Weekly Brief: ข่าวดีเรื่อง Fed จะยังไม่ลด QE กับ ข่าวร้ายเรื่องจีนและไทยจะชะลอตัวในครึ่งหลังของปีนี้ ส่งผลให้หุ้นไทยผันผวน แต่เงินบาททรงตัวได้ แม้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 6 พันล้านบาท ใน 3 วันทำการล่าสุด แต่ยังไม่มีสัญญาณไว้ใจเศรษฐกิจไทย หากยังไร้มาตรการกระตุ้น สัปดาห์นี้แนะนำให้จับตาถ้อยแถลงต่อกรรมาธิการเศรษฐกิจของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของประธาน Fed ว่าส่งผลต่อทิศทางค่าเงินบาทอย่างไร
SET
ดัชนี SET ทะลุขึ้นเหนือกรอบ sideway down แต่ยังไม่สามารถผ่านเส้น moving average ทำให้แนวโน้มยังคงทิศทางขาลงอย่างชัดเจน แม้ macd ได้ตัดเส้น signal ขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับติดลบ ดังนั้น หากจะปรับขึ้นได้ ต้องมีแรงซื้อหุ้นใหญ่มาสนับสนุน
แนวต้าน : 1,465 / 1,475 / 1,488
แนวรับ : 1,442 / 1,432 / 1,422
กลยุทธ์ : ซื้อตาม เมื่อดัชนี SET50 ผ่าน 1,000 จุด
SET50
ดัชนี SET50 ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,000 จุด อีกครั้ง แต่หากยังไม่ผ่านเหนือระดับดังกล่าว ก็ยังไม่ยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่ ซึ่งการขึ้นมาชนแนวต้านเป็นครั้งที่ 3 นี้ หากดัชนีผ่านได้ จะมีแรงซื้อทางเทคนิคเข้ามาสนับสนุน จึงมีโอกาสที่ดัชนีจะขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมได้ แต่หากไม่ผ่าน ก็มีโอกาสที่จะร่วงได้ต่อเนื่อง จากภาวะขาลงที่ยังไม่สิ้นสุด
แนวต้าน : 1,000 / 1,020 / 1,030
แนวรับ : 960 / 950 / 935
กลยุทธ์ : follow long เมื่อดัชนีผ่าน 1,000 แต่หากไม่ผ่าน ให้เล่น trading short
Bank
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารกลับมาแกว่งตัวได้ดีอีกครั้ง โดยยังมีช่องว่างให้สามารถปรับตัวขึ้นไปได้ในกรอบ sideway up ทำให้เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 อย่างมาก หากมีแรงซื้อเข้ามา โดยมีแนวต้านสำคัญที่กรอบบนของ channel ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกับเส้น moving average ทั้งนี้ ควรติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2556 ของหุ้นธนาคารด้วย
แนวต้าน : 545 / 555 / 570
แนวรับ : 534 / 528 / 512
กลยุทธ์ : trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
Energy
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพักตัวบริเวณ moving average 2 เส้น ซึ่งแม้ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวในระดับสูง แต่การที่ดัชนีเข้าใกล้กรอบบนของแนวโน้มขาลง ทำให้ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้แรง โดย macd ยังดูแข็งแรงเหนือระดับ 0 แต่ rsi ชะลอลง จึงคาดว่าจะเป็นช่วงสวิงผันผวน
แนวต้าน : 21,200 / 21,375
แนวรับ : 20,700 / 20,500 / 20,000
กลยุทธ์: trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
Commerce
ดัชนีหุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดด้วยสัญญาณ divergence และสร้างรูปเบื้องต้นของ double bottom แต่การแกว่งตัวเริ่มอ่อนแรงลงก่อนดัชนีรีบาวน์ได้ถึง 28,000 จุด หรือ ระดับ 61.8% ตาม Fibonacci retracement จึงมีความเสี่ยงค่อนข้างมากที่ดัชนีอาจยังไม่สามารถกลับตัวเป็นขาขึ้นได้
แนวต้าน : 28,000 / 29,500
แนวรับ : 27,200 / 26,000
กลยุทธ์ : trading long เมื่อดัชนีผ่าน 28,000 แต่หากไม่ผ่าน ให้เล่น trading short
BCP
หุ้น BCP ยังคงอยู่ในแนวโน้มการพักฐานขนาดใหญ่ หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 40.25 บ. เมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดย macd กับ rsi เคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาในระยะสั้นที่แสดงการอ่อนตัว
แนวต้าน : 37 / 37.5
แนวรับ : 32.5 / 30
กลยุทธ์ : ซื้อสะสมที่แนวรับ
IRPC
หุ้น IRPC ดีดตัวขึ้นได้ดีจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี ที่ 2.94 บาท โดยหากราคาผ่านเหนือ neckline ที่ 3.4 บาท จะมีโอกาสกลับตัวขึ้นได้แรงด้วยรูปแบบ double bottom แต่หากยังอ่อนตัวลงอีกครั้ง จะเป้นการเพิ่มความเสี่ยงที่ราคาจะร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดครั้งใหม่ได้
แนวต้าน : 3.4 / 3.7
แนวรับ : 3.18 / 2.96
กลยุทธ์ : follow long เมื่อผ่าน 3.4
TOP
หุ้น TOP ยังคงอยู่ในลักษณะแกว่งตัวออกข้างในกรอบระหว่าง 61-68 บาท แต่แนวโน้มปัจจุบันที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้น moving average ได้ค่อนข้างดี ทำให้มีโอกาสที่จะ break out ขึ้นไปได้
แนวต้าน : 68 / 71
แนวรับ : 65.75 / 63.75
กลยุทธ์: trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น