วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเกือบ 1% โดยปริมาณซื้อขายในฝั่งเอเชียเมื่อวานนี้เบาบางเนื่องจากหลายประเทศเป็นวันหยุดในวันแรงงาน โดยราคาทองคำถูกกดดันจาก 3 ปัจจัยหลักคือ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง การบรรลุข้อตกลงการจัดสรรงบใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ทำให้ราชการสหรัฐฯ ไม่ต้องปิดทำการ และความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนนี้ สัปดาห์นี้ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ ตัวเลขภาคการจ้างงาน และการประชุมเฟด Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 11.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.90% โดยปิดที่ 1,256.30 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,253.66 – 1,271.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,256 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องรวมทั้งประเด็นการจัดสรรงบใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ทำให้หน่วยงานราชการของสหรัฐไม่ต้องปิดทำการ ทำให้ทองคำเจอแรงขายทำกำไรในเมื่อคืนนี้ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายๆ ตัวจะออกมาเริ่มชะลอตัว แต่นักลงทุนยังเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า ส่งผลให้ราคาทองคำถูกกดดันด้วยปัจจัยนี้เช่นกัน และในสัปดาห์นี้ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ แถลงการณ์เรื่องอัตราดอกเบี้ยและภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และตัวเลขภาคการจ้างงาน ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดได้ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1% ในวันจันทร์ ในขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในลิเบียและสหรัฐบดบังมาตรการปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมิ.ย.ดิ่งลง 49 เซนต์ หรือ 1 % มาปิดตลาดที่ 48.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 48.59-49.32 ดอลลาร์ • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยนในวันจันทร์ หลังนักลงทุนไม่สนใจการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมการผลิตและข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของสหรัฐ เนื่องจากมีมุมมองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอไม่มีแนวโน้มที่จะขัดขวางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมิ.ย. • ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่ไม่รวมอาหารและพลังงานลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2001 และต่ำกว่าเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของเฟดที่ระดับ 2% • สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตลดลงสู่ระดับ 54.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. • ผู้เจรจาต่อรองของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันของสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ในเรื่องการจัดสรรงบใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐจนถึงวันที่ 30 ก.ย. โดยการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวส่งผลให้หน่วยงานราชการของสหรัฐไม่ต้องปิดทำการ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ • การประชุมของเฟดเรื่องอัตราดอกเบี้ยและภาพรวมเศรษฐกิจ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรป • Strategy : trading short ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,260 เหรียญ [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: พยายามสร้างฐานราคาในความผันผวน สำหรับเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ ในขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเปิดทำการตามปกติ โดยสำหรับภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่เเล้วแกว่งตัวในกรอบตลอดสัปดาห์ เเม้มีเเรงขายกัดดันช่วงต้นสัปดาห์บ้าง โดยที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ปิดตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ระดับ 994 จุด เเกว่งตัวผันผวนกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,566.32 จุด ปิดลบ -0.45 จุด (-0.03%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้นกว่าตลอดสัปดาห์ ด้วยมูลค่า 46,059.66 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อหลักที่ค่อนข้างหนาเเน่นจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศซึ่งซื้อสุทธิกว่า 5,701.74 ล้านบาท พร้อมกับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่กลับมาซื้อสุทธิในดัชนีตลาดหุ้นไทยกว่า 3,692.51 ล้านบาท รวมมีมูลค่าการซื้อสุทธิตลอดเดือนเมษายนกว่า +1,806.36 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยทั่วไปภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยขายสุทธิกว่า -9,314.53 ล้านบาท สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดยังคงไม่ชัดเจนเเต่ภาพรวมยังคงเป็นกลุ่มสื่อสาร พลังงานเเละธนาคาร สำหรับสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการ FOMC ในช่วงวัน พุธ-พฤหัสบดี อย่างใกล้ชิดซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่กำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดในระดับหนึ่งโดยที่ตลาดคาดกรณ์ว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเข้าค่าเงินดอลลาร์บางส่วนชะลอการอ่อนค่าปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งเเต่ช่วงวันที่ 7 เมษายน โดยปัจจุบันเคลื่อนไหวเเคบๆ ในกรอบระหว่าง 99-100 จุด ในส่วนของราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่อาจกระทบต่อ sentiment ของกลุ่มพลังงานภายในประเทศ ปัจจุบันลงไปทำจุดต่ำที่สุดในรอบ 1 เดือน เคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 49 - 49.60 USD/bbl โดยเราคาดการณ์ว่าเป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการปรับลดอุปทานการผลิตของกลุ่ม OPEC เเละ Non-OPEC ที่อาจไม่สามารถทำได้โดยสมบูรณ์ ในประเด็นนี้เรามองว่าให้พิจารณาประกอบการติดสินใจเเต่ไม่ให้น้ำหนักการกระทบต่อตลาดมากนัก • Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 995-995.50 จุด ฝั่ง Short น่าสนใจกว่า ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามการประชุมคณะกรรมการ FOMC (ช่วง 3-4 ก.พ.) - ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในกรอบอาจกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศ ข่าวในประเทศ - สศอ.อัดงบหมื่นล้านหนุน5อุตฯเอสเคิร์ฟ: เศรษฐกิจฟื้นกระจุก ‘อภิศักดิ์’ ยอมรับรากหญ้ายังแย่ แบงก์ชาติคาดเอกชนรอลงทุนหลังเลือกตั้ง: รมว.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวต่อเนื่องเห็นได้จากตัวเลข เศรษฐกิจสำคัญหลายตัวมีการขยายตัวเพิ่ม ผลักดันให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น กระทรวงการคลังคาดว่าจีดีพีปีนี้จะเติบโต 36% แต่การเติบโตกระจุกตัว ทางด้านฐานรากยังไม่ดีนัก ซึ่งรัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือหลังจากลงทะเบียนคนจนแล้วเสร็จ - ผังเมืองอีอีซีคืบ-จ่อเปิดทีโออาร์อู่ตะเภา พ.ค.นี้: กรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดแผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เพื่อให้ได้ข้อสรุปการจัดทำผังพัฒนาในพื้นที่อีอีซี ก่อนที่กรมจะเริ่มดำเนินการต่อไป - ชงงบ 3.5 แสนล้าน: รมว.คมนาคมเผยว่าเสนอของบประมาณประจำปี 61 ไปยังสำนักงบฯ เพื่อพิจารณา วงเงิน 345,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 74% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากในปีนี้มีรายจ่ายในโครงการมอเตอร์เวย์สายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในสัปดาห์หน้า - (PSHM17) PSH ยอดขาย 5 ปีชน แสนล. ลุ้นปันผล: PSH ตั้งเป้ายอดขาย 5 ปี (2560-65) แตะแสนล้านบาท จับตาไตรมาส 2-3/2560 ผลงานพีค ลุยเปิดโครงการใหม่ 23 โครงการ 23 โครงการ มูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านบาท ปลื้มไตรมาสแรกทำยอดขายได้แล้ว 1.3 หมื่นล้านบาท ฟากโบรกสั่งจับตาจ่ายปันผล 0.79 บาท ต่อหุ้น อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น