วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงหลังจากถูกกดดันโดยค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ก่อนที่จะทำจุดสูงสุดในรอบ 9 วันได้ และราคากลับมาเคลื่อนไหวเหนือ 100 จุดได้ โดยปัจจัยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ คือตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์ และดีกว่าครั้งก่อน และประธานเฟดสาขาย่อยให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามเดิม แต่ราคาทองก็ปรับลดลงไม่มากเนื่องจากปัจจัยความเสี่ยงการเมืองฝั่งยุโรปก็ยังคงต้องติดตาม Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 9.05 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.72% โดยปิดที่ 1,242.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,242.21 – 1,253.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,241 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 วัน โดยเมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือ 1. ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (GDP) ไตรมาส 1/2560 ประกาศออกมาที่ 2.1% มากกว่าคาดการณ์ที่ 2.0% 2. ประธานเฟดสาขาชิคาโก้ เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ราคาทองปรับลดลงไม่มากเนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องการเมืองฝั่งยุโรป คือ ประเด็นการออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ และ การเลือกตั้งของฝรั่งเศสในเดือนหน้า และวันนี้ติดตามตัวเลขดัชนีราคาของสหรัฐฯ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ในระหว่างวัน หลังจากคูเวตสนับสนุนให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยูโรโซนถ่วงยูโรร่วงลง ยูโรร่วงสู่ระดับ 1.0681 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. และดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ 100.52 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค • ยูโรร่วงลงหลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีและสเปนชะลอตัวลงรุนแรงเกินคาดในเดือนมี.ค. ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซนอาจดำเนินต่อไป ส่วนในสหรัฐนั้น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเกินคาดในไตรมาส 4/2016 อันเป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง • ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก โดยนายอีแวนส์กล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ของเขาในการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ดัชนีราคาของสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว ในระยะกลางรอสะสม long เมื่อปรับลดลงแรง [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ระวังแรงขายทำกำไร ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นค่อนข้างโดดเด่นสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวและปิดตลาดในแดนลบเป็นส่วนมาก ในขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งในตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์ อย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ โดยเรามองว่าการเคลื่อนไหวที่สวนทางกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคพร้อมทั้งกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่องสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มีมุมมองบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยมากกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ประกอบกับแรงซื้อในหุ้นใหญ่กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่นำตลาด จากคาดการณ์การทำ Window Dressing สิ้นไตรมาส 1/60 โดยดัชนี SET index เมื่อวานนี้ปิดตลาด ในแดนบวกที่ 1,579.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่หนาเเน่นอย่างมีนัยสำคัญถึง 51,767.28 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อหลักจากนักลงทุนต่างประเทศซึ่งซื้อสุทธิถึง +10,662.23 ล้านบาท รวมมีสถานะซื้อสุทธิในดัชนี SET index ตลอดเดือน +3,891 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นมีมุมมองสวนทางขายสุทธิรวมกันประมาณ -10,000 ล้านบาท ปัจจัยนี้ให้ความเห็นว่าการปรับขึ้นของดัชนีไม่สอดรับกับมุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดดังนั้นอาจมีเเรงขายทำกำไรบางส่วนในวันนี้หรือในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อรอปัจจัยพื้นฐานให้สามารถปรับตัวตามดุลยภาพของตลาดได้ ในส่วนของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เคลื่อนไหวในแดนบวกตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 998 จุด ก่อนปิดตลาดบวก +2.3 จุด ที่ 995.20 จุดอย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบางส่วนกดดัน ประกอบกับเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเป็นปกติโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์นี้ซึ่งอาศัยแรงหนุนจากกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติและแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศเท่านั้น ในขณะที่ปัจจัยบวกระยะกลางอื่นๆ ยังไม่โดดเด่น • Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 990 จุด ฝั่ง Long ได้เปรียบ, Upside เริ่มจำกัด ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่เริ่มฟื้นตัวอาจเป็นปัจจัยบวกกลุ่มพลังงานภายในประเทศ ข่าวในประเทศ - รายได้รัฐ 5 เดือนแรกเกินเป้า1.6%: คลังเผยเก็บรายได้รัฐบาล 5 เดือนแรก ปีงบ 60 เกินเป้าหมาย 1.4 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6% โดยการจัดเก็บรายได้จาก 3 กรมภาษีต่ำเป้าราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ การนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการกว่า 3 หมื่นล้านบาท - ไทยถกรัฐบาลทรัมป์ครั้งแรก 3 เม.ย. : กระทรวงพาณิชย์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐ ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ประจำปี 60 วันที่ 3 เม.ย.นี้ ที่กรุงเทพฯ เป็นการหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรก กับสหรัฐ ภายใต้รัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นโอกาสดีในการหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน ในลักษณะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายสนใจและเป็นประโยชน์ร่วมกัน - (CBGH17)'คาราบาว'กรุ๊ปปีนี้ รายได้โต20-25% : CBG ลุยลงทุนเพิ่มกำลังผลิตกระป๋องหลังขายดีจนกำลังผลิตไม่พอ หวังปีนี้รายได้โต 20-25% โดยเปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตประมาณ 20-25% ขณะที่กำไรปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศที่เติบโตดี โดยธุรกิจในประเทศหลังจากในปี 2559 บริษัททยอยเพิ่มจำนวนหน่วยรถกระจายสินค้า (Cash Van) เป็น 31 คัน จะเข้ามาช่วยสร้างยอดขายปีนี้เต็มปีเฉลี่ย 3 หมื่นบาท/วัน/คัน อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 31 มีนาคม 2560

Spot 1,240.98(-1.92) THB 34.45(+0.01) EU/TH 36.7678(+0.01) Gold Traders 20,200(-100) GFJ17 20,360(-130) S50M17 996.6(+1.4)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ติดตาม “จีดีพี” สหรัฐฯ ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,250.52 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นระหว่าง 1,247.55 – 1,251.46 USD/toz ภาพการเคลื่อนไหวถือว่ามีทั้งแรงซื้อและแรงขายสลับกัน โดยทองคำยังคงถือได้ว่าได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองฝั่งยุโรปซึ่งมีโอกาสที่ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาดเดิม รวมทั้งความไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ในทางปฏิบัติว่าจะสามารถเป็นผู้นำฝ่ายบริหารได้อย่างเด็ดขาดเหนือฝ่ายนิติบัญญัติได้ ในส่วนของมุมมองนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ยังคงมุมมองถือครองทองคำสุทธิไว้ที่ระดับ 833.51 ตัน ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งเรามองว่าการถือสถานะทองคำดังกล่าวก็สอดคล้องกับภาพการเคลื่อนไหวของทองคำที่เริ่มมีแรงขายทำกำไรและแกว่งตัวออกข้างในกรอบราคา โดยเราเชื่อว่านักลงทุนบางส่วนตอบรับข่าวต่างๆ ทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบหลักๆ ไปแล้วระดับหนึ่ง ดังนั้นทองคำมีแนวโน้มทีจะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างในแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อย สำหรับการเปิดสถานะในค่ำคืนนี้ ขอให้ติดตามตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ จีดีพีขั้นสุดท้ายไตรมาส 4/59, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคา รวมไปถึงถ้อยแถลงสมาชิก FOMC(Kaplan) ซึ่งมีความสำคัญต่อการชี้นำการเคลื่อนไหวของทองคำพอสมควร หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลง: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงในวันพุธท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบาง โดยถูกกดดันจากความไม่แน่ใจเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดที่ 100-64/256 โดย มีอัตราผลตอบแทน 2.9872% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปิดที่ 98-216/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.3819% - ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าจากความเห็นเจ้าหน้าที่เฟดหนุนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก: ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพุธโดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และยุโรป รวมทั้งนักลงทุนมองว่า ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงขายมากเกินไปแล้ว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยูโรร่วงลงสู่ 1.0741 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับ ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ 100.13 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. - ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบหนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวพุ่งขึ้น 2.4%: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) ปรับพุ่งขึ้น 2.4 % ในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้นน้อยเกินคาด ด้านลิเบียยังคงประสบปัญหาขัดข้องในการส่งออกน้ำมัน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีแนวโน้มที่จะต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือ น พ.ค.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4 % มาปิดตลาดที่ 49.51 USD/bbl - ราคาทองคำขยับขึ้นขณะตลาดที่จับตา Brexit: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้น 43 เซนต์ สู่ 1,251.95 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธและเคลื่อนตัวอยู่ใต้จุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ทำไว้ในวันจันทร์ที่ 1,261.03 USD/toz โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit และจากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งในฝรั่งเศส รวมไปถึงความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยบดบังการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ปรับขึ้นกดดันทองคำ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 1.90 ดอลลาร์ ที่ 1,253.70 USD/toz ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน - ค่ำคืนนี้ติดตามจีดีพีขั้นสุดท้ายสหรัฐฯ คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบให้น้ำหนักฝั่ง Long Position เป็นหลัก (Long Bias) [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 30 มีนาคม 2560

Spot 1,249.31(-2.64) THB 34.42(+0.01) EU/TH 36.9533(-0.0925) Gold Traders 20,350 GFJ17 20,490(-40) SET50 1,001.52(+3.89) S50H17 1,004.9(+6.9)

วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และขาดปัจจัยที่ชัดเจนในช่วงนี้ โดยปัจจัยกดดันคือค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ได้ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองก็ได้รับปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และทางฝั่งยุโรปที่มีทั้งประเด็นการออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ และการเลือกตั้งของประเทศฝรั่งเศสในเดือนหน้า Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.43 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.03% โดยปิดที่ 1,251.95 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,254.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,250 เหรียญ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ ประมาณ 8 เหรียญในเมื่อวานนี้ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ได้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามราคาทองก็ได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป ที่มีทั้ง การออกจากยูโรโซนของอังกฤษ และการเลือกตั้งของฝรั่งเศสที่ใกล้เข้ามาถึงในเดือนหน้า แต่ในช่วงสั้นนี้ราคาทองยังขาดปัจจัยที่ชัดเจนที่จะทำให้ราคาทองแกว่งผันผวนแรง และในวันนี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ เป็นหลัก หากผิดคาดการณ์มาก อาจจะเป็นปัจจัยให้ราคาทองแกว่งผันผวนได้ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 2.4 % ในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นน้อยเกินคาด, ลิเบียยังคงประสบปัญหาขัดข้องในการส่งออกน้ำมัน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีแนวโน้มที่จะต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและยุโรป และนักลงทุนมองว่า ดอลลาร์เผชิญแรงขายมากเกินไปแล้ว หลังปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพในสัปดาห์ที่ผ่านมา • ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากความเห็นของนายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับขึ้น 43 เซนต์ สู่ 1,251.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ และเคลื่อนตัวอยู่ใต้จุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ทำไว้ในวันจันทร์ที่ 1,261.03 ดอลลาร์ โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit, จากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งในฝรั่งเศส และจากความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยบดบังการแข็งค่าของดอลลาร์ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) • Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว ระยะกลางฝั่ง long ยังน่าสนใจ [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: เปลี่ยนมาถือซีรี่ย์ M (S50M17) ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างและเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังจากที่ภาพการเคลื่อนไหวตลอดสัปดาห์ได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดไทย ทำให้กลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทยเคลื่อนไหวและปิดตลาดในแดนบวกเป็นส่วนมาก โดยที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างโดดเด่นกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มทรงตัวจากความไม่มั่นใจต่อศักยภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังฝ่ายนิติบัญญติคว่ำร่างกฎหมายอเมริกันเฮลแคร์ สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้ เปิดตลาดบริเวณ 997.50 เคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างวัน 2-3 จุด และปิดตลาด +0.1 จุด ที่บริเวณ 998 จุด ลักษณะการเคลื่อนไหวระหว่างวันคล้ายคลึงกับดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,574.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ยังคงเบาบางตามเดิมเพียง 36,901.85 ล้านบาท เป็นเเรงขายของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ -1,923.13 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -300.28 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มซื้อสุทธิน้อยลงเพียง +156.62 ล้านบาท เท่านั้น โดยปัจจัยที่เข้ามากระทบระหว่างวันคงหนีไม่พ้นประเด็นที่ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี หลังพิจารณาว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราแนะนำให้เปลี่ยนมาถือซีรีย์ M (S50M17) แทนซีรีย์ H (S50H17) ที่ครบกำหนดสิ้นอายุสัญญาลงไป • Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, เป้าทำกำไร/ตัดขาดทุน สั้นๆ รอประเด็นใหม่ๆ ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งในตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์ ข่าวในประเทศ - ต่างชาติซื้อหุ้นไทยหมื่นล้านหนีความเสี่ยงนโยบายทรัมป์ไม่ชัด: ทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งสัปดาห์เฉียด 1 หมื่นล้านบาท ดันหุ้นอันทัชนิวไฮรอบปี “เมย์แบงก์” ชี้ความเสี่ยงต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนโยบายทรัมป์ ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจและบจ.ไทยแนวโน้มเติบโตดี ด้านเคทีบีแนะเพิมน้ำหนักหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมประเมินดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นช่วงไตรมาส 2 - แนะไทยเร่งลงทุน 5G รองรับ4.0 ชี้หากล่าช้าจะเสียโอกาสสร้างรายได้นับแสนล้าน: หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะสมาคมจีเอสเอ็มเปิดเผยว่าการลงทุนเทคโนโลยีมีทั้งความท้าทายและความเสี่ยงถ้าต้องรอเหมือนตอนเปลี่ยนยุค 2G มา 3G ที่ต้องใช้เวลา 20 ปี ประเทศจะเดินหน้าไม่ทันดังนั้น ไม่ใช้แค่ผู้ให้บริการโครงข่ายหรือ ภาคเอกชนที่ให้บริการเป็นผู้ลงทุน แต่ภาครัฐควรเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานให้ทั่วถึงและเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานและควรลงมือทันทีไม่ใช่รออีก 3-5 ปี แล้วค่อยเดินหน้า - (CKH17) CK แบ็กล็อกทะลักแสนล้าน ลุ้นชิงรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง : CK จ่อร่วมวงชิงงานไฟฟ้าทุกเส้นทาง ตั้งเป้าคว้างานไม่ต่ำกว่า 20-25% ของมูลค่างานทั้งหมด หวังอัพยอด Backlog ทะลักกว่า 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 8.3 หมื่นล้านลาท รับรู้รายได้ยาวต่อเนื่อง 3 ปีข้างหน้า ด้านบอร์ด PPP อนุมัติ 6 โครงการ เร่งประมูลปีนี้ มูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 30 มีนาคม 2560

Spot 1,249.6(-3.35) THB 34.49(+0.08) EU/TH 37.0595(+0.0137) Gold Traders 20,350 GFJ17 20,500(-30) S50H17 997.9(-0.1)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) เริ่มย่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,251.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,253.38 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งในกรอบบวกลบแคบๆ ประมาณ 7 เหรียญ โดยในบ่ายวันนี้ราคาทองแกว่งในแดนบวกเล็กน้อย ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน รวมทั้งราคาน้ำมันที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องติดตามกระบวนการลงนามถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีอะไรผิดคาดการณ์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับราคาทอง แต่ให้จับตาความคืบหน้าเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินทั่วโลกได้ และในวันติดตามยอดขายบ้านที่รอปิดการขายและตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าภาพรวมราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นเสี่ยงต่อการขายทำกำไรช่วงสั้น หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่อังกฤษเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เข้าร่วมอียูในปี 1973 ณ เวลา 14.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปบวก 0.2% มาที่ 1,490.94 ส่วนดัชนี STOXX 600 บวก 0.14% - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจจะร่วงลงก่อนกลางปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกกฎหมายในสหรัฐและการเลือกตั้งในยุโรป อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มปิดตลาดปีนี้ด้วยการปรับขึ้น 7% จากปี 2016 - ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งในวันนี้ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ ทางด้านปอนด์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อังกฤษจะเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีแนวโน้มเติบโตในเดือนมี.ค.เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีดขึ้นอย่างพลิกความคาดหมาย และส่งผลให้เกิดภาวะเฟื่องฟูในภาคก่อสร้าง โดยทำให้ยอดขายวัสดุก่อสร้างซึ่งรวมถึงเหล็กกล้าและปูนซีเมนต์พุ่งสูงขึ้น - นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันอังคารว่า ผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอนมากเกินไป ดังนั้นเฟดจึงไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาต่อผลกระทบดังกล่าวได้ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ได้ในช่วงนี้ - บริษัทซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในวันอังคารว่า การลงทุนในทองแท่งจะเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่คาดว่าปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลกจะทำให้มีความสนใจซื้อทองต่อไป "นักลงทุนซึ่งเคยขายทองในปลายปี 2011 และต้นปี 2012 นั้น ได้กลับเข้ามาลงทุนแล้ว" ซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในรายงาน Gold Yearbook 2017 ซีพีเอ็มคาดว่า การลงทุนในทองแท่งจะอยู่ที่ 17.6 ล้านออนซ์ในปี 2017 พุ่งขึ้นจากระดับ 17.4 ล้านออนซ์ในปี 2016 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งอยู่ที่ 29.2 ล้านออนซ์ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ราคาน้ำมันที่เริ่มดีดกลับจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย - ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน - กระบวนการ Brexit ในวันนี้ คำแนะนำ : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับตัวลดลงแรง [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 29 มีนาคม 2560

Spot 1,252.4(+0.88) THB 34.43(-0.01) EU/TH 37.1465(-0.09) Gold Traders 20,350 GFJ17 20,530(-10) SET50 997.63(-2.77) S50H17 998.1(+0.1)

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือนได้ในเมื่อวานนี้ โดยปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ประกาศในเมื่อคืนนี้ออกมาดีสุดในรอบกว่า 16 ปี รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ทองคำเผชิญแรงขายทำกำไร แต่เชื่อว่าในระยะกลางราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดีต่อ ระยะสั้นอาจมีโอกาสพักฐาน Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 2.27 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.18% โดยปิดที่ 1,251.52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.41 – 1,258.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,248 เหรียญ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงซื้อกลับในค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยเมื่อคืนนี้มีประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่ออกมาทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี ทำให้ปัจจัยนี้ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ผนวกกับ ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากจะมีการลงนามออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ และราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย ส่งผลให้เป็นปัจจัยหนุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ และสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าราคาทองคำในระยะกลางยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นอาจจะถูกขายทำกำไรเพื่อพักฐานได้ และกองทุน SPDR มีการลดสถานะขายทองออกมาเมื่อวานนี้ 1.78 ตัน รวมถือครอง 833.51 ตัน Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.34 % ในวันอังคาร หลังจากลิเบียประสบปัญหาใหญ่ในการผลิตน้ำมัน และเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอาจจะต่ออายุมาตรการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ • แหล่งข่าวในบริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ป (NOC) ของลิเบียรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธได้ปิดกั้นการผลิตน้ำมันในแหล่งน้ำมันชาราราและวาฟาทางภาคตะวันตกของลิเบีย และส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดลง 252,000บาร์เรลต่อวัน หรือลดลงราว 1 ใน 3 • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคารโดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนขณะที่นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการที่อังกฤษจะเริ่มถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) นั้นกดดันสกุลเงินยุโรป • ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี • ราคาทองได้รับแรงกดดัน ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐ, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตลาดหุ้นปรับสูงขึ้น Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การลงนามออกสหภาพยุโรปของอังกฤษในวันนี้ • ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) • Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับลดลงแรง [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: แรงหนุนจาก Window Dressing สำหรับภาพการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ระหว่างดัชนี SET index และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50(S50H17) ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเรามองว่าเป็นผลมาจากการที่สัญญาฯ S50H17 ใกล้ถึงวันสิ้นสุดอายุแล้วประกอบกับภาพความชัดเจนของปัจจัยต่างๆ ยังคงไม่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในการปรับขึ้นของดัชนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับขึ้นที่มีแนวโน้มมาจากการทำ Window Dressing ในไตรมาส1/60 และกระแสเงินทุนไหลเข้าหลังนักลงทุนต่างชาติขาดความมั่นใจในมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งประสบปัญหาการคัดค้านจากฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นโดยไม่มีมูลค่าการซื้อขายที่สอดคล้องกันทำให้มีความอ่อนไหวและเปราะบางต่อปัจจัยกระทบ ซึ่งเรามองว่ามีโอกาสสูงที่อาจมีแรงขายทำกำไรบางส่วนเกิดขึ้นในตลาดตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้เป็นต้นไป สำหรับสัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่บริเวณ 998 จุด ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 999.50 จุด สร้างกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 5 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 998 จุด +2.8 จุด การเคลื่อนไหวผันผวนระหว่างวันมากกว่าดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,576.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นจากวันก่อนหน้าเเต่ก็ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ปกติที่สี่หมื่นล้านเพียง 38,903.60 เท่านั้น โดยยังคงเป็นเเรงซื้อสุทธิหลักจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า +1,675.69 ล้านบาท พร้อมทั้งมีสถานะซื้อในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 +876 สัญญา สะท้อนมุมมองบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และกลุ่มธนาคารที่มีแนวโน้มจะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ • Strategy : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 997.50 จุด, ระวังแรงขายทำกำไร, ติดตามการประชุม กนง. ปัจจัยที่ต้องติดตาม - การประชุม กนง. 29 มี.ค. และการทำ Window Dressing ไตรมาส 1/60 - กระบวนการ BREXIT 29 มี.ค. ข่าวในประเทศ - ก.ล.ต.คุมเข้มหุ้นไอพีโอตีกันผู้มีอุปการคุณ: ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรหุ้นไอพีโอ ให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เพราะที่ผ่านมาพบว่าการซื้อขายหุ้นไอพีโอ ในหลายกรณีมีความร้อนแรง ส่วนหนึ่งเกิดจากหุ้นที่กระจุกตัวมากในกลุ่มผู้มีอุปการคุณที่ออกหลักทรัพย์ถึง 40-50% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ซึ่งทำให้สามารถควบคุมปริมาณหุ้นจนนำไปสู่การสร้างราคาหุ้นสูงได้ง่ายและพบว่ามีรายชื่อผู้มีอุปการคุณซ้ำกันในการทำไอพีโอของบริษัทที่อยู่ต่างอุตสาหกรรมกัน - ทำธุรกิจในไทยง่ายขึ้นแน่ พาณิชย์มั่นใจธนาคารโลกประกาศ ต.ค.นี้อันดับดีกระโดด: พาณิชย์มั่นใจอันดับความยาก-ง่ายทำธุรกิจไทยปี 2561 ที่ธนาคารโลกจะประกาศในเดือน ต.ค.นี้ "โตแบบกระโดด" แน่ ตั้งเป้าติด 1 ใน 30 หลังเปิดให้จดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ครม.ปลื้ม แนวโน้มเศรษฐกิจไทยต้นปีเริ่มฟื้น ส่งออกกระเตื้อง อานิสงส์ตลาดคู่ค้าเริ่มคึกคัก - (MINTH17)‘ไมเนอร์ฯ’ รุกผุดช็อปรับกระแสฮิตอเนลโล่: ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดจำหน่ายสินค้านำเข้ากระเป๋าอเนลโล่ เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์กระเป๋าอเนลโล่ แบรนด์จากญี่ปุ่นระยะ 5 ปี เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการและทุ่มงบ 50 ล้านบาท ขยายช็อปจาก 39 สาขา ให้ครบ 53 สาขา และมีโอกาสจะขยายเพิ่มเป็น 70 สาขาทั่วประเทศ อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 29 มีนาคม 2560

