บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,787.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดทรงตัวไม่ต่างจากเมื่อวาน เมื่อมีแรงขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไปบริเวณใกล้ 1,790 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น แต่ได้แรงหนุนความกังวลว่าฝรั่งเศสอาจได้รับความเสียหายจากวิกฤตหนี้
o ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,760.90 – 1,787.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรโดยไปทำจุดต่ำสุดบริเวณแนวรับ 1,760 แต่หลังจากนั้นได้ rebound ขึ้น และกลับมาปิดบวกได้ โดยค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น จากความมีความกังวลในปัญหาหนี้ของยุโรป เมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีอายุ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 7% และ ส่วนต่างดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของฝรั่งเศส ออสเตรีย และเบลเยี่ยม มีส่วนต่างมากขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยของเยอรมัน แสดงว่า หลายประเทศในยุโรปมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในขณะที่อัตราการเติบโตของ 17 ประเทศในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในไตรมาสที่ 3 และฝรั่งเศสไม่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับบวกได้ 17.18 จุด
o ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1,780 USDต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริวณ 1,790 / 1,800 / 1,804 ส่วนแนวรับคาดว่าบริเวณ 1,760 / 1,750 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 1,750 – 1,800
o ราคาทองคำไม่ได้รับผลกระทบจากข่าว นายจอห์น พอลสัน ปรับลดปริมาณการถือครองกองทุน ETF ทองคำลง 1 ใน 3 ในไตรมาสที่ 3 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า แนวโน้มราคาทองคำยังเป็นบวกในระยะยาว ในขณะที่กองทุนอื่นยังเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาปรับลดลง แต่ยังยืนอยู่ในแนวรับสำคัญได้
o นายมาริโอ มอนติ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลี อาจจะจัดตั้งรัฐบาลได้เสร็จอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 3 วัน เพื่อเร่งแก้วิกฤติการการเงินและการเมือง
o ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.6 จุดในเดือนพ.ย. จากระดับ -8.5 ของเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของกิจกรรมด้านการผลิตจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้
o ในระยะสัปดาห์คาดว่าถ้ายืนเหนือ 1,800 ได้จะมีแนวต้านบริเวณ 1,825/1,850 แต่ถ้าหากยังไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาสู่แนวรับ 1,760/1,750 โดยแนวโน้มในระยะกลางเป็นขาขึ้น การอ่อนตัวลงมาสู่แนวรับเป็นจังหวะให้นักลงทุนเข้าสะสมทองคำ เพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,800/1,825/ 1,850 USDต่อออนซ์
o ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพุธ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนก.ย.ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนต.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.วันศุกร์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค.
o ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.43 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 34.46 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.75 – 34.84 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,783.71 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 35.5/36.8 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 33.7/32.8 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 32.8 – 35.5 USDต่อออนซ์
o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,268.28 ตัน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น