วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,787.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดทรงตัวไม่ต่างจากเมื่อวาน เมื่อมีแรงขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไปบริเวณใกล้ 1,790 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น แต่ได้แรงหนุนความกังวลว่าฝรั่งเศสอาจได้รับความเสียหายจากวิกฤตหนี้

o ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,760.90 – 1,787.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรโดยไปทำจุดต่ำสุดบริเวณแนวรับ 1,760 แต่หลังจากนั้นได้ rebound ขึ้น และกลับมาปิดบวกได้ โดยค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น จากความมีความกังวลในปัญหาหนี้ของยุโรป เมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีอายุ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 7% และ ส่วนต่างดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของฝรั่งเศส ออสเตรีย และเบลเยี่ยม มีส่วนต่างมากขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยของเยอรมัน แสดงว่า หลายประเทศในยุโรปมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในขณะที่อัตราการเติบโตของ 17 ประเทศในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในไตรมาสที่ 3 และฝรั่งเศสไม่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับบวกได้ 17.18 จุด

o ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1,780 USDต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริวณ 1,790 / 1,800 / 1,804 ส่วนแนวรับคาดว่าบริเวณ 1,760 / 1,750 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 1,750 – 1,800

o ราคาทองคำไม่ได้รับผลกระทบจากข่าว นายจอห์น พอลสัน ปรับลดปริมาณการถือครองกองทุน ETF ทองคำลง 1 ใน 3 ในไตรมาสที่ 3 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า แนวโน้มราคาทองคำยังเป็นบวกในระยะยาว ในขณะที่กองทุนอื่นยังเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาปรับลดลง แต่ยังยืนอยู่ในแนวรับสำคัญได้

o นายมาริโอ มอนติ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลี อาจจะจัดตั้งรัฐบาลได้เสร็จอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 3 วัน เพื่อเร่งแก้วิกฤติการการเงินและการเมือง

o ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.6 จุดในเดือนพ.ย. จากระดับ -8.5 ของเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของกิจกรรมด้านการผลิตจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้

o ในระยะสัปดาห์คาดว่าถ้ายืนเหนือ 1,800 ได้จะมีแนวต้านบริเวณ 1,825/1,850 แต่ถ้าหากยังไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาสู่แนวรับ 1,760/1,750 โดยแนวโน้มในระยะกลางเป็นขาขึ้น การอ่อนตัวลงมาสู่แนวรับเป็นจังหวะให้นักลงทุนเข้าสะสมทองคำ เพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,800/1,825/ 1,850 USDต่อออนซ์

o ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพุธ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนก.ย.ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนต.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.วันศุกร์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค.

o ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.43 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 34.46 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.75 – 34.84 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,783.71 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 35.5/36.8 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 33.7/32.8 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 32.8 – 35.5 USDต่อออนซ์

o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,268.28 ตัน


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น