Spot 1,248.37(-3.15) THB 34.51(+0.07) EU/TH 37.3536(+0.1171) Gold Traders 20,350 GFJ17 NA S50H17 997.5(-0.5)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) คืนนี้ติดตามฝั่งสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,253.84 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,250.45 – 1,254.86 USD/toz ภาพรวมการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะแกว่งตัวออกข้างพักฐานหลังปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาสิบกว่าวันและขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ระดับ 1,261.03 USD/toz ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวระหว่างวันยังคงมีความผันผวนจากแรงขายทำกำไรอยู่บ้างโดยเฉพาะช่วง 13.00น.-14.00น. โดยเราคาดการณ์ว่าเป็นแรงขายเพื่อปรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนที่ปรับลดสถานะการถือครองทองคำเพื่อรับความเสี่ยงจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Kaplan) และความผันผวนจากการประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้หลายดัชนี ได้แก่ ดุลการค้า, สินค้าคงคลังของภาคการค้าส่ง, ดัชนีราคาบ้าน, ความเขื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีภาคการผลิตเขตริชมอนต์ฯ ซึ่งเรามองว่ามีแนวโน้มสูงที่ทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวนในค่ำคืนนี้จากการประกาศดังกล่าว อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยบวกเรายังคงให้น้ำหนัก ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องโดยที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 จุด และถือว่าลงไปทำจุดอ่อนค่าต่ำที่สุดในรอบประมาณ 4 เดือน ด้านนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เมื่อคืนมีมุมมองบวกต่อทองคำโดยซื้อสุทธิกว่า + 2.67 ตัน ส่งผลให้กองทุนมีสถานะการถือครองทองคำสุทธิที่ 835.29 ตัน ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ยังสะท้อนภาพบวกต่อตลาดทองคำ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงที่สุดในรอบ 1 เดือนขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลง: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรั บขึ้น 9.99 ดอลลาร์ สู่ 1,253.79 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความล้มเหลวในการผลักดันมาตรการปฏิรูประบบประกันสุขภาพในวันศุกร์ที่ผ่านมาและเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีความสามารถมากพอหรือไม่ในการดำเนินแผนลงทุนและแผนปรับลดภาษีตามที่เคยให้สัญญาไว้ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 7.20 ดอลลาร์ที่ 1,255.70 USD/toz - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ในวันจันทร์จากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความสามารถของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ 100-116/256 โดย มีอัตราผลตอบแทน 2.9769% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ 98-244/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.3693% - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือนเทียบตะกร้าเงินสกุลหลัก: ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงในวันจันทร์สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการคลังของสหรัฐฯ หลังประธานา ธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความล้มเหลวในการผ่านร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทั้ งนี้ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดสหรัฐฯ แต่ก็ยังคงลดลง 0.45% เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังร่วงต่ำถึง 98.858 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. - ราคาน้ำมันดิบร่วงลงขณะที่ตลาดไม่แน่ใจเรื่องการต่ออายุข้อตกลงมาตรการการปรับลดอุปทานน้ำมันดิบ: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงห น้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน จะต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปหลังสิ้นเดือน มิ.ย.หรือไม่ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.ร่วงลง 24 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 47.73 USD/bbl ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่ำคินนี้ติดตามประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายดัชนี โดยเฉพาะดุลการค้าและถ้อยแถลงสมาชิก FOMC(Kaplan) - ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 100 จุด - กระบวนการ BREXIT (29 มี.ค.) คำแนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 1,253 USD/toz [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 28 มีนาคม 2560

Spot 1,252.68(-1.11) THB 34.41(+0.05) EU/TH 37.3481(+0.0228) Gold Traders 20,350(-50) GFJ17 20,540(-60) SET50 1,000.4(+4.97) S50H17 998.1(+2.8)

วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 28 มีนาคม 2560

Spot 1,253.37(-0.42) THB 34.39(+0.03) EU/TH 37.3618(+0.0365) Gold Traders 20,350(-50) GFJ17 20,530(-70) S50H17 998(+2.7)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ขึ้นแรงลุ้นไปต่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,247.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.31 – 1,259.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเปิดบวกตั้งแต่เช้าวันจันทร์และปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 10 เหรียญ โดยราคาได้ทำจุดสูงสุดใกล้ 1,260 เหรียญ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาทดสอบบริเวณ 99 จุด โดยปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ร่างกฎหมายประกันสุขภาพของชาวอเมริกัน ไม่ผ่านการโหวตในเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงนโยบายต่างๆ ในอนาคตที่อาจจะมีการล่าช้า หรือไม่สามารถผ่านร่างได้เช่นกับนโยบายประกันสุขภาพ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภาคบ่ายนี้มีแรงขายออกมาทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป และแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมีเข้ามาต่อเนื่อง โดยในคืนนี้ติดตามหุ้นสหรัฐฯ ว่าจะมีแรงขายกดดันต่อหรือไม่ และลุ้นราคาทองคำไปทดสอบจุดสูงสุดถัดไปในคืนนี้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะปรับขึ้นค่าแรงในอัตราที่ช้ากว่าในปี 2016 ซึ่งสิ่งนี้สวนทางกับความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางการปรับเพิ่มค่าแรงและการบริโภค - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยบทสรุปความเห็นของสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. โดยบทสรุประบุว่า สมาชิกคณะกรรมการกล่าวว่า จะมีการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะว่าอัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับที่ห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2 % ของบีโอเจ - โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ขยายข้อตกลงลดการผลิตออกไป ถ้าหากการขยายตัวของอุปสงค์ไม่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง หรือการผลิตในลิเบีย/ไนจีเรียไม่ดีดตัวขึ้นอย่างมาก - สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้น 31.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆนับตั้งแต่ถ่านหินไปจนถึงสินแร่เหล็กพุ่งขึ้น และการนำเข้าที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น - ราคาทองในตลาดสปอตพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง หลังจากความล้มเหลวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการผ่านกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจต่อความสามารถของเขาในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง - ความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ คำแนะนำ : trading long ได้เปรียบหลังจากทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 27 มีนาคม 2560

Spot 1,257.56(+13.76) THB 34.38(-0.18) EU/TH 37.3756(+0.1113) Gold Traders 20,400(-50) GFJ17 20,600(+80) SET50 995.43(-2.82) S50H17 995.3(-1.2)

วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในคืนวันศุกร์ แต่ยังมีแนวโน้มที่ดีเนื่องจาก สามารถปิดบวกได้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และในเช้าเปิดตลาดนี้ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อลงไปทดสอบใกล้บริเวณ 99 จุด และความเสี่ยงเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากไม่ผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงความล่าช้าของนโยบายอื่นๆ ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทอง โดยราคาเช้านี่ปรับขึ้นกว่า 10 เหรียญ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 1.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.08% โดยปิดที่ 1,243.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,240.35 – 1,251.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,255 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในช่วงท้ายตลาดหลังจากเงินดอลลาร์เริ่มดีดกลับจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน แต่ว่าอย่างไรก็ตามเช้านี้ราคาทองได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง มากกว่า 10 เหรียญ และเงินดอลลาร์เปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวลดลงเข้าใกล้บริเวณ 99 จุด หลังจากร่างกฎหมายเรื่องประกันสุขภาพนั้น ไม่ผ่านการโหวตในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงความล่าช้าของนโยบายต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้มีแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง และมีเม็ดเงินไหลเข้าในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำได้ และสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ และความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์อย่างใกล้ชิด Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อในช่วงท้ายตลาด อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการร่วงลงจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด • ดอลลาร์ฟื้นตัวจากใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยนในวันศุกร์ และยุติการร่วงลง 8 วันติดต่อกันเมื่อเทียบกับเยน หลังพรรครีพับลิกันถอนร่างกฏหมายประกันสุขภาพออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐเนื่องจากขาดเสียงสนับสนุน • ปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโรจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมต่อการที่อังกฤษจะเริ่มกระบวนการถอนตัวอย่างเป็นทางการออกจากสหภาพยุโรปในสัปดาห์นี้ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับลง 1 ดอลลาร์ สู่ 1,243.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ แต่ปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง โดยดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจจะไม่มีความสามารถในการผลักดันร่างกฎหมายผ่านสภาคองเกรส Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ความคืบหน้าของนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ • ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) • Strategy : trading long ได้เปรียบหลังราคาทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ลุ้น Window Dressing หนุนระยะสั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนยังคงมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่ำกว่าระดับเกณฑ์ค่าเฉลี่ยที่ระดับ 40,000 ล้านบาท ขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่มีนัยสำคัญเพียงพอต่อการชี้นำตลาด เช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งนักลงทุนพิจารณาประเด็นจากฝั่งสหรัฐฯ เป็นหลัก อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกเรื่องกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาในกลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งในดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องสะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันซึ่งมีมุมมองบวกต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่และยังคงไม่มั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งในทางปฏิบัติมีอุปสรรคค่อนข้างมาก ทั้งในด้านการปรับโครงสร้างภาษีภายในประเทศ, นโยบายการคลัง และล่าสุดเรื่อง “อเมริกันเฮลแคร์” ซึ่งพึ่งถูกสภาคว่ำร่างไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ในส่วนของสัญญาซื้อขาย S50H17 ในวันศุกร์สัปดาห์ก่อนเปิดตลาดที่ 991.60 จุด ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกค่อนข้างชัดเจนก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 997.10 จุด และปิดตลาดที่ 996.50 จุด +5.6 จุด ภาพรวมนิ่งกว่า SET index ซึ่งเคลื่อนไหวระหว่างวันผันผวนและจำกัดในกรอบแคบมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดย SET index ปิดตลาดที่ 1,573.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเพียง 35,671.48 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อหลักในกลุ่มอุตสหกรรมหลักทั้งพลังงานเเละกลุ่มธนาคารเท่านั้น โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองบวกซื้อสุทธิ +1,566.47 ล้านบาท, สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ +1,188.28 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่ค่อนข้างส่วนทางขายสุทธิ -2,352.65 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าแม้ดัชนีจะเคลื่อนไหวในแดนบวกติดต่อกันแต่ก็ขอให้นักลงทุนพิจารณา Upside ของตลาดที่ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่โดดเด่นประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในในแดนลบซึ่งอาจส่งผลกระทอบต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศได้ อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยบวกก็ยังพอมีเรื่องการทำ Window Dressing แต่เราไม่ให้น้ำหนักในระยะกลาง-ยาว • Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 994 จุดฝั่ง Long น่าสนใจ, Upside จำกัด, ระวังแรงขายทำกำไร ปัจจัยที่ต้องติดตาม - การประชุม กนง. 29 มี.ค. - การทำ Window Dressing ภายในประเทศ ข่าวในประเทศ - บีโอไอหนุนรถยนต์ไฟฟ้า หวังกระตุ้นอุตสาหกรรม: “บีโอไอ” ไฟเขียวเห็นชอบเปิดให้ส่งเสริมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบห่วงโซ่อุปทาน พร้อมชูสิทธิยกเว้นภาษีนิติบุคคล หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมให้หวนคึกคัก - ไอพีโอระดมทุน'ดึงสภาพคล่อง'หด โบรกเกอร์หวั่นแย่งเม็ดเงินในตลาดหุ้น/หุ้นเข้าเทรดใกล้วันหยุดยาวรับความเสี่ยงสูง: หุ้นไอพีโอแห่เข้าตลาดไตรมาส 2 หลังภาวะตลาดเริ่มฟื้นตัว เมย์แบงก์-ไทยพาณิชย์ เร่งดันไอพีโอเข้าตลาดปีนี้มากกว่า 10 บริษัท นักวิเคราะห์มองเข้าระดมทุนช่วงสงกรานต์อาจมีปัญหาสภาพคล่อง - (BBLH17) ธนาคารกรุงเทพเปิดสาขาสวนกระแส: ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่าไม่มีแผนปิดสาขา ตรงกันข้ามยังเปิดสาขาเพิ่มอยู่เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการของลูกค้าในทำเลต่าง ๆ โดยในช่วง 2 เดือนแรกได้เปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง และในเดือน มี.ค. มีแผนเปิดเพิ่มอีก 4 แห่ง แบ่งเป็น ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล 2 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา ทำให้ในสิ้นเดือน มี.ค. ธนาคารกระงเทพจะมีสาขาทั้งสิ้น 1,164 แห่ง จาก 1,157 เมื่อสิ้นปี 2559 อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 27 มีนาคม 2560

