจากสหรัฐ และจีนได้ช่วยทำให้ตลาดหันเหความสนใจไปจากวิกฤติยูโรโซน ซึ่งเป็นแรงหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ อาจอยู่ในระยะที่จำกัด เนื่องจากยังมีความวิตกเกี่ยวกับความจำเป็นในการรีไฟแนนซ์หนี้มหาศาลของยูโรโซน และแรงขายทำกำไรของนักลงทุนเมื่อราคาพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าราคาทองคำหากไม่หลุด 1,600 อาจะปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อ โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,588 – 1620
ฟิทช์ เรตติ้ง ได้ปรับลดอันดับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสเปนในปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจสเปนจะไม่มีการนขยายตัวในปี 2555 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 0.5% และคาดว่าจะเศรษฐกิจสเปนจะขยายตัวเพียง 1.5% ในปี 2556 ทั้งนี้อธิบายถึงสาเหตุของการปรับลดอันดับคาดการณ์ดังกล่าวว่า เป็นผลมาจากอัตราว่างงานของสเปนอยู่ในระดับสูง โดยกระทรวงแรงงานของสเปนระบุว่า สเปนมียอดผู้ว่างงานทั้งสิ้น 4,422,359 คน นอกจากนี้ ฟิทช์ยังระบุว่า ปัญหาการว่างงานอาจสร้างปัญหาที่ตามมามากขึ้นให้กับภาคธนาคารของสเปน พร้อมกับเตือนว่าฟิทช์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินของ สเปน เช่น ธนาคารบังโค ซานตานเดร์, บีบีวีเอ, ลา ไคซา และ บังโค ป๊อปปูเลร์ ลงอีกรอบ
ภาคบริการของอิตาลีหดตัวลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ในอัตราที่เพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอิตาลีได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ขณะที่กำลังหาทางจัดการกับวิกฤติหนี้สาธารณะ ทั้งนี้ ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจของ Markit/ADACI ซึ่งครอบคลุมบริษัทในภาคบริการนับตั้งแต่โรงแรมไปจนถึงธนาคาร ร่วงลงแตะ 44.5 จาก 45.8ในเดือนพ.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และต่ำกว่าระดับ 50 ทื่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัว
รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะกระเตื้องขึ้นในปีนี้และปีหน้า เพราะได้แรงหนุนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน, การเพิ่มปริมาณสินเชื่อในระบบ และความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวขึ้นทั้งของกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงของสหรัฐจะลดช่วงบวกลง เพราะถูกกดดันจากภาวะซบเซาในตลาดแรงงาน และคาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงไปจนถึงปลายปี 2556 นอกจากนี้ ยังระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะซบเซา เนื่องจากจำนวนบ้านที่ถูกยึดและจำนวนมากที่ยังไม่สามารถขายได้นั้น อยู่ในระดับที่สูงมาก ขณะเดียวกัน เฟดยืนยันว่าจะเปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนพ.ย.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,610/1,620 และแนวรับที่ 1,588/1,565 ราคา Rebound ขึ้นมาหลังจากลงไปแรงในช่วงสัปดาห์ก่อน ซึ่งหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,600 มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ภาพทางเทคนิคในราย 4 ช.ม. มีแรงขายบริเวณ 1,606 อาจมีการย่อตัวมาที่บริเวณแนวรับก่อนได้ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,588 – 1,620
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 28.7/28.2 แนวต้านบริเวณ 29.7/ 30.2 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 28.2 – 30.2
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น