บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 23 มกราคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,664.00 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับบวกขึ้นได้ เมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากประเด็นที่กรีซอาจได้ข้อสรุปในการลดหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้ และการ swap พันธบัตร
o ในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,667 USDต่อออนซ์ เมื่อวันศุกร์ราคาสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,644 ได้และราคาปรับสูงขึ้น เมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในกรณีของกรีซที่อาจจะเจรจาลดยอดหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้ และการ swap พันธบัตรได้สำเร็จ ส่วนภาพทางเทคนิคมีโอกาสหรับตัวขึ้นได้ต่อ และมีโอกาส break แนวต้านสำคัญบริเวณ 1,670 – 1,75 เป็นเส้น down trend line ในระยะกลาง ซึ่งถ้าผ่านได้มีโอกาสปรับตัวขึ้ต่อบริเวณ 1,700 – 1,750 USDต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนที่เปิด long ไว้ในช่วงราคาอ่อนตัวถือต่อ เพื่อรอดูการ break ขึ้นของราคา แต่ถ้าไม่สามารถผ่านไปได้ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงมาที่บริเวณ 1,644 และสร้างฐานก่อนขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,670 – 1,700 อีกครั้ง ดังนั้นถ้าราคาไม่สามารถผ่านไปได้ แนะนำนักลงทุนปิดทำกำไรบริเวณ 1,670 – 1,675 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,630 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,700
o ค่าเงินยูโรในสัปดาห์ก่อนปรับขึ้นประมาณ 2% ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในวันศุกร์อ่อนค่าลง ซึ่งการที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น เป็นเพราะการประมูลขายพันธบัตรรัฐบาลของฝรั่งเศสและสเปนในวันพฤหัสประสบความสำเร็จ และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการ swap พันธบัตรรัฐบาลของกรีซจะประสบความสำเร็จ
o ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับลดลง 2.08 USDต่อบาร์เรล ปิดที่ 98.46 USDต่อบาร์เรลเนื่องจากการประกาศตัวเลขภาคการผลิตของจีนมีสัญญาณที่อ่อนแอลง และชาติตะวันตกกำลังกำหนดใหอิหร่านเข้าสู่เงื่อนไขการเจรจา
o ตลาดหุ้นสหรัฐปรับบวกขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัท IBM และบ. Intel
o ภาพในระยะสัปดาห์มีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น เมื่อราคาทองคำยืนเหนือเส้น MA 200 วันได้ และยืนเหนือ 1,650 USDต่ออออนซ์ได้ ขณะที่แรงขายทำกำไรที่แนวต้านมีไม่มากนัก และนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาอ่อนตัว และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ ด้านปัจจัยพื้นฐานเริ่มดีขึ้น เมื่อค่าเงิน USD เริ่มอ่อนค่าลง การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในยุโรปประสบความสำเร็จ และการประกาศการให้ความช่วยเหลือทางเงินเพิ่มขึ้นของ IMF อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นสู่แนวต้านของราคาทองคำในแต่ละรอบจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ เนื่องจาก ภาพทางเทคนิคในระยะกลางยังถูกกดด้วยเส้น Down Trend Line และรอการ break ขึ้นหรือ break ลง แต่แนวโน้มมีโอกาส break ขึ้นมากกว่า ส่วนข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามต่อไป
o ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำและต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ การเข้าอัดฉีดเงินของธนาคารกลางยุโรป การประชุม FOMC หรือการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐในวันที่ 24 – 25 ม.ค. ส่วนปัจจัยลบในขณะนี้คือ ราคาน้ำมันที่กลับมาอ่อนค่าลง
o ราคาโลหะเงินปิดที่ 31.68 USDต่อออนซ์ ปิดเพิ่มขึ้น 1.17 USDต่อออนซ์โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 30.28 – 32.21 ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,516.75 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.2/30.5 แนวต้านบริเวณ 33.0/33.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 30.5 – 33.5
o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,255.67 ตัน
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,644 – 1,700 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,644 – 1,700 ผู้มีสถานะ Long ถือต่อรอการ break ขึ้นผ่าน 1,670 – 1,675 แต่ถ้าไม่ผ่านปิดทำกำไร
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,725
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 - 1920
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น