Spot 1,256.77(+11.79) THB 34.47(-0.09) EU/TH 37.397(+0.1327) Gold Traders 20,400(+100) GFJ17 20,600(+80) S50H17 995.3(-1.2)

วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560

วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 22 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 22 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 100 จุด รวมทั้งแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มมีแรงซื้อกลับ เช่น ทองคำ และค่าเงินเยน รวมทั้งกองทุน SPDR ได้กลับเข้าซื้อทองในเมื่อคืนนี้กว่า 4.15 ตัน ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นทะลุจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,235 เหรียญได้ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.92% โดยปิดที่ 1,244.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,226.32 – 1,247.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,245 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเป็นวันที่ 5 หลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องและเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 100 จุด ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นจากการคลายความกังวลจากการโต้วาทีการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่คาดว่า นายเอ็มมานูเอล มาครงมีโอกาสจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือนางมารีน เลอ แปนซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป รวมทั้งแรงขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ปิดปรับตัวลดลงแรงในเมื่อคืนนี้ ช่วยหนุนให้ทองคำมีแรงซื้อต่อ โดย SPDR กลับเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 4.15 ตัน รวมถือครอง 834.40 ตัน และวันนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง และสต็อกน้ำมันดิบ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันอังคาร โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลงมาปิดตลาดที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2016เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับอุปทานน้ำมันใหม่ และความกังวลนี้บดบังข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังพิจารณาเรื่องการต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปหลังเดือนมิ.ย. • บริษัทโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน อาจจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอาจส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อปี และอาจส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปี 2018-2019 • ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยนในวันอังคาร ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับความล่าช้าในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ได้ฉุดตลาดหุ้นร่วงลง และกระตุ้นแรงซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย • ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากกว่า 1% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ • แนวโน้มการเลือกตั้งในฝรั่งเศสช่วยหนุนยูโรและถ่วงดอลลาร์ลง หลังการโต้วาทีบ่งชี้ว่า นายเอ็มมานูเอล มาครงจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือนางมารีน เลอ แปนซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) • Strategy : trading long กลับมาได้เปรียบหลังราคาปรับขึ้นเหนือ 1,235 เหรียญได้ [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ระวังแรงขายทำกำไร สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าที่ 986.20 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกสดใสตลอดวัน โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 993.70 จุด ก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 992.60 จุด ปรับเพิ่ม +6.8 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาประมาณ 7 จุด ถือว่ากว้างพอสมควร ในขณะที่ SET index ปิดตลาดที่ 1568.78 จุด ในแดนบวกเช่นกันแต่ภาพการเคลื่อนไหวนั้นมีกรอบที่แคบกว่า โดยเป็นแรงซื้อเข้าในกลุ่มพลังงานและธนาคารนำตลาด รวมมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันประมาณ 35,685.04 ล้านบาท ถือว่าน้อยกว่าเกณฑ์ติดต่อกันเป็นวันที่สองเเล้ว โดยเป็นเเรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +74.66 ล้านบาท เเละกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +1,532.58 ล้านบาท พร้อมทั้งมีสถานะซื้อสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 มากถึง +12,025 สัญญา สะท้อนมุมมองบวกของนักลงทุนต่างชาติที่มีเเนวโน้มที่จะเคลื่อนย้ายเงินทุนบางส่วนกลับเข้าประเทศไทยรวมทั้งกลุ่มประเทศเกิดใหม่ด้วย อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยเดิมๆ อย่างเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์และการเมืองฝั่งยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นหลัก เนื่องจากปัจจัยบวกภายในประเทศมีน้ำหนักค่อนข้างน้อย สำหรับการซื้อขายในวันนี้ให้ระวัง Downside Risk ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในลักษณะที่มีวอลลุ่มน้อยประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่องเคลื่อนไหวที่ระดับ 47.50 USD/bbl ซึ่งมีโอกาสกดดันกลุ่มพลังงานในประเทศประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อคืนประมาณ 1% จะเป็นปัจจัยลบต่ออารมณ์ตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปิดตลาดและการซื้อขายในภาคเช้า • Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 990 ฝั่ง Long ได้เปรียบ, ระวังแรงขายทำกำไรกดดัน ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ 23 มี.ค. - ติดตามถ้อยแถลงสมาชิก FOMC (Kaplan, Evans) 24 มี.ค. ข่าวในประเทศ - ตลาดทุนเริ่มห่วงเหตุการเมือง/หุ้นแกว่งตามกระแสเงินไหล : เลขาธิการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่า ค่าดัชนีเชื่อมั่นปรับตัวลดลงและอยู่ในภาวะทรงตัวจากเดิมอยู่ในระดับร้อนแรง และเป็นครั้งแรกในรอบปี ที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกังวลเรื่องปัจจัยทางการเมืองในไทย โดยภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังรอความชัดเจนจากการดำเนินการมาตรการภาษีของสหรัฐอาจส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศ การกีดกันทางการค้า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ความไม่แน่นอนทางการเมือง เป็นต้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดทุนในภูมิภาคมีความผันผวนตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย และเงินทุนไหลเข้าออกในภูมิภาค ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยมากสุดคือ เศรษฐกิจในประเทศ ปัจจัยลบคือความผันผวนของกระแสเงินทุนเข้าและออก - (BCPH17)‘BCP’เจาะตลาดเพื่อนบ้าน เล็งทุ่มงบ 3 พันล้านขยายปั๊ม : BCP เร่งขยายฐานต่างแดนเดินหน้าผุดปั๊มน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านปักหมุดลาว พม่า กัมพูชา “สมชัย เตชะวณิช” เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรศึกษาตลาดและข้อกฎหมาย คาดเดือนเมษายน 2560 ได้ข้อสรุปชัด ส่วนในไทยตั้งเป้าขยายปั๊ม 120 แห่ง คาดใช้งบลงทุนเกือบ 3 พันล้านบาท หวังผลักดันยอดขายปีนี้โตเพิ่ม 10% อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 22 มีนาคม 2560

Spot 1,244.7(-0.2) THB 34.74(+0.02) EU/TH 37.4841(-0.0413) Gold Traders 20,400(+250) GFJ17 20,580(+230) S50H17 987(-5.6)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) เริ่มเผชิญแรงขาย ราคาทองคำในภาคเช้าเคลื่อนไหวในแดนลบได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ, การปรับโครงสร้างภาษีและนโยบายทางการค้าที่มีผลกระทบต่อนโยบายการค้าเสรีของกลุ่ม G20 โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงจากระดับ 1,235 USD/toz ซึ่งเป็นจุดสูงที่สุดในรอบเกือบสามเดือนลงมาทำจุดต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,226 USD/toz ในช่วงเช้าตามเวลาไทยก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 3 ดอลลาร์ ภาพรวมยังคงมีปัจจัยบวกด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าโดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวบริเวณ 100 จุด ในขณะที่ปัจจัยลบที่เข้ามากดดันทิศทางของราคาทองคำยังคงเป็นมุมมองของกองทุน SPDR เมื่อคืนซึ่งมีสถานะขายสุทธิในทองคำประมาณ - 3.85 ตัน ส่งผลให้รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 830.25 ตัน ถือเป็นมุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักซึ่งการส่งสัญญาณลบต่อทองคำในระหว่างวัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Dudley) และบัญชีเดินสะพัดสหรัฐฯ ไตรมาส 4/59 ซึ่งมีเนวโน้มที่จะชี้นำตลาดทองคำได้อย่างมีนัยสำคัญในค่ำคืนนี้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - ราคาทองคำปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ขณะค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับขึ้น 4.75 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,233.15 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,235.50 USD/toz ในระหว่างวัน ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินรูดลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ในระหว่างวัน เนื่องจากการประชุมกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (G-20) ในช่วงสุด สัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทั้งนี้ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 3.80 ดอลลาร์ ที่ 1,23 4.00 USD/toz - ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ : ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.1% สู่ระดับ 100.40 จุด หลังร่วง 0.3% ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียและยุโรป - ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ หลังจากที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโกย้ำมุมมองของเฟดที่ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้มีความเป็นไปได้ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุนที่คาดไว้ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่านี้ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดบวก 13/32 ที่ 98-08/256 โดยมีผลตอบแทน 3.091% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดบวก 07/32 ที่ 98-01/32 โดยมีผลตอบแทน 2.475% - กังวลอุปทานน้ำมันสหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมันดิบปิดดิ่งลงกว่า 1.2% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันจันทร์ในขณะที่นักลงทุนกังวลกับปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และสต็อกน้ำมันในคลังที่ระดับสูงถึงแม้มีข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) สนับสนุนการต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปก็ตาม ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ดิ่งลง 56 เซนต์ หรือ 1.2 % มาปิดตลาดที่ 48.22 USD/bbl ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Dudley) - ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน 23 มี.ค. คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,230 USD/toz [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 21 มีนาคม 2560

Spot 1,231.87(-1.28) THB 34.67(+0.1) EU/TH 37.4513(+0.2476) Gold Traders 20,150 GFJ17 20,350(-30) SET50 993.96(+4.43) S50H17 982.8(+6.8)

วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 21 มีนาคม 2560

Spot 1,229.1(-4.05) THB 34.75(+0.1) EU/TH 37.373(+0.1693) Gold Traders 20,150(-50) GFJ17 20,370(-10) S50H17 986.2(+0.2)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่เริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ที่มีการขายทองคำออกมา 2 วันติด รวมทั้งประธานเฟดสาขาย่อยได้ยืนยันถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งอย่างแน่นอน ทำให้โดยรวมทองคำขาดปัจจัยใหม่ แกว่งตัวออกข้าง Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.39% โดยปิดที่ 1,233.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.76 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน โดยราคาได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอ่อนค่าในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่ทองคำเจอแรงขายจากกองทุน SPDR ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยขายออกมาในเมื่อวานนี้ 3.85 ตัน ทำให้ยอดถือรวมสุทธิ 830.25 ตัน และประธานเฟดสาขาชิคาโก้ได้ออกมากล่าวว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จะมีอีก 2 ครั้งตามที่คาดการณ์ ทำให้คาดว่าราคาทองคำแกว่งตัวออกข้างในวันนี้เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ และติดตามการปราศัยของประธานเฟดในวันพฤหัสฯ นี้ Exclusive News • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 14 แท่น สู่ 631 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค. โดยจำนวน 631 แท่นนี้ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2015 และถือเป็นการปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน • นักวิเคราะห์ของบริษัทเจ.พี. มอร์แกนปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลงสู่ 53.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 53.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงสู่ 55.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 55.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 • ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดไว้ • ผู้นำการเงินกลุ่มจี-20 แสดงความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าโลกของสหรัฐ และความวิตกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์ • ปอนด์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์จากข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค.นี้ โดยเริ่มการเจรจาต่อรองระยะเวลา 2 ปี Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) • ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบและระมัดระวังแรงขายทำกำไร [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ฟื้นตัวในภาพความผันผวน เมื่อวานนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวก (Positive Trading Gaps) แต่ราคากลับเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่ค่อยวิ่งไปไหน โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาเพียง 2-3 จุด เท่านั้น ก่อนที่จะมีแรงขายในช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาดค่อนข้างรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ กดดันให้สัญญาฯ ลงไปปิดตลาดลบ -3.6 จุด ที่ 986 จุด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่ยังไม่มั่นใจในการฟิ้นตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาวะที่ยังไร้ปัจจัยบวกและยังคงมีปัจจัยลบจากความผันผวนภายนอกรุมเร้าอย่างชัดเจน ในด้านของดัชนี SET index ก็เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันแต่ความผันผวนน้อยกว่า ปิดตลาดที่ 1,563.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางอย่างเพียง 35,790.37 ล้านบาทเท่านั้น โดยเป็นเเรงซื้อขายกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ +539.93 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +295.76 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศ +735.92 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปขายสุทธิ -1,571.61 ล้านบาท เหมือนวันก่อนหน้า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดยังคงเป็นกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าเงินทุนบางส่วนที่ไหลออกก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไหลกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศไทย สะท้อนจากแรงขายในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกดดันให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 100.15 จุด ในขณะที่ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นสวนทางอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 34.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ • Strategy : Wait & See, Upside ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศ, แกว่งตัวผันผวนในกรอบราคาที่กว้างขึ้น ปัจจัยที่ต้องติดตาม - สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์ ข่าวในประเทศ - กอช.เล็งลงทุนหุ้น SET50 พร้อมลดสัดส่วนเงินฝาก-พันธบัตรมาเป็นตราสารหนี้ หวังดันผลตอบแทนแตะ 3% : กอช.ปรับแผน จ่อลงทุนใน SET50 พร้อมตราสารหนี้ 3-5 ปี รับมือดอกเบี้ยขาขึ้น ดันผลตอบแทน ที่ 3% เลขาธิการ กอช. เปิดเผยว่าได้ปรับแผนการลงทุนปี 2560 โดยคาดว่าจะได้ผลตอบแทนการลงทุน ที่รวมดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารและการลงทุนในหุ้น และหุ้นกู้เอกชนอยู่ที่ระดับ 3% - ดัชนีหุ้นไทยยืนเหนือ 1,560 จุด มองเศรษฐกิจเด้ง5% : หุ้นไทยเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวัน แต่มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง โดยได้แรงหนุนจากเงินบาทแข็งค่า และนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,563.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,790.37 ล้านบาท แตะจุดสูงสุด 1,568.29 จุด และต่ำสุด 1,561.79 จุด - CPALL ผุดสาขาใหม่เร่งรายได้แรง : CPALL ฉายแววโชว์ฟอร์มครึ่งปีแรกสวย วงในเผยเติบโตสูงกว่าช่วงครึ่งปีหลังปี 2559 จากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัว บวกกับรับส่วนแบ่งรายได้จาก MAKRO ผลักดันผลงานครึ่งปีแรกแจ่ม ฟากโบรกมองบวกชี้ได้แรงหนุนจากการเร่งขยายสาขา คาดแตะระดับ 1 หมื่นสาขาในช่วงกลางปีนี้ หนุนรายได้-กำไรเร่งตัวแรง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ลุ้นไปต่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,229.04 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.90 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาเปิดตลาดในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่อง หลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง และทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์ รวมทั้งการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศสที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า มีผลสำรวจคะแนนเสียงออกมาว่าพรรคผู้ต่อต้านอียูได้รับคะแนนเสียงนำอีกพรรคหนึ่ง ทำให้ราคาทองเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีได้ต่อ รวมทั้งทางฝั่ง SPDR ก็ไม่ได้แสดงทีท่าที่ชัดเจนหลังจากมีการซื้อขายสลับกันในสัปดาห์ก่อน โดยรวมยังเป็นการซื้อสุทธิที่ 2.07 ตัน ทำให้ทองรวม 834.10 ตัน และในวันพรุ่งนี้ตอนเช้าให้ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งถ้าหากมีการปรับโครงสร้างภาษี และลดลงกว่าที่นักลงทุนคาดอาจจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้ฟื้นกลับและกดดันราคาทองได้ แต่ถ้าไม่มีมาตรการเพิ่มเติมราคาทองก็มีแนวโน้มที่ดีต่อได้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - หนังสือพิมพ์ซีเคียวริตีส์ ไทมส์ของทางการจีนรายงานในวันนี้ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ประกาศใช้ข้อจำกัดใหม่ต่อสถาบันการเงินที่ต้องการจ้างผู้จัดการกองทุนจากภายนอกสถาบันให้มาทำงานจัดการกองทุน ในขณะที่รัฐบาลจีนคุมเข้มการทำธุรกิจธนาคารเงา - นำทางการเงินของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) ได้ยกเลิกคำสัญญาเดิมที่ว่า จี-20 จะทำให้การค้าโลกเสรีและเปิดกว้างต่อไป โดยกลุ่มจี-20 ได้ยอมทำตามความต้องการของรัฐบาลสหรัฐที่ดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้ามากยิ่งขึ้น หลังจากการประชุมในวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมาไม่สามารถทำให้กลุ่มจี-20 ประนีประนอมกันได้ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าววานนี้ว่า สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นน่าจะบรรลุข้อตกลงด้านเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ และได้ย้ำถึงความสำคัญของการค้าเสรีต่อญี่ปุ่น - นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมวิจัยพัฒนาชุมชนระบบธนาคารกลางสหรัฐในหัวข้อ "พื้นฐานที่แข็งแกร่ง: อนาคตทางเศรษฐกิจของเด็กๆและชุมชนต่างๆ" ในเวลา 19.45 น.ตามเวลาไทยในวันพฤหัสบดีที่ 23 มี.ค.นี้ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ - ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน คำแนะนำ : trading long หากราคายืนเหนือ 1,233 เหรียญได้ [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 20 มีนาคม 2560

Spot 1,232.26(+3.86) THB 34.71(-0.12) EU/TH 37.3341(-0.0591) Gold Traders 20,200 GFJ17 20,380(-30) SET50 989.53(+1.09) S50H17 985.3(-3.6)

วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยในคืนวันศุกร์ และเป็นการปิดบวกครั้งแรกในรอบกว่า 3 สัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ไม่ได้มีท่าทีในการรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคงประมาณการณ์ไว้ที่ 3 ครั้งในปีนี้ ทำให้เกิดแรงขายในค่าเงินดอลลาร์ และแรงซื้อกลับในทองคำ สัปดาห์นี้ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ และการปราศัยของประธานเฟด Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.16% โดยปิดที่ 1,228.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,224.31 – 1,231.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดบวกในคืนวันศุกร์ และราคาทองปิดบวกเป็นสัปดาห์แรกในรอบสามสัปดาห์ หลังจากราคาทองปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องจากความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ ในสัปดาห์ก่อน โดยกล่าวว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคงประมาณการณ์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อยู่ที่ 3 ครั้ง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. เร็วกว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นในช่วงกลางปี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ และหนุนให้ราคาทองดีดกลับได้ และสัปดาห์นี้ ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ และการปราศัยของประธานเฟดในช่วงปลายสัปดาห์ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ทรงตัวในวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการขยับขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี นักเก็งกำไรปรับลดสถานะซื้อลงเป็นอย่างมากในระหว่างสัปดาห์ เนื่องจากนักเก็งกำไรกังวลว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถบรรเทาภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลกลงได้ • ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในวันศุกร์ แต่ยังคงเผชิญแรงกดดันเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ถึงอัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป • ยูโรร่วงลง 0.2% สู่ 1.0740 ดอลลาร์ หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่านางมารีน เลอ แปน ผู้ต่อต้านอียูจะมีคะแนนนำนายเอ็มมานูเอล มาครงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับขึ้น 2 ดอลลาร์ สู่ 1,228.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ในขณะที่แถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้ดอลลาร์เคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ และปัจจัยนี้ส่งผลบวกต่อราคาทอง Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) • ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบ 1,224 – 1,233 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: เคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้น สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาครวมไปถึงฝั่งยุโรปเคลื่อนไหวเเละปิดตลาดในเเดนบวก/ลบ สลับกันไปไม่ชัดเจน ในส่วนของดัชนีตลาดหุ้นไทยเป็นภาพการเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ มีลักษณะการแกว่งตัวที่กว้างมากขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าโดยได้รับผลกระทบทั้งจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับลดลงจากอุปทานที่ล้นตลาดและการเมืองโลกทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชียเอง รวมทั้งประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมาบริเวณ 986.60 จุด ราคาเปิดค่อนข้างต่อเนื่องจากราคาปิดวันก่อนหน้า แกว่งตัวในกรอบราคาประมาณ 3 จุด ก่อนมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาดขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 989.40 จุด และปิดตลาดที่ 988.90 จุด การเคลื่อนไหวมีความผันผวนน้อยกว่า SET index ซึ่งภาพการเคลื่อนไหวผันผวนกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยภาคเช้ามีแรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในภาคบ่ายและปิดตลาดที่ 1,560.98 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันในเกณฑ์ปกติไม่มากไม่น้อยที่ 46,970.27 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มสถาบันภายในประเทศ (+409.18 ล้านบาท), บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (+252.19 ล้านบาท) เเละ นักลงทุนต่างประเทศ (+1,566.95 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยขายสุทธิ -2,228.32 ล้านบาท รวมมีสถานะขายสุทธิตั้งเเต่ต้นเดือนที่ผ่านมากว่า -7,363.19 ล้านบาทเเล้ว สำหรับการซื้อขายในวันนี้ (และสัปดาห์นี้) ฝ่ายวิจัยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงต่างๆ ทั้งจากสมาชิก FOMC, MPC และ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในส่วนของปัจจัยลบเรายังคงมองราคาน้ำมันดิบที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในเเนวโน้มขาลงกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศอยู่ แต่ในส่วนปัจจัยบวกก็ยังพอมีให้ได้ลุ้น ได้แก่ กระแสเงินทุนที่ไหลออกอาจกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งประเทศไทยด้วย โดยเราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่กว้างขึ้นและยังอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกในขณะที่ปัจจัยภายในยังไม่ชัดเจน • Strategy : ฝั่ง Long Position ยังคงได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 986 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตาม - สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์ ข่าวในประเทศ - เปิด 10 เทรนด์พลิกไทยสู่ ‘ดิจิทัล’ ดึง‘ไอที-บล็อกเชน’ เสริมแกร่ง : สรอ. เผย 10 เทรนด์เด่นดันรัฐบาลดิจิทัล หนุนไทยก้าวสู่สังคมยุคใหม่ ผนึกหน่วยงานรัฐเอกชน ดึงเทคโนโลยี “บล๊อกเชน-อีเพย์เมนท์” เสริมแกร่ง พร้อมดันแอพพลิเคชั่นภาครัฐเสิร์ฟบริการประชาชน - คปภ.เชื่อธุรกิจประกันปีนี้โต 6.01% : คปภ. มั่นใจธุรกิจประกันชีวิต-วินาศภัยปีนี้โต 6.01% ดันเบี้ยแตะ 8.24 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 7.77 แสนล้านบาท เดินหน้าประกันยุคดิจิทัล ล่าสุดคลอดประกันพีเอ ช่วงสงกรานต์ใหม่ ประกันภัย 222 คุ้มสูงสุดถึงแสนและค่ารักษาพยาบาล 5 พันบาท - (PTTH17) PTT เคาะปันผล10บาท PTTGC ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ : PTT บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2559 ที่ 10 บาทต่อหุ้น หลังโค้งแรกจ่ายแล้ว 6 บาทต่อหุ้น ด้าน PTTGC เตรียมเสนอบอร์ดลุยลงทุน 2 โครงการใหญ่ มูลค่า 80,000-100,000 ล้านบาท เพื่อผลิตวัตถุดิบพิเศษรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์-ไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ในโซนโครงการ EEC อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 20 มีนาคม 2560

