ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,365 USDต่อออนซ์ โดยค่อย ๆ อ่อนตัวลงมา และร่วงแรงในช่วงบ่าย ทำให้วันนี้มีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,338–1,365 USDต่อออนซ์ โดยวุฒิสภาสหรัฐมีการเลื่อนการลงมติรุกรานซีเรียตามคำขอของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในขณะที่หลายฝ่ายเริ่มกดดันให้รัฐบาลสหรัฐยอมรับแนวทางการเจรจาโดยสันติ หลังซีเรียแสดงท่าทียินยอมส่งมอบอาวุธเคมีร้ายแรงทั้งหมดเพื่อนำไปทำลาย ทำให้สถานการณ์ในส่วนนี้ของตะวันออกกลางมีแนวโน้มคลี่คลายมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในภาวะสงครามและเงินเฟ้อสูง ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลายวัน ในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้รับผลกระทบทางลบมากขึ้นจากเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วตั้งแต่วานนี้ ทั้งนี้ ตลาดเริ่มกลับมาจับตาประเด็นการลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(QE) ของ Fed อีกครั้ง เนื่องจากในสัปดาห์หน้า(17-18 ก.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า Fed อาจเริ่มต้นปรับลดวงเงิน QE ลงอย่างน้อย 1.5 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน
แหล่งข่าวทางการทูตเผยว่า คณะผู้ตรวจสอบอาวุธขององค์การสหประชาชาติ(UN) จะรายงานผลการตรวจสอบประเด็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีของซีเรียในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ในขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนชี้ว่า กองทัพของรัฐบาลซีเรียเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นได้เก็บหลักฐานจากพื้นที่เกิดเหตุการณ์โจมตีนอกกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 ส.ค. และได้ใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบวัตถุในห้องทดลองต่าง ๆ
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ออกมาเรียกร้องชาวสหรัฐให้กดดันรัฐบาลสหรัฐให้ยอมรับข้อเสนอให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีให้กับนานาประเทศดูแลเพื่อนำไปทำลาย ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียและสหรัฐจะประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงข้อเสนอดังกล่าว
Washington Post เผยรายงานอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐและซีเรียว่า สหรัฐเริ่มส่งอาวุธให้กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มบทบาทครั้งใหญ่ของสหรัฐต่อวิกฤติซีเรีย โดยความเคลื่อนไหวของหน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐ(CIA) ในการดำเนินการขนส่งอาวุธผ่านเครือข่ายสถานที่ลับในตุรกีและจอร์แดน ถือเป็นการยุติความล่าช้าในการให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธที่รัฐบาลได้ให้คำสัญญาไว้เมื่อเดือน เม.ย. ทั้งนี้ รายงานระบุว่า สหรัฐได้ส่งอาวุธเบา ยานพาหนะ และอุปกรณ์อสาร และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลขั้นสูง จากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
สำนักงานวิจัยสหรัฐเผยเกาหลีเหนืออาจเริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกครั้ง สถาบันเพื่อการศึกษาระหว่างประเทศสหรัฐและเกาหลี สังกัดมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอพกิ้นส์ เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งชี้ให้เห็นว่า มีไอสีขาวพุ่งออกมาจากอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เก็บกังหันและเครื่องผลิตพลังงานของเตาปฏิกรณ์ขนาด 5 เมกะวัตต์ ที่เมืองยองเบียน ซึ่งเป็นศูนย์นิวเคลียร์ที่สำคัญของเกาหลีเหนือ โดยสถาบันระบุว่า เกาหลีเหนืออาจจะเริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีความสามารถในการผลิตพลูโตเนียมได้มากพอที่จะใช้สำหรับการผลิตระเบิดปรมาณูได้ 1 ลูกต่อปี
นักเศรษฐศาสตร์จากยูบีเอส ซีเคียวริตีส์ ไชน่า คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะไม่เผชิญกับภาวะผันผวนในระยะสั้น พร้อมกับคาดการณ์ว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ของปีนี้ที่ 7.5% เนื่องจากภาวะแวดล้อมด้านการส่งออกของจีนปรับตัวดีขึ้น และเศรษฐกิจกำลังมีเสถียรภาพ ซึ่งบ่งชี้ว่านโยบายของประเทศและการบริหารความคาดหวังกำลังเกิดผล โดยกล่าวว่า ระยะสินเชื่อตึงตัวได้ผ่านไปแล้ว และภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเศรษฐกิจได้ช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ จีนจึงไม่น่าจะออกมาตรการใหม่มาควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์ – ตัวเลขในระดับต่ำกว่า 4 แสนราย แสดงถึงภาวะที่ดีขึ้นของการจ้างงานในสหรัฐ สอดคล้องกับอัตราการว่างงานที่ล่าสุดที่ระดับ 7.4% ซึ่งลดลงผิดคาด ชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐดีขึ้นมาก แต่เป้าหมายของ Fed ที่ระดับ 6.5% ยังต้องรอให้ตัวเลขรายสัปดาห์ทรงตัวในระดับต่ำกว่า 3 แสนราย เสียก่อน โดยหากในคืนนี้ประกาศตัวเลขระหว่าง 3.0–3.5 แสนราย เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ โดยหากใกล้กับระดับ 3 แสนราย จะเป็นผลลบมากขึ้น แต่หากอยู่ในช่วง 3.5-4.0 แสนราย จะส่งผลบวกทันที
- 19:30 ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน ส.ค. – ตัวเลขเบื้องต้นที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากเป็นดัชนีที่มีความผันผวนไปตามฤดูกาล ทำให้ข้อมูลที่ประกาศเป็นข้อมูลในระยะสั้น ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก
- 01:00 ดุลบัญชีงบประมาณของรัฐบาล เดือน ส.ค. – ตัวเลขส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับติดลบ ซึ่งแสดงถึงการขาดดุลงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็บ่งชี้ถึงปริมาณหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวไม่มีผลต่อราคาทองคำโดยตรง แต่จะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
ทองคำ จากกราฟราย 1 ชม. ราคาหลุดกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,356 ลงมา ทำให้ราคาดิ่งลงแรงในช่วงบ่าย และทำให้กรอบแนวโน้มขาลงระยะสั้นแข็งแรงขึ้น ซึ่งถ้าหากไม่หลุดระดับ 1,333–1,338 จะทำให้ราคาอยู่ในลักษณะปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ และมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้นในระยะกลางได้ จึงแนะนำให้ซื้อสะสม และตัดขาดทุนทันทีที่หลุด 1,333 สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,352/1,378 ให้แนวรับบริเวณ 1,338/1,333
โลหะเงิน ราคาอ่อนตัวต่อเนื่องในกรอบปรับฐานแบบ falling wedge โดยเข้าใกล้แนวรับตามเส้น moving average ที่ 22.3 ทำให้โลหะเงินมีโอกาสรีบาวน์ หรือ อาจกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์นี้ยังมีความเสี่ยงที่ราคาจะผันผวนสูงอยู่ จึงแนะนำให้ trading สั้น ๆ สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 22.8/23.05 ให้แนวรับบริเวณ 22.45/22.3
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น