บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
หากยืนเหนือ 1,540 มีแนวโน้มในเชิงบวกมากขึ้น
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 17 พ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,547 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,545 - 1,553 USDต่อออนซ์
ราคาทองคำ rebound กลับขึ้นมา จากแรงซื้อกลับจากนักลงทุนบางส่วน เมื่อราคาปรับลงไปทำ Low ต่ำสุดในรอบปีที่ 1,526 ซึ่งคาดว่าเป็นการซื้อในลักษณะ Buy on dip
เมื่อราคาลงต่ำกว่าระดับ 1,550 และจากตลาด physical ของจีน และอินเดีย ทั้งนี้ ความต้องการทองคำจากจีน ได้ทำ new record ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานี้ ขณะที่ประเทศอินเดีย
เข้าใกล้เทศกาลแต่งงาน ช่วยหนุนให้มีแรงซื้อกลับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในกรีซ ยังถ่วงดุลตลาดในระยะกลาง เมื่อกรีซ จำเป็นต้องจัดตั้งการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง (17 มิ.ย.)
และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ยุติการจัดหาสภาพคล่องให้แก่ธนาคารกรีซบางแห่งแล้ว เนื่องจากธนาคารกลุ่มนี้ประสบความล้มเหลวในการเพิ่มทุน ทั้งนี้ ภาพทางเทคนิค พบสัญญาณบวก
คาดว่าหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,540 มีแนวโน้มการปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,565/1,570
วิกฤตหนี้ยูโรโซนจะถูกหยิบยกให้เป็นวาระหลักในการประชุมสุดยอด G8 ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยคาดว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้น่าจะได้เห็นสมาชิกประเทศ G8
อย่างแคนาดา สหรัฐและอังกฤษ ร่วมกันผลักดันให้ประชาชนในยุโรปใช้มาตรการที่เข้มแข็งขึ้นเพื่อปกป้อง ประเทศกลุ่มยูโรโซนจากผลที่จะเกิดจากความสับสนวุ่นวายในกรีซ ขณะที่
ธนาคารพาณิชย์ในสเปนต้องรับภาระหนี้เสียก้อนโต ซึ่งเป็นผลพวงภาวะฟองสบู่แตกในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสเปน ซึ่งคล้ายคลึงกับช่วงที่สหรัฐและไอร์แลนด์ประสบภาวะเศรษฐกิจหยุดชะงัก
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรก ปี 2555 ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 มาอยู่ที่ระดับ 1,097.6 ตัน
โดยคิดเป็นมูลค่า 5.97 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบรายปี โดยความต้องการทองจากภาคธุรกิจเครื่องประดับ เทคโนโลยี และธนาคารต่างๆหดตัวลง แม้ว่าความต้องการในด้านการลงทุนจะเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ภาวะอ่อนแรงในตลาดทองอินเดียเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ความต้องการทองลดลง ขณะที่อุปสงค์ในภาคธุรกิจเครื่องประดับและภาคการลงทุนต่างก็ได้รับผลกระทบ หลังการประกาศอัตราภาษีใหม่
ท่ามกลางสถานการณ์เงินรูปีที่อ่อนค่าและผันผวน ซึ่งทำให้ราคาทองสกุลดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อชาวอินเดีย ราคาทองที่อยู่ในระดับสูงในช่วงต้นไตรมาสก็อาจจะมีส่วนที่ทำให้ความต้อง การลดลง โดยในไตรมาสนี้
ราคาทองเฉลี่ยอยู่ที่ 1,690.57 ดอลลาร์ ซึ่งพุ่งขึ้น 22% จากช่วงไตรมาสแรกปี 2554 ส่วนปริมาณทองคำที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายปี โดยปริมาณทองในช่วงไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 1,070.3 ตัน ขณะที่การผลิตในเหมืองทองเพิ่มขึ้น 3% แตะ 673.8 ตัน
กองทุนสนับสนุนด้านการธนาคารของกรีซจะจัดสรรเงิน 1.8 หมื่นล้านยูโรภายในสัปดาห์หน้าให้กับธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 4 แห่งของกรีซ เพื่อเป็นการเพิ่มทุนชั่วคราว ทั้งนี้
โครงการแลกเปลี่ยนพันธบัตรเพื่อลดภาระหนี้ของกรีซนั้น ได้ทำให้ฐานเงินทุนของธนาคารทั้ง 4 แห่งลดลงเกือบหมด ซึ่งธนาคารดังกล่าวได้แก่ ธนาคารเนชันแนล แบงก์, ธนาคารอัลฟา,
ธนาคารยูโรแบงก์และธนาคารพิแรอุส ซึ่งจำเป็นต้องบรรลุเป้าหมายสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ระดับ 9% ภายในเดือนก.ย. ในช่วงปลายเดือนเม.ย. รัฐบาลได้อนุมัติให้กองทุน
Hellenic FinancialStability Fund (HFSF) จัดสรรเงิน 1.8 หมื่นล้านยูโรจากกองทุนช่วยเหลือ EFSF ของสหภาพยุโรปให้กับธนาคาร 4
แห่งดังกล่าวเพื่อเพิ่มเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง การสนับสนุนดังกล่าวจะเป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราวก่อนจะมีการกำหนด เงื่อนไขของกรอบการเพิ่มทุนใหม่สำหรับภาคธนาคาร ทั้งนี้
รายละเอียดที่สำคัญของแผนการเพิ่มทุนในภาคธนาคารของกรีซ ซึ่งอาจสูงถึง 5 หมื่นล้านยูโร (6.4 หมื่นล้านดอลลาร์) หากต้องรวมค่าใช้จ่ายเพื่อครอบคลุมถึงเงินฝากและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
ของธนาคารที่ประสบปัญหานั้น ยังคงไม่มีความชัดเจน ขณะที่กรอบการทำงานจะได้รับการสรุปขั้นสุดท้ายหลังจากมีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ กองทุน Hellenic Financial Stability Fund ซึ่งจะให้การสนับสนุนทางการเงินส่วนใหญ่นั้นได้รับเงินทุนจากยูโรโซนและไอเอ็มเอฟ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19.30 กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- 21.00 Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนเม.ย.
