บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดที่ 1,788.40 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.50 USDต่อออนซ์ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แรง เมื่อธนาคารกลางยุโรปจะปล่อยกู้อีก 5 แสนล้านยูโรในวันนี้ให้แก่ธนาคารพาณิชย์และบริษัทที่ต้องการเงินลงทุน
o ราคาทองคำเมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,767.00 – 1,792.70 USDต่อออนซ์ ราคาไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยมีแรงขายทำกำไรไม่มากนัก และราคาปิดใกล้จุดสูงสุดของวัน แนวโน้มมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,803 USDต่อออนซ์ ส่วนในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,785.75 USDต่อออนซ์ กราฟในรายวันราคากลับมายืนเหนือเส้น MA ได้ทุกเส้นอีกครั้ง ภาพกราฟในราย 4 ช.ม.มีแนวรับแรกบริเวณเส้น MA 4 ที่บริเวณ 1,783 และถัดไปที่เส้น MA 9 บริเวณ 1,777 USDต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านแรกคาดว่าที่บริเวณ 1,794 - 1,803 และถัดไป 1,810 USDต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนที่เปิด Long ทยอยปิดทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้าน 1,794 – 1,803 และถือต่อบางส่วนเพื่อ Let Profit run และถ้าผ่านแนวต้านบริเวณ 1,803/1,810 USDต่อออนซ์ จะมีแรงซื้อ follow buy เข้ามาค่อนข้างมาก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 1.347 USDต่อยูโร โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับการที่ธนาคารกลางยุโรปจะปล่อยเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำในวันนี้ คาดกรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,750 – 1,810
o ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุด ECB อาจปล่อยเงินกู้จำนวน 5 แสนล้านยูโรให้กับธนาคารในยุโรปเพื่อให้ธนาคารปล่อยกู้แก่ภาคเอกชนในวันนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ระดับ 70.8 ในเดือน ก.พ.แสดงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.0% มากกว่าคาดส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว และรัฐสภาเยอรมันอนุมัติเงินช่วยเหลือรอบที่ 2 ให้แก่กรีซแล้ว ส่วนกรีซได้เริ่ม swap พันธบัตรกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนคาดว่ากรีซจะ swap พันธบัตรได้สำเร็จ ส่วนปัจจัยลบในวันนี้ ได้แก่ การแข็งค่าเงินยูโรเริ่มมีกรอบจำกัด ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงชั่วคราวจากแรงขายทำกำไรและการคาดว่าสต๊อกน้ำมันของสหรัฐที่จะประกาศในวันพุธอาจเพิ่มขึ้น การขายทำกำไรทองคำเมื่อเข้าใกล้กรอบแนวต้านสำคัญ
o ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ ธนาคารกลางยุโรปจะอัดฉีดเงินกู้ระยะยาวให้ธนาคารพาณิชย์ในวันนี้ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้
o การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพุธ ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2011 ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนก.พ. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รายได้ส่วนบุคคลเดือนม.ค. ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนม.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนก.พ.
o ราคาโลหะเงินปิดที่ 37.14 USDต่อออนซ์เพิ่มขึ้น 1.62 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 35.32 – 37.23 ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,715.62 ตัน ราคาโลหะเงินสามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญบริเวณ 35.6 USDต่อออนซ์ ได้และพ้นกรอบเส้น down trend line ที่ลากจากจุดสูงสุดใกล้ 50 USDต่อออนซ์ในปลายเดือนเม.ย. ส่งสัญญาณการจบแนวโน้มขาลง และอาจกลับเป็นขาขึ้น คาดว่าในวันนี้โลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 36.0/35.0 แนวต้านบริเวณ 37.2/37.6 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 35.0 – 37.6
o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,284.61 ตัน
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,777 – 1,803 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,777 – 1,803 แนะนำนักลงทุนที่เปิด Long ทยอยปิดทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้าน 1,794 – 1,803 และถือต่อบางส่วนเพื่อ Let Profit run โดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,740
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,800
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 - 1920
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น