บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 2 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,730 1,720 แนวต้านที่ 1,755 1,770 1,780 ภาพกราฟราย 240 นาที มีแรงซื้อที่บริเวณ 1,735 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 (MA10) แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,730 1,720 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,755 1,770 1,780 Trading ในกรอบ 1,720 – 1,780
พักตัว รอมติยูโรโซนสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 2 ธ.ค. อยู่ที่ 1,742.40 USD ต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,740 – 1,748 USD ต่อออนซ์ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเช้าวันนี้ ระหว่างวันราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐอาจเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่สดใสที่จะประกาศในวันนี้ (2 ธ.ค.) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังไม่ต้องการเข้าลงทุนเป็นจำนวนมากก่อนการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรปในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะพยายามกำหนดแผนยุทธศาสตร์เพื่อจัดการกับวิกฤติหนี้ โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะประชุมกันในวันจันทร์หน้า (5 ธ.ค.) เพื่อกำหนดร่างข้อเสนอร่วมกัน และจะยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (อียู) ในวันที่ 9 ธ.ค. โดยหากมีมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปที่ชัดเจน ก็จะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงทองคำ คาดว่าหากราคาทองคำยืนเหนือ 1,720 – 1,740 ก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อไป เพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,755 และ 1,770 สำหรับประเด็นอื่นที่น่าติดตาม ได้แก่
ไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟมีกำหนดประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับการอนุมัติเบิกจ่ายเงินกู้งวดที่ 6 มูลค่า 2.2 พันล้านยูโรให้กับกรีซ ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) และ ไอเอ็มเอฟซึ่งจะพิจารณาอนุมัติเงินกู้งวดที่ 6 ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้
รมว.คลังบราซิลกล่าวว่า ประเทศเกิดใหม่ชั้นนำจะเสนอเงินสดเพื่อช่วยยุติวิกฤติหนี้ของยุโรป ตราบใดที่ประเทศเหล่านี้มีอิทธิพลมากขึ้นในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และยุโรปดำเนินการมากกว่านี้เพื่อจัดการกับปัญหาของตนเอง ผู้นำยุโรปกำลังพยายามหามาตรการขั้นสุดท้ายเพื่อยุติวิกฤติหนี้ที่กำลังขยายวงกว้างออกไป ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และอาจจะลุกลามไปทั่วยูโรโซน รมว.คลัง บราซิลและประเทศในกลุ่ม BRIC มีความตั้งใจที่จะเพิ่มการสมทบทุนสนับสนุนไอเอ็มเอฟเพื่อจัดการกับวิกฤติหนี้ ซึ่งกำลังคุกคามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่ม BRIC มากขึ้น ประเทศในกลุ่ม BRIC ประกอบด้วยบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย และจีน
รมช.ต่างประเทศของจีนกล่าวในวันนี้ว่า จีนไม่สามารถใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศขนาด 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ของตนเองในการเข้าช่วยเหลือประเทศอื่นๆได้ โดยถ้อยแถลงนี้ถือเป็นการปฏิเสธข่าวที่ว่า จีนอาจจะช่วยเหลือยุโรปในการแก้ไขวิกฤติหนี้สิน ซึ่งจีนเป็นประเทศที่ครอบครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศไม่กี่ประเทศที่มีเงินทุนมากพอที่จะใช้ในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลยุโรปและช่วยเหลือยุโรปให้รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจได้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงสองคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง ถึงแม้สถานการณ์ในยุโรเลวร้ายลงในอนาคต โดยอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยที่เฟดเรียกเก็บจากการปล่อยกู้ฉุกเฉินให้แก่ธนาคารพาณิชย์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,730 1,720 แนวต้านที่ 1,755 1,770 1,780 ภาพกราฟราย 240 นาที มีแรงซื้อที่บริเวณ 1,735 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 (MA10) แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,730 1,720 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,755 1,770 1,780 Trading ในกรอบ 1,720 – 1,780
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 32.5 32.0 แนวต้านที่ 33.5 33.9 ภาพกราฟราย 240 นาที ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 32.0 – 33.9 แนะนำ Trading ในกรอบ
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.classicgold.co.th http://www.chaibsengheng.co.th http://www.facebook....lassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf
http://www.classicgo...es.blogspot.com http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น