ภาพกราฟทางเทคนิคราคาลงไปทำ low ใกล้แนวรับสำคัญแล้วดีดตัวขึ้นได้ สัญญาณทางเทคนิคมีสัญญาณ over sold คาดว่าการดีดกลับจะมีแนวต้าน 1,565/1,570 แต่ถ้าผ่านไปได้มีโอกาสไปต่อที่บริเวณ 1,600 ส่วนแนวรับคาดว่ามีที่บริเวณ1,527/1,522 นักลงทุนที่ปิด Short ทำกำไรบริเวณ 1,528 ไปแล้ว เปิด Long เล่นสั้นๆลุ้น rebound โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,570 โดยมีจุด Stop loss บริเวณ 1,540
ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 26.7/26.0 แนวต้านบริเวณ 28.0/ 28.8 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 26.0 – 28.8
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th/
http://www.classicgold.co.th/
http://www.chiabsengheng.co.th/
http://www.facebook....lassicgoldgroup/
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com/
http://itunes.apple....d464234361/?mt=8
https://plus.google.com/?gpcaz=d6206a6b#114919553661509313835/posts
หากยืนเหนือ 1,540 มีแนวโน้มในเชิงบวกมากขึ้น
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 17 พ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,547 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,545 - 1,553 USDต่อออนซ์
ราคาทองคำ rebound กลับขึ้นมา จากแรงซื้อกลับจากนักลงทุนบางส่วน เมื่อราคาปรับลงไปทำ Low ต่ำสุดในรอบปีที่ 1,526 ซึ่งคาดว่าเป็นการซื้อในลักษณะ Buy on dip
เมื่อราคาลงต่ำกว่าระดับ 1,550 และจากตลาด physical ของจีน และอินเดีย ทั้งนี้ ความต้องการทองคำจากจีน ได้ทำ new record ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานี้ ขณะที่ประเทศอินเดีย
เข้าใกล้เทศกาลแต่งงาน ช่วยหนุนให้มีแรงซื้อกลับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในกรีซ ยังถ่วงดุลตลาดในระยะกลาง เมื่อกรีซ จำเป็นต้องจัดตั้งการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง (17 มิ.ย.)
และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ยุติการจัดหาสภาพคล่องให้แก่ธนาคารกรีซบางแห่งแล้ว เนื่องจากธนาคารกลุ่มนี้ประสบความล้มเหลวในการเพิ่มทุน ทั้งนี้ ภาพทางเทคนิค พบสัญญาณบวก
คาดว่าหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,540 มีแนวโน้มการปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,565/1,570
วิกฤตหนี้ยูโรโซนจะถูกหยิบยกให้เป็นวาระหลักในการประชุมสุดยอด G8 ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยคาดว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้น่าจะได้เห็นสมาชิกประเทศ G8
อย่างแคนาดา สหรัฐและอังกฤษ ร่วมกันผลักดันให้ประชาชนในยุโรปใช้มาตรการที่เข้มแข็งขึ้นเพื่อปกป้อง ประเทศกลุ่มยูโรโซนจากผลที่จะเกิดจากความสับสนวุ่นวายในกรีซ ขณะที่
ธนาคารพาณิชย์ในสเปนต้องรับภาระหนี้เสียก้อนโต ซึ่งเป็นผลพวงภาวะฟองสบู่แตกในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสเปน ซึ่งคล้ายคลึงกับช่วงที่สหรัฐและไอร์แลนด์ประสบภาวะเศรษฐกิจหยุดชะงัก
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรก ปี 2555 ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 มาอยู่ที่ระดับ 1,097.6 ตัน
โดยคิดเป็นมูลค่า 5.97 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบรายปี โดยความต้องการทองจากภาคธุรกิจเครื่องประดับ เทคโนโลยี และธนาคารต่างๆหดตัวลง แม้ว่าความต้องการในด้านการลงทุนจะเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ภาวะอ่อนแรงในตลาดทองอินเดียเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ความต้องการทองลดลง ขณะที่อุปสงค์ในภาคธุรกิจเครื่องประดับและภาคการลงทุนต่างก็ได้รับผลกระทบ หลังการประกาศอัตราภาษีใหม่
ท่ามกลางสถานการณ์เงินรูปีที่อ่อนค่าและผันผวน ซึ่งทำให้ราคาทองสกุลดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อชาวอินเดีย ราคาทองที่อยู่ในระดับสูงในช่วงต้นไตรมาสก็อาจจะมีส่วนที่ทำให้ความต้อง การลดลง โดยในไตรมาสนี้
ราคาทองเฉลี่ยอยู่ที่ 1,690.57 ดอลลาร์ ซึ่งพุ่งขึ้น 22% จากช่วงไตรมาสแรกปี 2554 ส่วนปริมาณทองคำที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายปี โดยปริมาณทองในช่วงไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 1,070.3 ตัน ขณะที่การผลิตในเหมืองทองเพิ่มขึ้น 3% แตะ 673.8 ตัน
กองทุนสนับสนุนด้านการธนาคารของกรีซจะจัดสรรเงิน 1.8 หมื่นล้านยูโรภายในสัปดาห์หน้าให้กับธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 4 แห่งของกรีซ เพื่อเป็นการเพิ่มทุนชั่วคราว ทั้งนี้
โครงการแลกเปลี่ยนพันธบัตรเพื่อลดภาระหนี้ของกรีซนั้น ได้ทำให้ฐานเงินทุนของธนาคารทั้ง 4 แห่งลดลงเกือบหมด ซึ่งธนาคารดังกล่าวได้แก่ ธนาคารเนชันแนล แบงก์, ธนาคารอัลฟา,
ธนาคารยูโรแบงก์และธนาคารพิแรอุส ซึ่งจำเป็นต้องบรรลุเป้าหมายสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ระดับ 9% ภายในเดือนก.ย. ในช่วงปลายเดือนเม.ย. รัฐบาลได้อนุมัติให้กองทุน
Hellenic FinancialStability Fund (HFSF) จัดสรรเงิน 1.8 หมื่นล้านยูโรจากกองทุนช่วยเหลือ EFSF ของสหภาพยุโรปให้กับธนาคาร 4
แห่งดังกล่าวเพื่อเพิ่มเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง การสนับสนุนดังกล่าวจะเป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราวก่อนจะมีการกำหนด เงื่อนไขของกรอบการเพิ่มทุนใหม่สำหรับภาคธนาคาร ทั้งนี้
รายละเอียดที่สำคัญของแผนการเพิ่มทุนในภาคธนาคารของกรีซ ซึ่งอาจสูงถึง 5 หมื่นล้านยูโร (6.4 หมื่นล้านดอลลาร์) หากต้องรวมค่าใช้จ่ายเพื่อครอบคลุมถึงเงินฝากและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
ของธนาคารที่ประสบปัญหานั้น ยังคงไม่มีความชัดเจน ขณะที่กรอบการทำงานจะได้รับการสรุปขั้นสุดท้ายหลังจากมีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ กองทุน Hellenic Financial Stability Fund ซึ่งจะให้การสนับสนุนทางการเงินส่วนใหญ่นั้นได้รับเงินทุนจากยูโรโซนและไอเอ็มเอฟ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19.30 กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- 21.00 Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนเม.ย.
ภาพกราฟทางเทคนิคราคาลงไปทำ low ใกล้แนวรับสำคัญแล้วดีดตัวขึ้นได้ สัญญาณทางเทคนิคมีสัญญาณ over sold คาดว่าการดีดกลับจะมีแนวต้าน 1,565/1,570 แต่ถ้าผ่านไปได้มีโอกาสไปต่อที่บริเวณ 1,600 ส่วนแนวรับคาดว่ามีที่บริเวณ1,527/1,522 นักลงทุนที่ปิด Short ทำกำไรบริเวณ 1,528 ไปแล้ว เปิด Long เล่นสั้นๆลุ้น rebound โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,570 โดยมีจุด Stop loss บริเวณ 1,540
ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 26.7/26.0 แนวต้านบริเวณ 28.0/ 28.8 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 26.0 – 28.8
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th/
http://www.classicgold.co.th/
http://www.chiabsengheng.co.th/
http://www.facebook....lassicgoldgroup/
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com/
http://itunes.apple....d464234361/?mt=8
https://plus.google.com/?gpcaz=d6206a6b#114919553661509313835/posts
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น