Spot 1,234.54(+6.14) THB 34.68(-0.15) EU/TH 37.3299(-0.0633) Gold Traders 20,200 GFJ17 NA S50H17 980.8(-8.1)

วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) แกว่งในกรอบบน ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,226.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,224.36 – 1,228.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ ในเมื่อคืนนี้ หลังจากค่าเงินดอลลาร์มีเจอแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง และต่ำกว่า 100 จุดในช่วงบ่ายวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามแรงซื้อทองคำก็เริ่มชะลอลงหลังจากปรับตัวขึ้นแรงทำให้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเช่นกัน โดยจะเห็นได้ว่ากองทุน SPDR เริ่มมีการขายทองออกมาอีกครั้งในเมื่อคืนนี้ รวมทั้งแรงซื้อที่เริ่มลดลงหลังจากการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์เสร็จสิ้นและเป็นไปตามคาดการณ์ ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า ราคาทองจะแกว่งตัวในกรอบด้านบน ในคืนนี้ เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยในคืนนี้ติดตามตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นหลัก หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - นายอีวาลด์ โนวอทนี ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า อีซีบีจะตัดสินใจในภายหลังว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงก่อนหรือหลังจากที่อีซีบียุติมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) - นางคริสติน ฟอร์บส์ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ลงคะแนนเสียงให้ BOE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 0.25% สู่ 0.50% ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) อีก 8 คนใน BOE ลงคะแนนเสียงให้ BOE ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่สถิติต่ำสุดที่ 0.25% ต่อไป อย่างไรก็ดี สมาชิก MPC บางคนระบุว่า ไม่ใช่เรื่องยากในการที่พวกเขาจะลงคะแนนเสียงแบบเดียวกับนางฟอร์บส์ในอนาคต - นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันพฤหัสบดีว่า อาจจะมีการต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกไป ถ้าหากสต็อกน้ำมันในคลังยังคงอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย - บริษัทเอ็นทีเอ็น คอร์ป (NTN) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของญี่ปุ่นแถลงในวันนี้ว่า บริษัทเอ็นทีเค พรีซิชัน แอกเซิล ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของ NTN จะสร้างโรงงานในรัฐอินเดียนาของสหรัฐเพื่อปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพลาขับ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้เรียกร้องให้บริษัทรถยนต์ซึ่งรวมถึงบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปของญี่ปุ่น มาสร้างโรงงานในสหรัฐและจ้างคนงานในสหรัฐ - INSEE ซึ่งเป็นสำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศสระบุในวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2 ของปีนี้ และจะเติบโตในอัตราที่สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนในวงกว้าง หลังจากเติบโตต่ำกว่ายูโรโซนมาเป็นเวลานาน 3 ปี ประเด็นที่ต้องติดตาม: - การประชุมกลุ่มผู้นำ G20 - ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ คำแนะนำ : trading ในกรอบบน และ follow เมื่อ breakout [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 17 มีนาคม 2560

Spot 1,229.24(+2.84) THB 34.84(-0.07) EU/TH 37.5331(-0.044) Gold Traders 20,200(-50) GFJ17 20,410(-10) SET50 988.44(+1.74) S50H17 988.5(+1.9)

วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในเมื่อวานนี้ และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ หลังจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองคำจะเริ่มแกว่งในกรอบที่แคบลง หลังจากราคาทองคำได้รับข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปหมดแล้ว และเริ่มมีแรงขายของกองทุน SPDR ในเมื่อคืนนี้ รวมทั้งการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ฝ่ายต่อต้านอิสลามแพ้การเลือกตั้งทำให้แรงซื้อทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.64% โดยปิดที่ 1,226.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,217.45 – 1,233.13 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,225 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในเมื่อวานนี้โดยราคาทองคำได้ทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่บริเวณ 1,233 เหรียญ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ และในวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มแกว่งในกรอบที่แคบลงหลังจากรับรู้ข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเริ่มมีแรงขายออกมาจากกองทุน SPDR ที่ขายออกมา 2.37 ตัน รวมถือครองทองคำ 837.06 ตัน รวมทั้งผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ที่ฝ่ายต่อต้านอิสลามแพ้การเลือกตั้งส่งผลให้แรงซื้อทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงเช่นกัน และในวันนี้ติดตามตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ โดย ม.มิชิแกน Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันพฤหัสบดี ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงอยู่ใกล้สถิติสูงสุด และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจจะไม่สามารถบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาดโลก โดยความกังวลดังกล่าวบดบังแรงหนุนที่ราคาน้ำมันได้รับจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ • ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้ากสุลเงินในวันพฤหัสบดี หลังแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเร่งอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดลงมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ช่วง 0.75-1.00% และคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่บรรดานักลงทุนคาดไว้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ • ปอนด์ปรับตัวขึ้น หลังธนาคารกลางอังกฤษลงมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ขณะที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการระบุถึงโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปอนด์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1.2373 ดอลลาร์ • เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในรอบ 3 เดือนในวันพุธที่ผ่านมา แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเร่งความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้นักลงทุนบางรายเคยคาดการณ์ก่อนหน้านั้นว่า เฟดอาจจะเร่งความเร็ว Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การประชุม G20 • Strategy : trading ในกรอบ 1,218 – 1,233 เหรียญ โดยฝั่ง long ยังน่าสนใจเมื่อราคาย่อตัว [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มธนาคาร สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกอย่างชัดเจนโดยเปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาประมาณ +4 จุดที่ 982 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาดันสัญญาขึ้นไปทำจุดสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 987.20 จุด และปิดตลาดในแดนบวกที่ 986.60 จุด ลักษณะการเคลื่อนไหวเหมือนกับ SET index ซึ่งปิดตลาด 1,557.05 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันหนาเเน่นพอสมควรที่ 56,117.78 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อหลักจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า +5,568.85 ล้านบาท ซึ่งมีมุมมองต่างจากนักลงทุนกลุ่มอื่นโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศที่ขายสุทธิ -3,640.94 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศที่ขายสุทธิ -1,324.92 ล้านบาท (รวมมีสถานะขายสุทธิตลอดเดือนกว่า -16,124.63 ล้านบาท) โดยเป็นแรงซื้อเข้าในกลุ่มธนาคารเป็นหลักจากปัจจัยบวกด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เราคาดว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนประกอบกับเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์อาจส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายระหว่างวันเบาบางจำกัด Upside ของดัชนีได้ อีกทั้งดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงขาดปัจจัยบวกสำคัญภายในประเทศที่จะชี้นำทิศทางการเคลื่อนไหวได้อย่างมีนัยสำคัญ • Strategy : ฝั่ง Long ได้เปรียบในวันหากราคายังเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 985 จุด, ระวังแรงขายทำกำไร ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าที่ 34.97 บาท/USD - ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องเคลื่อนไหวที่ระดับ 100.23 จุด ข่าวในประเทศ - ดัชนีตลาดหุ้นโลกทะยานรับเฟดไม่เร่งดอกเบี้ย : เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ไปอยู่ที่ 0.75-1% ตามความคาดหมายระหว่างการประชุมรอบล่าสุด ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งผ่านอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงาน แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่เหลือในปีนี้ให้มากขึ้นตามที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้ตลาดทุนทั่วโลกตอบรับในแดนบวกจนทุบสถิติใหม่ - กลต.อาเซียนออกเกณฑ์คุมกรีนบอนด์ : รายงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน (ACMF) เห็นชอบโครงการสำคัญตามแผนปฏิบัติการ 5 ปี (2559-2563) มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน เชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียนในแข็งแกร่งและเตรียมออกเกณฑ์อาเซียนกรีนบอนด์ใช้ร่วมกันทั่วภูมิภาค - (PTTH17) PTT ลุ้นปันผลครึ่งหลัง : PTT จับตาไตรมาสแรกปี 2560 กลับมาฟื้นตัวโดดเด่น เหตุไม่มีการตั้งสำรองกำไรหลักได้แรงหนุนจากอัตรากำไรของธุรกิจโรงแยกก๊าซที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนก๊าซที่ทรงตัวต่ำ หนุนทั้งปีเติบโตต่อเนื่อง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 17 มีนาคม 2560

Spot 1,227.02(+0.62) THB 34.96(+0.05) EU/TH 37.6592(+0.0821) Gold Traders 20,250 GFJ17 20,440(+20) S50H17 986.6

