วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

Today Strategy: Gold แกว่ง side way แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน SET50 โอกาสขึ้น 50/50 ถ้ายืนได้ค่อยซื้อยังไม่สาย แต่ถ้าหลุดต้องระวังลงหนัก แนะ follow short เมื่อหลุด 1,038 จุด • Gold ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 3.95 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,160.45 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำได้แรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และการร่วงลงของราคาน้ำมัน บรรยากาศการซื้อขายซบเซา โดยไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐประกาศ และกองทุน SPDR ยังขายทองคำออก โดยเหลือถือทองคำจำนวน 722.67 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี แนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้แกว่ง side way ออกทางด้านข้าง มีแนวต้านหลักบริเวณ 1,180 และแนวรับหลักบริเวณ 1,130 ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต้องติดตาม วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนต.ค. วันศุกร์ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. • ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลบ 2.7 จุด โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคร่วงลง และมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง • USD/THB ปิดที่ 32.83 บาทต่อUSD เงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ เงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน เมื่อนักลงทุนคาดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธ.กลางอังกฤษจะเลื่อนออกไปถึงปลายปี 2015 • Oil ราคาน้ำมันดิบ Nymex ร่วงลง จากปัจจัยทางเทคนิคและการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และกลุ่มโอเปกยังไม่มีท่าทีที่จะลดปริมาณการผลิต • Gold Gold ราคาทองคำปิดที่ 1,160.45 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,157.04 – 1,169.90 เช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,160 USDต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแนวรับบริเวณ 1,150/1,145 แนวต้านบริเวณ 1,170/1,180 • USD/THB ปิดที่ 32.83 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 32.79 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 32.9/33.0 ให้แนวรับบริเวณ 32.7/32.5 • ICE Brent ปิดที่ 80.38 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 82.0/83.0 และให้แนวรับบริเวณ 79.0/78.0 Spot Gold ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,100 – 1,200 แนะนำ Trading Short ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,000 –1,300 Trading Short ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 970 – 1,400 รอสะสม Long บริเวณ 970 Positive View( + ) • นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก • ความต้องการทองคำในตลาด Physical • อินเดียเริ่มผ่อนคลายมาตรการนำเข้าทองคำ Negative View( - ) • Fed ยุติมาตรการ QE นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น • ECB พร้อมใช้มาตรการ QE ซื้อพันธบัตร ABS • ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ปัจจัยที่ต้องติดตาม • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ Dollar Index ค่าเงินดอลลาร์ในกราฟรายวัน เริ่มมีแรงขายออกมา แต่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น ยังแนะนำให้รอจังหวะ trading long เมื่อราคาอ่อนตัวลง ให้แนวต้านบริเวณ 88.5 / 89.0 ให้แนวรับบริเวณ 87.0 / 86.7 Strategy: trading long เมื่อราคาอ่อนตัวลง USD/THB เงินบาทในกราฟรายวัน อ่อนตัวลงหลังไม่สามารถผ่านแนวต้านเดิมที่ 32.9 ไปได้ ตราบใดที่ยังไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวยังแนะนำให้ trading ในกรอบ ให้แนวต้านบริเวณ 32.9 / 33.0 ให้แนวรับบริเวณ 32.7 / 32.5 Strategy: trading ในกรอบ ICE Brent น้ำมันดิบ Brent ในกราฟวัน มีสัญญาณ bullish divergence เกิดขึ้นทั้งใน macd และ RSI แต่แนวโน้มยังเป็นขาลง ควรรอให้ราคา breakout ผ่านเส้น downtrend line ก่อนจึง trading long ให้แนวต้านบริเวณ 82.0 / 83.0 ให้แนวรับบริเวณ 79.0 / 78.0 Strategy: trading long หากราคา breakout ผ่าน downtrend line KTBZ14 สัญญาล่วงหน้าหุ้น KTB ในกราฟราย 240 นาที ราคาหลุดแนวรับเส้น MA 200 ลงมา macd ติดลบ มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้อีก ให้แนวต้านบริเวณ 23.4 / 24.0 ให้แนวรับบริเวณ 22.8/ 22.5 Strategy: trading short เมื่อดีดตัวขึ้น JASZ14 สัญญาล่วงหน้าหุ้น JAS ในกราฟราย 240 นาที ดีดตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านเดิม แต่ราคายืนไม่ได้ทำให้ราคามีโอกาสย่อตัวลงในระยะสั้น ให้แนวต้านบริเวณ 7.8 / 8.0 ให้แนวรับบริเวณ 7.3 / 7.0 Strategy: trading short ITDZ14 สัญญาล่วงหน้าหุ้น ITD ในกราฟราย 240 นาที ถูกขายหลังจากขึ้นไปทำ high แนวโน้มขาขึ้นจึงไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แนะนำให้รอเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว ให้แนวต้านบริเวณ 6.2 / 6.3 ให้แนวรับบริเวณ 5.8 / 5.6 Strategy: trading long เมื่อราคาอ่อนตัวลง SET 50 ดัชนี SET50 ยังคงทรงตัวเหนือเส้น moving average ที่ 1,038 จุด แต่แรงซื้อที่แผ่ว ทำให้โอกาสดีดขึ้นมีแค่ 50/50 แม้ MACD ลงแตะระดับ 0 แล้วก็ตาม Strategy: follow short เมื่อหลุด 1,038 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ ยูโร และบาท - 17 พ.ย. GDP ไตรมาส 3 ข่าวในประเทศ - หนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP ในเดือน ส.ค.อยู่ที่ 46.46% คิดเป็น 5.65 ล้านล้านบาท ต่ำกว่ากรอบ 60% ที่คลังกำหนดไว้ โดยแบ่งเป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 3.92 ล้านล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.1 ล้านล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน(รัฐบาลค้ำประกัน) 6.15 แสนล้านบาท, หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 1.54 หมื่นล้านบาท - ธนาคารโลกคาด ปีหน้าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ตามตลาดโลก โดยประเมินอัตราการขยายตัวของ GDP ที่ 3.5-4.0% - แบงก์ชาติแจ้ง 14-15 พ.ย.นี้ ช่วงเวลา 22.00-06.00น. ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะหยุดให้บริการ ATM เพื่อทดสอบระบบร่วมกัน แต่จะมีผลต่อการเบิกถอนระหว่างธนาคารและการทำธุรกรรมกับต่างประเทศเท่านั้น แต่การให้บริการ ATM ของแต่ละธนาคาร ยังเปิดตามปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น