วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 1 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 1 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,720 1,705 แนวต้านที่ 1,750 1,770 1,780 ภาพกราฟราย 240 นาที มีแรงขายที่บริเวณ 1,750 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 (MA10) แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,720 1,705 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,750 1,770 1,780 Trading ในกรอบ 1,705 – 1,750

สร้างฐาน รอการฟื้นตัว

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 1 ธ.ค. อยู่ที่ 1,746.55 USD ต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,741 – 1,748 USD ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำอ่อนตัวลงมาเล็กน้อย หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงในคืนวานนี้ เมื่อค่าเงิน US dollar อ่อนค่าลงไป จากเฟด และธนาคารกลางชั้นนำของโลกอีก 5 แห่งประกาศใช้มาตรการบรรเทาภาวะตึงตัวในตลาดการเงินด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยสว็อปสกุลเงินดอลลาร์ เพื่อให้ธุรกรรมการกู้ยืมไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งการประกาศดังกล่าวได้ช่วยหนุนราคาหุ้นทั่วโลกและราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามวิกฤติหนี้ยุโรปที่ยังคงน่าเป็นห่วง อาจกลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง หากดูจากกราฟทางเทคนิคราคาทองคำสามารถทะยายผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1.725 ไปได้แล้ว แต่ก็ยังคงถูกกดไว้ที่แนวต้ายถัดไปที่ 1,750 ดังนั้นหากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้อีกครั้ง คาดว่าราคาทองคำน่าจะไปต่อที่บริเวณ 1,800 อีกครั้ง

นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า รายได้ภาคครัวเรือนในอังกฤษจะไม่ขยายตัวเป็นเวลานานถึง 15 ปี อันเป็นผลกระทบมาตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ระหว่างปี 2551-2552 อังกฤษกำลังจะเผชิญภาวะตกต่ำของรายได้ภาคครัวเรือนครั้งรุนแรงที่สุด เป็นประวัติการณ์ในระยะเวลา 3 ปีนี้ ส่วนในระยะยาวกว่านั้น คาดว่าแม้จะเข้าสู่ปี 2559-2560 แต่รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนก็จะไม่สูงกว่าในปี 2545-2546 มากนัก นอกจากนี้ยังคาดว่า ระยะเวลา 10 ปีระหว่าง 2548-2558 รายได้ต่อครัวเรือนจะลดต่ำลง เนื่องจากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้น้อยที่สุดนับตั้งแต่ ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หรืออาจเรียกได้ว่าช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำอย่างยาวนาน

เฟด เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ตามเวลาไทย โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเกือบทุกเขต "มีอัตราการขยายตัวปานกลาง" ซึ่งมีเพียงเขตเซนต์หลุยส์เพียงเขตเดียวเท่านั้นที่รายงานว่า "กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง"รายงานของเฟดระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐนั้น "ปรับตัวเพิ่มขึ้นปานกลาง" ในช่วงเวลา 40 วัน จนถึงวันที่ 17 พ.ย. ขณะที่ยอดขายยานยนต์และธุรกิจการท่องเที่ยวในหลายเขต ส่งสัญญาณการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ส่วนกิจกรรมด้านการผลิต "ขยายตัวในอัตราที่ทรงตัว" เกือบทั่วทุกเขตของประเทศ ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา นอกจากนี้ รายงานระบุว่า การจ้างงานในทุกเขตทั่วประเทศ "อ่อนตัวลง" ขณะที่อัตราค่าแรงและเงินเดือน "ยังคงทรงตัว"

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 20.30 น. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,720 1,705 แนวต้านที่ 1,750 1,770 1,780 ภาพกราฟราย 240 นาที มีแรงขายที่บริเวณ 1,750 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 (MA10) แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,720 1,705 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,750 1,770 1,780 Trading ในกรอบ 1,705 – 1,750
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 32.1 31.5 แนวต้านที่ 33.0 33.5 ภาพกราฟราย 240 นาที ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 31.0 – 33.0 แนะนำ Trading ในกรอบ


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น