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาดการณ์ สำหรับการเคลื่อนไหวของทองคำในภาคเช้ายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อจากเมื่อคืนนี้ โดยเปิดตลาดบริเวณ 1,224.51 USD/toz ก่อนเคลื่อนไหวในแดนบวกและขึ้นไปทำจุดสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,228.82 USD/toz โดยที่การเคลื่อนไหวตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าตลาดทองคำและตลาดทุนอื่นๆ รับรู้ข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ไปพอสมควรแล้วโดยค่ำคืนที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติอย่างเป็นทางการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย +0.25%(25 Bps) สู่ระดับ 0.75-1.00% (และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้รวมเป็น 3 ครั้งตลอดปี 2560) เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นสะท้อนผ่านอัตราการจ้างงานและดัชนีเศรษฐกิจอื่นๆ รวมทั้งเพื่อให้สอดรับกับอัตราเงินเฟ้อที่คาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรในค่าเงินดอลลาร์กดดันให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์(Dollar Index) ปรับตัวเคลื่อนไหวลดลงที่บริเวณ 100.55 จุด ด้านมุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำสุทธิเมื่อคืนนี้ที่ +4.44 ตัน รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิ 839.43 ตัน เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดทองคำในระยะสั้น อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยบวกจากการเมืองฝั่งยุโรป(การเลือกตั้งของประเทศเนเธอร์แลนด์) และฝั่งเอเชีย(การถูกถอดถอนจากตำแหน่งของประธานาธิบดีเกาหลีใต้) ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้เราคาดว่าจะเข้ามาเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งในช่วงสั้นๆ สำหรับการเปิดสภานะในค่ำคืนนี้ให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวังเนื่องจากอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นอีกครั้งและทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวแกว่งตัวออกข้างในกรอบ รวมทั้งติดตามดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการประกาศหลายดัชนีในค่ำคืนนี้ได้แก่ จำนวนใบอนุญาตสร้างอาคารใหม่, ดัชนีการสำรวจภาคการผลิตของฟิลาเดเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดก่อสร้างบ้านใหม่และจำนวนตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตร หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาดการณ์ : เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือน โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ, การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นที่ว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของเฟด ทั้งนี้เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ซึ่งนับเป็นมา ตรการหนึ่งในความพยายามของเฟดที่จะปรับนโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น - บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ร่วงหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลงในวันพุธหลังจากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนตามคาดแต่ไม่ได้ระบุถึงแผนใดๆ ที่จะเร่งอัตราการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ 97-200/256 โดยมีผลตอบแทนที่ 3.1145% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 97-204/256 โดยมีผลตอบแทน 2.5021% - ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป : ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ ในวันพุธหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณการคุมเข้มนโยบายการเงินในอัตรา ที่ค่อยเป็นค่อยไปใน ปีนี้มากกว่าที่นักลงทุนจำนวนมากในตลาดคาดไว้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 1.1% สู่ระดับ 100.56 จุด หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ส่วน ยูโรพุ่งขึ้นสู่ 1.0740 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงสู่ 0.9980 ฟรังก์สวิส - ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังสต็อกน้ำมันดิบปรับลดลง : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้ า NYMEX พุ่งขึ้นเป็นครั้ง แรกในรอบ 8 วันในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างพลิกความคาดหมายและจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IE A) ที่ระบุว่ามาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่ม โอเ ปกอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันดิบในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4 % มาปิดตลาดที่ 48.86 USD/bbl - ราคาทองคำปรับพุ่งขึ้นหลังเฟดไม่ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 20.32 ดอลลาร์ หรือ 1.70 % สู่ 1,218.65 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธหลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1,219.36 USD/toz ในระหว่างวัน ในขณะที่ เฟดระบุว่าเฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25 % เป็นครั้งที่สองในรอบ 3 เดือน ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนนี้โดยเฉพาะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, จำนวนตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตร - ติดตามผลการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์อย่างเป็นทางการ คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบ, ทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้าง, ระวังแรงขายทำกำไร [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 16 มีนาคม 2560

Spot 1,224.33(+5.68) THB 35.03(-0.03) EU/TH 37.5066(-0.1198) Gold Traders 20,250(+250) GFJ17 20,420(+230) SET50 986.7(+10.99) S50H17 986.7(+9.3)

วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยราคาดีดกลับแรงในช่วงท้ายตลาด หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ แต่ไม่ได้ให้สัญญาณในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งยังคงประมาณการณ์ไว้ 3 ครั้งในปีนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีแรงซื้อกลับในตลาดหุ้นและทองคำ และค่าเงินดอลลาร์มีการอ่อนค่า รวมทั้ง SPDR มีการซื้อทองคำติดต่อกัน 3 วันทำการ ทำให้ทองคำเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นอีกครั้ง Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.32 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.70 โดยปิดที่ 1,218.65 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,197.18 – 1,221.91 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,224 เหรียญ ราคาทองคำดีดกลับแรงในช่วงท้ายตลาดหลังจากเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ แต่ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณการปรับเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยยังให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ประมาณ 3 ครั้งเท่าเดิม ทำให้ราคาทองมีแรงซื้อกลับหลังจากนักลงทุนส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้อยู่แล้ว และประธานเฟดได้กล่าวอีกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตได้ดี แต่ไม่ได้มีทีท่าในการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นและทองคำ โดยจะเห็นได้ว่ากองทุน SPDR ซื้อทองติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยเมื่อคืนนี้ซื้ออีก 4.44 ตัน รวมถือครอง 839.43 ตัน ทำให้ทองคำเริ่มกลับมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และในวันนี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นและอังกฤษ ทางฝั่งสหรัฐฯ ติดตามตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยเป็นหลัก Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วันในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงอย่างพลิกความคาดหมาย และจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) อาจจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันดิบในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 • ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญในวันพุธ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณการคุมเข้มนโยบายการเงินในอัตราที่ค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้มากกว่าที่นักลงทุนจำนวนมากในตลาดคาดไว้ • ยูโรและฟรังก์สวิสปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังผลสำรวจexit poll ในการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์บ่งชี้ว่า พรรค VVD ของนายมาร์ค รูทท์นายกรัฐมนตรีชนะที่นั่งส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งรัฐสภา ส่วนพรรคParty for Freedom ที่ต่อต้านอิสลามของนายเกิร์ท ไวล์เดอร์สชนะเพียง 19 ที่นั่งจาก 150 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร • เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น และเจ้าหน้าที่เฟดยังคงคาดการณ์ตามเดิมว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2018 Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษ • Strategy : หาจังหวะเปิด long เมื่อราคาย่อตัว [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ยังคงเคลื่อนไหวผันผวนเช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งปิดตลาดในแดนบวกสลับลบเช่นกัน ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเคลื่อนไหวเเละปิดตลาดในเดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยเมื่อวานนี้ตลาดยังคงกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาซึ่งได้ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย +0.25% เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ตลาดสหรัฐฯ ทั้งสามตลาดตอบรับในเชิงบวกปรับขึ้นราว 0.5-0.8 % ในส่วนของปัจจัยภายในภูมิภาคคงหนีไม่พ้นกรณีประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งซึ่งเรามองว่าผลกระทบจำกัดแค่ภายในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้นจึงไม่ให้น้ำหนักมากเท่าใด สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดบริเวณ 975.60 จุด เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นระหว่างวันก่อนมีแรงซื้อช่วงท้ายตลาดและปิดตลาดที่ 977.40 จุด ภาพการเคลื่อนไหวค่อนข้างแตกต่างกับ SET index ซึ่งปิดตลาดไม่คึกคักบริเวณ 1,540.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันในเกณฑ์ปกติที่ 46,887.65 ล้านบาท โดยเป็นเเรงขายสุทธิจากนักลงทุนทั่วไปในประเทศ (-275.13ล้านบาท), บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (-70.70 ล้านบาท) เเละนักลงทุนต่างประเทศ (-2,465.79 ล้านบาท) โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดยังคงเป็น 3 กลุ่มหลักในตลาดได้แก่กลุ่มพลังงาน, สื่อสารและค้าปลีกสลับกันไป โดยเรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังพอมี Upside อยู่บ้างจากกลุ่มธนาคารประกอบกับ P/E ตลาด ณ ปัจจุบันค่อนข้างเหมาะสมประมาณ 16 เท่า แต่อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้ติดตามราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิดเนื่องจากยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จำกัดกรอบ Upside กลุ่มพลังงานภายในประเทศแม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะรายงานเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบแต่เรามองว่าภาพรวมอุปทานน้ำมันยังคงล้นตลาดอยู่พอสมควร • Strategy : เปิดสถานะในกรอบความผันผวนระหว่างวัน ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าสวนทางดอลลาร์ที่ 35.06 บาท/USD ข่าวในประเทศ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จูงมือบริษัทจดทะเบียนไทยชูศักยภาพต่างแดน : ตลท.พา 9 บริษัทจดทะเบียน ประเดิมโรดโชว์แรกปี 2560 พบผู้ลงทุนสถาบันฮ่องกง พร้อมรุกตลาดใหม่ เตรียมอวดความแข็งแกร่ง บจ.ไทยที่เกาหลีปลายเดือน มี.ค.นี้ เผยมีแผนจัดโรดโชว์ต่างประเทศอีก 3 ครั้ง ที่ อังกฤษ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ - เชื่อเฟดเร่งเครื่องขึ้นดอกเบี้ย : นักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายสำนักคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เร็วขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม 3 ครั้ง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้แกร่งขึ้น อัตราการจ้างงานขยายตัวดีและมีแนวโน้มจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% เร็วกว่าที่คาดไว้ - (KBANKH17)แบงก์กสิกรรุก สปป.ลาว ตั้งเป้า 3.1 พันล้าน : ธนาคารกสิกรไทยเปิดสำนักงานใหญ่ใน สปป.ลาว รองรับการเศรษฐกิจขยายตัวสูง หวังเชื่อมธุรกิจจากภูมิภาคอาเซียนตอบโจทย์การค้าการลงทุนจากนักลงทุนไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งเป้ายอดสินเชื่อและเงินฝากกว่า 3,100 ล้านบาท อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 16 มีนาคม 2560

Spot 1,224.86(+6.21) THB 35.08(+0.02) EU/TH 37.6555(+0.0291) Gold Traders 20,250(+250) GFJ17 20,450(+260) S50H17 982(+4.6)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 15 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 15 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ติดตามการประชุมเฟด ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,198.36 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,197.61 – 1,205.25 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งตัวในแดนบวกส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ โดยคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญได้แก่ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดค้าปลีก และที่สำคัญที่สุดคือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่นักลงทุนได้คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในคืนนี้ โดยจากตัวเลขของสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าให้น้ำหนักมากกว่า 90% ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามคาดการณ์ ทำให้ประเด็นที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ถ้อยแถลงของประธานเฟด ว่าจะมีการปรับมุมมองต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มากกว่า 3 ครั้งหรือไม่ ถ้าหากมากกว่า 3 ครั้ง ราคาทองอาจจะโดนกดดันต่อได้ แต่ถ้าไม่ได้มีการปรับเพิ่มประมาณการณ์ราคาทองอาจจะเริ่มฟื้นตัวได้ เนื่องจากกองทุน SPDR เริ่มทยอยซื้อทอง 2 วันทำการ รวมทั้งปัจจัยความเสี่ยงของการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. 2016 เป็นต้นมา ตลาดโลกก็มีความผันผวนอยู่ในระดับต่ำมากจนน่าประหลาดใจ ถึงแม้นักวิเคราะห์เคยกล่าวเตือนว่า ชัยชนะของนายทรัมป์อาจจะก่อให้เกิดความไม่แน่นอนและภาวะปั่นป่วนวุ่นวายก็ตาม คำอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับภาวะผันผวนต่ำนี้ก็คือว่า เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างสม่ำเสมอและคาดการณ์ล่วงหน้าได้ง่ายที่สุดในรอบหลายสิบปีในช่วงนี้ หลังจากเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวออกจากวิกฤติการเงิน และการเติบโตอย่างสม่ำเสมอนี้ก็บดบังปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองในระยะสั้น ซึ่งรวมถึงความเปลี่ยนแปลงในทำเนียบขาว - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องเมื่อวานนี้ให้กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) ทำงานร่วมกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการค้า และหลีกเลี่ยงมาตรการกีดกันทางการค้า รวมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มจี-20 ปรับลดภาวะไม่สมดุลกับต่างประเทศ และยุตินโยบายที่ทำให้การค้าโลกบิดเบือน - เนเธอร์แลนด์จัดการเลือกตั้งในวันนี้ โดยจะเริ่มเปิดให้ลงคะแนนโหวต ณ เวลา 13.30 น.ตามเวลาไทย และจะปิดการโหวตในเวลา 03.00 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย โดยหลายคนมองว่า การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบกระแสต่อต้านผู้อพยพและกระแสชาตินิยม ในขณะที่ความขัดแย้งระหว่างเนเธอร์แลนด์กับตุรกีในช่วงนี้ทำให้กระแสดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนนี้ - การประชุมของเฟดเรื่องอัตราดอกเบี้ยในคืนนี้ - การเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ คำแนะนำ : ฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ แต่ให้ติดตามการแถลงการณ์ของเฟดอย่างใกล้ชิด [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เย็น) ราคาปิด Futures วันที่ 15 มีนาคม 2560

Spot 1,202.79(+4.46) THB 35.22(-0.08) EU/TH 37.3894(-0.0357) Gold Traders 20,100(-50) GFJ17 20,190(-50) SET50 975.71(-1.54) S50H17 977.4(+0.9)

วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 15 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 15 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากมีแรงขายในช่วงท้ายตลาด โดยเมื่อคืนนี้มีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ และเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบกว่า 5 ปี และนักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในคืนนี้ แต่ราคาทองมีแรงซื้อสนับสนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของทางฝั่งยุโรป และแรงซื้อจากกองทุน SPDR ทำให้วันนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าราคาทองมีโอกาสผันผวนแรง Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 5.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.43% โดยปิดที่ 1,198.33 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,196.79 – 1,207.63 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,200 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง โดยมีแรงขายออกมาในช่วงท้ายตลาดเมื่อวานนี้ โดยในเมื่อคืนนี้มีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์และดีสุดในรอบกว่า 5 ปี ซึ่งช่วยหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในคืนนี้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ ก็อาจจะเป็นปัจจัยหนุนในการเข้าซื้อทองในสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกองทุน SPDR เริ่มมีการกลับเข้าซื้อทองคำอีก 2.96 ตัน รวมถือครอง 834.99 ตัน ทำให้คืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด และการประชุมของเฟดว่าจะออกมาแสดงท่าทีอย่างไร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนแรงได้ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันอังคาร หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น และซาอุดิอาระเบียปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันโดยซาอุดิอาระเบียแจ้งโอเปกว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้นสู่ 10.011 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ. แต่แหล่งข่าวกล่าวว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียลดลงสู่ 9.797 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ. • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคารโดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ และได้แรงหนุนจากความเสี่ยงทางการเมืองในยุโรปขณะที่จะมีการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ • ปอนด์ร่วงลง 0.5% สู่ระดับ 1.2158 ดอลลาร์ หลังร่วงต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สก็อตแลนด์จะจัดการลงประชามติเรื่องการแยกตัวเป็นอิสระเป็นครั้งที่ 2 และการใช้มาตรา 50 ซึ่งจะเริ่มการเจรจาต่อรองอย่างเป็นทางการเพื่อให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป • เนเธอร์แลนด์จะจัดการเลือกตั้งในวันพุธนี้ ทั้งนี้ พรรคปาร์ตี ฟอร์ ฟรีดอมที่มีนโยบายต่อต้านอิสลามไม่มีแนวโน้มว่าจะชนะการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ แต่ถ้าหากพรรคนี้ได้คะแนนโหวตสูง นักลงทุนก็จะกังวลกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในเดือนเม.ย.และพ.ค. Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ • Strategy : ฝั่ง short ยังคงได้เปรียบ แต่ให้ระมัดระวังความผันผวน และแรงซื้อกลับหลังจากเฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ยตามคาดการณ์ [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดบริเวณ 975.50 จุด มีแรงซื้อเข้ามาในภาคเช้า เคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 979.20 จุด ก่อนจะปิดตลาดในแดนบวกที่ 976.50 จุด ด้าน SET index ก็เคลื่อนไหวและปิดตลาดในแดนบวกเช่นเดียวกันที่ 1,543.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เริ่มกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ 49,875.34 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ +1,679.44 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +239.56 ล้านบาท เเละนักลงทุนรายย่อยทั่วไปในประเทศ +62.65 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศมีมุมมองสวนทางขายสุทธิ -1,981.65 ล้านบาท (และมีสถานะขายสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 -408 สัญญา) ซึ่งเราคาดการณ์ว่าเป็นผลมาจากเงินทุนที่ไหลออกบางส่วนจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในช่วงประมาณตีหนึ่งคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักประเด็นดังกล่าวเป็นหลักในการเปิดสถานะซื้อขายในวันนี้มากกว่าปัจจัยภายในประเทศซึ่งยังคงไร้ปัจจัยบวกตลอดเดือนมีนาคม ประกอบกับค่าเงินบาทที่ยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าและราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 USD/bbl • Strategy : Wait & See ไม่เปิดสถานะการลงทุน, ติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดช่วงตีหนึ่งตามเวลาไทย ปัจจัยที่ต้องติดตาม - แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ - ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 USD/bbl จำกัดกรอบกลุ่มพลังงานภายในประเทศ ข่าวในประเทศ - จีดีพี'เอสเอ็มอี'ปี 59 พุ่ง 4.8% : สสว. เปิดเผยว่า มูลค่าจีดีพีเอสเอ็มอี ในปี 2559 สูงถึง 6.04 ล้านล้านบาท โดยขยายตัว 4.8% จากปี 2558 ซึ่งยังคงสูงกว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศที่ขยายตัว 3.2% และมีสัดส่วนต่อจีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้นจาก 41.2% เป็น 42.1% จากปีก่อนหน้า โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 เอสเอ็มอีเติบโต 4.1% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 3/2559 ที่ขยายตัว 5.0% - ฟันธงเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่หวือหวา เชื่อสหรัฐฯ ห่วงสูญกำไรลงทุนนอก : ธนาคารกสิกรไทยเปิดเผยในงานสัมมนา "มุมมองเศรษฐกิจและค่าเงินไตรมาสแรก" ว่าธนาคารยังคงประมาณการจีดีพีปี 60 ที่ 3.3% ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยแรงส่งสำคัญช่วงไตรมาสแรกปีนี้ คือการขยายตัวของการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องแต่การลงทุนภาครัฐยังล่าช้าเพราะต้องรอการปฏิรูปให้แล้วเสร็จก่อน - (TTAH17)TTA ตุนเงินสดพร้อมลงทุน : TTA เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากพิซซ่าฮัท ในเดือน มิ.ย. หลังบริษัท พีเอซ แคปปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนกับ TTA เข้าไปถือหุ้น 70% ซื้อขายสินทรัพย์ร้านพิซซ่าฮัทในประเทศไทยจากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ ปัจจุบันพิซซ่าฮัทมีจำนวนสาขาทั้งหมด 92 แห่ง โดยมีแผนในระยะ 4-5 ปี จะเพิ่มสาขาอีก 100 แห่ง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

(เช้า) ราคาเปิด Futures วันที่ 15 มีนาคม 2560

Spot 1,200.81(+2.48) THB 35.25(-0.05) EU/TH 37.4285(+0.0034) Gold Traders 20,000(-50) GFJ17 20,190(-50) S50H17 975.6(-0.9)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 14 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 14 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ตลาดยังคงเฝ้ารอเฟด ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,204.22 USD/toz มีแรงขายกดดันอย่างต่อเนื่องระหว่างวันก่อนลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 1,200.04 USD/toz ซึ่งเรามองว่าเป็นระดับที่มีนัยสำคัญต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนในตลาด โดยภาพรวมสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตลอดสัปดาห์นี้เราคาดว่ามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวอย่างผันผวนและอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกที่เข้ามกระทบทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ด้านปัจจัยบวกคงนี้มีเพียงประเด็นการเลือกตั้งฝั่งยุโรป (ประเทศเนเธอร์แลนด์) ซึ่งเข้ามาเป็นประเด็นที่กระตุ้นความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง(เราให้น้ำหนักเพียงระยะสั้นเท่านั้น) ซึ่งสะท้อนผ่านการเข้าซื้อสุทธิในทองคำของนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ซึ่งมีสถานะซื้อสุทธิเมื่อวานนี้กว่า 6.81 ตัน รวมถือครองทองคำสุทธิที่ 832.03 ตัน ถือว่าเป็นมุมมองที่มีนัยสำคัญเหมือนส่งสัญญาณบางอย่าง ในส่วนของปัจจัยลบก็คงจะหนีไม่พ้นประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดขึ้นในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - ราคาทองคำทรงตัว/ตลาดรอดูประชุมเฟดและการเลือกตั้งเนเธอร์แลนด์ : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับลง 92 เซนต์ สู่ 1,203.55 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้ แต่ราคาทองก็ได้รับแรงหนุนในเวลาเดียวกันจากการเลือกตั้งในยุโรป ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 1.70 ดอลลาร์ ที่ 1,203.10 USD/toz - ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวขณะนักลงทุนจับตาการประชุมเฟด : ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในวันจันทร์โดยฟื้นตัวหลังจากร่วงลงในวันศุกร์ แม้รายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินที่ 101.33 จุด - ตลาดเก็งเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหนุนบอนด์ยิลด์ปรับตัวขึ้น : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบ ี้ยในวันพุธนี้ โดยความวิตกที่ว่าเฟดอาจจะบ่งชี้ถึงอัตราการขึ้นดอกเบี้ย ในอนาคตแบบเชิงรุกมากขึ้นและการขายหุ้นกู้เอกชนใหม่ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดที่ 96-48/256 โดยมีผลตอบแทน 3.1988% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิด ที่ 96-216/256 โดยมีผลตอบแทน 2.613% - น้ำมันดิบปรับลดลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดขยับลดลงเล็กน้อย ในวันจันทร์หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนในระหว่างวัน ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการพุ่งขึ้นของอุปทานน้ำมันดิบ สหรัฐฯ อาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก ในการจำกัดปริมาณการผลิต น้ำมันและในการบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาดโลก ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 9 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 48.40 USD/bbl ประเด็นที่ต้องติดตาม: - การประชุมเรื่องการอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ - การเลือกตั้งฝั่งยุโรป (ประเทศเนเธอร์แลนด์) คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position น่าสนใจมากกว่าแต่ต้องพิจารณาแรงซื้อ ณ ระดับราคาที่ 1,200 USD/toz ไว้ด้วย [/color] [color=#0066FF] อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]